backup og meta

อาการคันในผู้ป่วยโรคเบาหวาน กับวิธีดูแลผิวให้ชุ่มชื้นและปลอดภัย

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย พลอย วงษ์วิไล


เขียนโดย จินดารัตน์ สิริวิจักษณ์ · แก้ไขล่าสุด 13/09/2023

    อาการคันในผู้ป่วยโรคเบาหวาน กับวิธีดูแลผิวให้ชุ่มชื้นและปลอดภัย

    อาการคันในผู้ป่วยโรคเบาหวาน เป็นอาการที่ยากจะหลีกเลี่ยง เนื่องจากผู้ป่วยเบาหวานส่วนใหญ่มักจะมีสภาพผิวหนังที่ค่อนข้างแห้ง เนื่องจากภาวะน้ำตาลในเลือดสูงทำให้การหมุนเวียนของเลือดทำงานได้ไม่ดีนัก ส่งผลต่อสภาพผิวหนัง รวมทั้งอาจทำให้ติดเชื้อง่าย และหายจากแผลยาก ทั้งนี้ ผู้ป่วยอาจหาวิธีบรรเทาอาการในเบื้องต้นรวมทั้งเคล็ดลับดูแลผิวให้ชุ่มชื้นขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงอาการแทรกซ้อนจากโรคผิวหนัง

    อาการคันในผู้ป่วยโรคเบาหวาน

    โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่เกิดจากระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบรุนแรงต่ออวัยวะต่าง ๆ เช่น กระจกตา ไต  ปลายประสาท ผิวหนัง

    1 ใน 3 ผู้ป่วยโรคเบาหวาน มักมีอาการทางผิวหนัง เช่น คัน แห้ง แต่อาการที่ร้ายแรงที่สุด ได้แก่ แผลเรื้อรังที่หายยาก เนื่องจากเป็นผลมาจากกระบวนการสมานแผลของร่างกายที่ไม่มีประสิทธิภาพ แผลเหล่านี้มักทำให้เกิดการติดเชื้อและอาจถึงขั้นต้องตัดอวัยวะส่วนนั้นทิ้งเพื่อไม่ให้อาการติดเชื้อลุกลามไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย

    วิธีป้องกันอาการคัน

    วิธีป้องกันอาการคัน และรักษาความชุ่มชื้น ไม่ให้ผิวแห้งกร้านมากนัก อาจลองปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังต่อไปนี้

    1. ควบคุมภาวะโรคเบาหวาน

    ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ให้บริการทางการแพทย์อย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอาหาร การออกกำลังกาย  และการใช้ยา เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้เหมาะสม เพราะหากระดับน้ำตาลอยู่ในภาวะปกติ อาการคันหรือปัญหาผิวหนังอาจลดลงหรืออย่างน้อยไม่รุนแรงมากขึ้น

    2. ทำความสะอาดผิวอย่างระมัดระวัง

    เริ่มต้นจากการอาบน้ำอุ่นและใช้สบู่ รวมทั้งยาสระผมซึ่งมีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้น และอ่อนโยนต่อสภาพผิวหนังและสภาพเส้นผม เพราะผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ไม่เหมาะสม จะยิ่งทำให้ผิวแห้งขึ้น และไม่ลืมที่จะล้างทำความสะอาดบริเวณซอกมุมต่าง ๆ เช่น ข้อพับที่แขน นิ้วเท้า ใต้ราวนม รักแร้ ให้สะอาด และซับให้แห้ง หากผิวแพ้ง่าย ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่ผสมน้ำหอม

    3. เพิ่มความชุ่มชื้น

    เมื่อผิวแห้งมาก มักมีแนวโน้มที่จะแตกและเกิดการติดเชื้อได้ง่าย ควรใช้ผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื้นและบำรุงผิวที่อ่อนโยน ควรทาโลชั่นหรือครีมหลังจากการอาบน้ำในขณะที่ผิวยังชุ่มชื้นอยู่ เพราะการเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวจะช่วยระงับอาการคัน ทำให้ไม่เกิดการเกา ยิ่งผิวแห้ง ยิ่งคัน และยิ่งเก่า จะยิ่งทำให้ผิวเสีย

    4. หลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้เกิดการระคายเคืองแก่ผิว

    รองเท้าอาจเพิ่มอาการบาดเจ็บให้กับเท้าของผู้ป่วยเบาหวานได้ หากเลือกใส่รองเท้าที่แข็ง หนา หรือคับจนเกินไป อาจทำให้เกิดการเสียดสีจนเจ็บ เป็นตุ่ม หรือตาปลาได้ ควรสวมรองเท้าที่เหมาะสมกับขนาดของเท้าและใช้วัสดุที่ไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองได้ง่าย ทางที่ดีควรปรึกษาคุณหมอหรือผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับรองเท้าที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน

    นอกจากนั้น การใส่เสื้อผ้าที่หยาบกระด้าง หนา มีพื้นผิวของเนื้อผ้าที่ไม่เรียบอาจทำให้เกิดการระคายเคืองแก่ผิวได้ ควรสวมเสื้อผ้าที่ผลิตจากเส้นใยที่เรียบและเบาสบาย เช่น ฝ้าย  และควรระมัดระวังเกี่ยวกับผงซักฟอกที่ใช้ทำความสะอาดเสื้อผ้า หากพบว่าหลังซักมีอาการคัน หรือไม่สบายตัว ควรอาบน้ำและอาจเปลี่ยนยี่ห้อผงซักฟอกไปใช้ชนิดที่อ่อนโยนต่อผิว หรือสำหรับเด็กแทน

    5. หลีกเลี่ยงการเกิดภาวะขาดน้ำ

    ควรรักษาสภาพอากาศในบ้านให้ชุ่มชื้นโดยเฉพาะระหว่างฤดูที่อากาศแห้ง อาจใช้เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศ นอกจากนั้น ควรรักษาความชุ่มชื้นของร่างกายและหลีกเลี่ยงการออกแดดหรืออยู่ในห้องปรับอากาศนานเกินไปเนื่องจากทำให้ผิวแห้งได้  ที่สำคัญ ต้องดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    พลอย วงษ์วิไล


    เขียนโดย จินดารัตน์ สิริวิจักษณ์ · แก้ไขล่าสุด 13/09/2023

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา