สรรพคุณของ Morinda อะไรบ้าง
Morinda เป็นพืชของประเทศจีน และมีชื่อจีนว่า Ba Ji Tian สามารถรักษาโรคและอาหารต่างๆได้ดังนี้
- โรคโคลิค
- อาการชัก
- ไอ
- โรคเบาหวาน
- การถ่ายปัสสาวะลำบาก
- ปวดประจำเดือน
- โรคตับ
- ท้องผูก
- อาการตกขาวขณะตั้งครรภ์
- ไข้มาเลเรีย
- อาการคลื่นไส้
- โรคฝีดาษ
- ม้ามโต
- อาการบวมอักเสบ
- โรคหืด
- ไขข้ออักเสบ
- โรคมะเร็ง
- ต้อกระจก
- ปัญหาในการย่อยอาหาร
- โรคแผลเปบติค
- ความดันโลหิตสูง
- การติดเชื้อ
- โรคไต
- ไมเกรน
- อาการก่อนมีประจำเดือน
- โรคหลอดเลือดสมองแตก
- การกดประสาท
- โรคหัวใจ
- AIDS
- โรคหลอดเลือดแดงแข็ง
- ความผิดปกติของระบบไหลเวียน
- ติดยา
เปลือกของ Morinda นำไปใช้ในการคลอดเด็กแรกเกิด สามารถใช้ทาผิวหนังได้เพื่อให้เกิดความชุ่มชื้น ชะลอความอ่อนวัย นอกจากนี้ Morinda ยังสามารถนำไปใช้ในด้านอื่นๆได้อีกหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมควรปรึกษาแพทย์ เภสัชกร และผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร
กลไกการทำงาน Morinda เป็นอย่างไรบ้าง
Morinda มีสารเป็นส่วนประกอบมากมาย เช่น โพแทสเซียม เป็นต้น บางสารสามารถช่วยซ่อมแซมเซลล์ในร่างกาย กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันและระบบอื่นๆ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ข้อควรระวังในการใช้ Morinda
สิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้ Morinda มีอะไรบ้าง?
หากคุณมีคุณสมบัติหรืออาการตามด้านล่างนี้ควรปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรก่อนทาน
- ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ยาที่จะสามารถรับประทานได้ควรมีแพทย์สั่งจ่ายเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามก็ยังไม่มีงานวิจัยใดที่ยืนยันว่าสามารถทานได้ในช่วงนี้ เพราะฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงจะดีกว่า
- ทานยาอื่นๆอยู่ ที่ไม่ได้รับการสั่งจ่ายจากแพทย์
- มีอาการแพ้สารใน Morinda ยาและสมุนไพรต่างๆ
- ภูมิแพ้ชนิดอื่นๆเช่น แพ้อาหาร แพ้สีย้อมผม แพ้วัตถุกันเสีย หรือแพ้สัตว์ต่างๆ เป็นต้น
โดยทั่วไปแล้ว ข้อตกลงเกี่ยวกับสมุนไพรจะมีข้อจำกัดน้อยกว่ายารักษาโรค แต่ยังคงเน้นความปลอดภัยอ้างอิงโดยงานวิจัยต่างๆซึ่งข้อได้เปรียบของการทานสมุนไพรเสริมคือการทราบถึงความเสี่ยงอันตรายที่จะเกิดขึ้นก่อนการใช้จริง ทั้งนี้ทั้งนั้นควรปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร
การใช้ประโยชน์จาก Morinda ให้ปลอดภัยควรทำอย่างไร?
ช่วงตั้งครรภ์และให้นมบุตร : ไม่ควรทานทาน Morinda ขณะตั้งครรภ์อาจทำให้แท้งได้และตอนให้นมบุตรด้วยเช่นกัน ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลใดที่ระบุถึงการใช้สมุนไพรนี้ในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตรได้อย่างปลอดภัย ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนการใช้งาน
ผลข้างเคียงของ Morinda
ผลข้างเคียงจากการทาน Morinda มีอะไรบ้าง
การทาน ชาและน้ำผลไม้ที่ผสม Morinda อาจส่งผลเสียต่อตับได้ ผลข้างเคียงดังกล่าวอาจไม่เกิดกับทุกคนและอาจมีผลข้างเคียงอื่นๆหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร
ปฏิกิริยาระหว่างยาของ Morinda มีอะไรบ้าง
การทานสมุนไพรนี้อาจมีผลต่อยาที่ทานในปัจจุบัน ดังนั้นควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรและแพทย์ก่อนใช้ ยาที่สามารถทำปฏิกิริยากับ Morinda และจะเกิดอาการต่างๆได้มีดังต่อไปนี้
ยาลดความดันโลหิตสูง : โดยปกติ ยาลดความดันโลหิตจะสร้างโพแทสเซียมในร่างกายอยู่แล้ว หากทาน Morinda เพิ่มไปอาจเกิดภาวะ โพแทสเซียมในร่างกายมีมากเกินไป
ตัวอย่างยาลดความดันโลหิตสูงมีดังนี้
- ยาแคปโตพริล(Capoten), ยาอีนาลาพริล (Vasotec), ยาลิซิโนพริล (Prinivil, Zestril), ยารามิพริล (Altace)
- ยาลอซาร์แทน (Cozaar), ยาวาลซาร์แทน (Diovan), ยาเออร์บีซาร์แทน (Avapro), ยาแคนดีซาร์แทน(Atacand), ยาเทลมิซาร์แทน (Micardis), ยาอีโพรซาร์แทน ( (Teveten) เป็นต้น
ยาที่เป็นอันตรายต่อตับ :
Morinda มีฤทธิ์เป็นอันตรายต่อตับอยู่แล้ว หากทานยาจำพวกที่เป็นอันตรายต่อตับไปด้วยอีกจะทำให้ร่างกายทำงานหนัก
ตัวอย่างยาที่เป็นอันตรายต่อตับมีดังนี้ ยาอะเซตามิโนเฟน (Tylenol and others), ยาอะมิโอดาโรน (Cordarone), ยาคาร์บามาเซพีน (Tegretol), ยาไอโซไนอาซิด (INH), ยาเมโธเทรกเซท (Rheumatrex), ยาเมทิลโดปา (Aldomet), ยาฟลูโคนาโซล(Diflucan), ยาไอทราโคนาโซล (Sporanox), ยาอิริโทรมัยซิน (Erythrocin, Ilosone, others), ยาเฟนิโทอิน(Dilantin),ยาโลวาสแตติน (Mevacor), ยาปราวาสแตติน (Pravachol), ยาซิมวาสแตติน (Zocor) เป็นต้น
ยาวาร์ฟาริน (Coumadin) : ยาวาร์ฟารินทำให้การไหลของเลือดช้าลง การทาน Morinda ไปด้วยจะทำประสิทธิภาพตัวยานี้และทำให้เลือดไหลเร็วขึ้น
ยาขับปัสสาวะ : Morinda และยาขับปัสสาวะสามารถสร้างโพแทสเซียมได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นการทานสองอย่างนี้พร้อมกันจะทำให้โพแทสเซียมในร่างกายมีมากเกินไป ตัวอย่างตัวยาของยาขับปัสสาวะมีดังนี้ ยาอะมิโลไรด์(Midamor), ยาสไปโรโนแลคโตน (Aldactone) และยาไตรแอมเทอรีน (Dyrenium)เป็นต้น
ไตอักเสบ : การที่ Morinda สารถสร้างโพแทสเซียมขึ้นมาในร่างกายมากจะส่งผลกระทบต่อไตโดยตรง
ตับอักเสบ : ควรหลีกเลี่ยงการทาน Morinda หากมีปัญหาเกี่ยวกับตับอยู่แล้ว
ปริมาณการทาน Morinda
ข้อมูลนี้ไม่ใช้คำแนะนำทางการแพทย์ ดังนั้นควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรและแพทย์ก่อนทาน Morinda
ปริมาณการทาน Morinda ที่เหมาะสม
สำหรับผู้ใหญ่อายุ 18 ปีขึ้นไป
สามารถทาน Morinda ได้สูงสุด 18.4 milligrams ต่อ 1 น้ำหนัก 1 กิโลกรัม
สำหรับป้องการโรคมะเร็ง:
- น้ำผลไม้ Morinda: ควรทาน 2-10 grams ต่อวัน
- แคปซูล Morinda: ควรทาน 2 gram สองครั้งต่อวัน หรืออาจจะเพิ่มวันละ 2 grams และสูงสุดได้ 12 grams สี่ครั้งต่อวัน
สำหรับโรคกระดูกสันหลังส่วนคอเสื่อม:
- ทานน้ำผลไม้ Morinda เป็นเวลา 4 สัปดาห์ช่วยทำให้ร่างกายดีขึ้น
สำหรับผู้มีปัญหาทางการได้ยิน:
- ทาน Morinda ปริมาณ 2 ounces สองครั้งต่อวันเป็นเวลา 3 เดือน
สำหรับการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
- ควรทานน้ำผลไม้Tahitian
สำหรับผู้ที่เลี่ยงอาการคลื่นไส้ที่เกิดจากการผ่าตัด:
- ควรทานสารสกัดปริมาณ 150-600 milligrams (มีสารสโคโปเลตินเป็นส่วนประกอบ 1.716-8.712 micrograms) ก่อนผ่าตัด 1 ชั่วโมง
สำหรับผู้ที่ติดเชื้อปรสิต:
- ทายาขี้ผึ้งที่มีส่วนประสมของต้นยอ 1 เปอร์เซ็นต์ บริเวณแผลวันลัสามเวลาติดต่อกัน 6 สัปดาห์
สำหรับเด็กที่อายุต่ำกว่า 18ปี
สามารถทาน Morinda ได้สูงสุด 11.5 milligrams ต่อน้ำหนัก 1 กิโลกรัม
ปริมาณที่ได้รับอาจแตกต่างในแต่ละคนซึ่งขึ้นอยู่กับ อายุ สุขภาพ เป็นต้น ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรและแพทย์เกี่ยวกับปริมาณที่ควรจะได้รับเนื่องจากสมุนไพรเสริมไม่ได้ปลอดภัยเสมอไป ดังนั้นควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรและแพทย์เกี่ยวกับปริมาณที่ควรจะได้รับเนื่องจากยาสมุนไพรไม่ได้ปลอดภัยเสมอไป
รูปแบบของ Morinda เป็นอย่างไร
Morinda จะได้รับการบรรจุตามรูปแบบด้านล่างนี้
- สารสกัดเหลว Morinda
- แคปซูล Morinda
***Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ วินิจฉัยหรือการรักษาแต่อย่างใด***
[embed-health-tool-bmi]