ตรวจวินิจฉัยดวงตาโดยการฉีดสี (Eye Angiogram) เป็นหัตถการเพื่อตรวจวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับดวงตา โดยการฉีดสีฟลูออเรสเซนต์เข้าไปในกระแสเลือด เพื่อให้สามารถถ่ายภาพติดได้
ข้อมูลพื้นฐาน
ตรวจวินิจฉัยดวงตาโดยการฉีดสี (Eye angiogram) คืออะไร
การตรวจวินิจฉัยดวงตาโดยการฉีดสี (Fluorescein angiogram) เป็นหัตถการเพื่อตรวจวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับดวงตา โดยการฉีดสีฟลูออเรสเซนต์เข้าไปในกระแสเลือด สีฟลูออเรสเซนต์จะทำให้เกิดสีที่หลอดเลือดบริเวณด้านหลังดวงตาเพื่อให้สามารถถ่ายภาพติดได้
การทดสอบนี้มักใช้เพื่อจัดการอาการผิดปกติเกี่ยวกับดวงตา โดยแพทย์อาจสั่งให้มีการทดสอบเพื่อยืนยันการวินิจฉัย เพื่อกำหนดวิธีการรักษาที่เหมาะสม หรือเพื่อเฝ้าระวังอาการเกี่ยวกับหลอดเลือดบริเวณด้านหลังดวงตา
ความจำเป็นใน การตรวจวินิจฉัยดวงตาโดยการฉีดสี
การทดสอบดำเนินการเพื่อดูว่า มีกระแสเลือดที่เหมาะสม ในหลอดเลือดด้านหลังดวงตาทั้งสองชั้นหรือไม่ (The retina and choroid) และการทดสอบนี้ยังสามารถใช้เพื่อวินิจฉัยปัญหาในดวงตา เพื่อดูว่าการรักษาดวงตาบางประเภทได้ผลดีหรือไม่
ข้อควรรู้ก่อนการตรวจ
ข้อควรรู้ก่อนตรวจจอประสาทตา
แพทย์ส่วนใหญ่ไม่สนับสนุนให้ใช้ การตรวจวินิจฉัยดวงตาโดยการฉีดสี นี้กับหญิงตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรก เนื่องจากสีสามารถส่งต่อไปยังลูกผ่านทางน้ำนมได้ จึงไม่ปลอดภัยที่จะให้นมบุตรเป็นเวลา 24 ถึง 48 ชั่วโมงหลังการทดสอบนี้ และควรใช้อุปกรณ์ปั๊มนมให้เกลี้ยงเต้า และทิ้งนมที่ปั๊มออกมาจนกว่าจะปลอดภัย แล้วจึงเริ่มให้นมบุตรอีกครั้ง หรืออาจต้องปั๊มและเก็บน้ำนมเป็นเวลาหลายวัน ก่อนการทดสอบ หรือใช้นมผงในระหว่างช่วงเวลานี้
สีที่ฉีดเข้าไปจะถูกกรองผ่านไตและขับออกจากร่างกาย ผ่านทางปัสสาวะภายในเวลาประมาณ 48 ชั่วโมง โดยปัสสาวะอาจมีสีเหลืองหรือสีส้มสว่าง และสีที่เรียกว่า Indocyanine green พบว่าให้ผลดีกว่าในการตรวจหาอาการผิดปกติเกี่ยวกับดวงตาบางประเภท และอาจใช้แทนสารฟลูออเรสซีน เพื่อให้แพทย์สามารถดูได้ว่าหลอดเลือดใต้เรตินารั่วหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ผลการทดสอบ การตรวจวินิจฉัยดวงตาโดยการฉีดสี อาจแปลผลได้ยากในผู้ป่วยต้อกระจก (Cataracts)
ขั้นตอนการตรวจ
การเตรียมตัวก่อนการ ตรวจวินิจฉัยดวงตาโดยการฉีดสี
- ผู้ที่ทำ การตรวจวินิจฉัยดวงตาโดยการฉีดสี จำเป็นต้องมีคนมารับและขับรถพากลับบ้าน เนื่องจากรูม่านตาจะขยายเป็นเวลาถึง 12 ชั่วโมงหลังการทดสอบ
- ก่อนเข้ารับการทดสอบ ให้แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาที่แพทย์สั่ง หรือซื้อมาใช้เองใด ๆ และอาหารเสริมสมุนไพรที่ใช้อยู่ ทั้งยังควรแจ้งแพทย์ หากแพ้ไอโอดีน
- หากใส่คอนแทคเลนส์ ต้องถอดออกก่อนเข้ารับการทดสอบ
ขั้นตอน การตรวจวินิจฉัยดวงตาโดยการฉีดสี
- คุณจะได้รับยาหยอดตาเพื่อขยายรูม่านตา โดยต้องวางคางไว้บนที่วางคางที่ติดตั้งกล้องและหน้าผากพิงอุปกรณ์กั้นเพื่อให้ศีรษะอยู่นิ่งในระหว่างการทดสอบ
- แพทย์จะถ่ายภาพภายในดวงตา หลังจากถ่ายภาพดวงตาในกลุ่มแรก สีที่เรียกว่าฟลูออเรสซีนจะถูกฉีดเข้าไปในหลอดเลือด ซึ่งมักเป็นบริเวณส่วนโค้งของคิ้ว แล้วกล้องชนิดพิเศษจะถ่ายภาพในขณะที่สีเคลื่อนตัวผ่านหลอดเลือดที่ด้านหลังดวงตา
หลัง การตรวจวินิจฉัยดวงตาโดยการฉีดสี
- ผู้ที่ทำ การตรวจวินิจฉัยดวงตาโดยการฉีดสี อาจมองเห็นไม่ชัดเป็นเวลาถึง 12 ชั่วโมง
- คุณไม่ควรขับรถจนกว่าผลของยาหยอดตาขยายรูม่านตาจะหมดฤทธิ์ ควรหาคนขับรถไปส่งที่บ้าน
- คุณควรสวมใส่แว่นตากันแดดจนกว่ารูม่านตาจะเป็นขนาดปกติ แสงสว่างและแสงแดดจ้าอาจเป็นอันตรายต่อดวงตาได้
ผลการตรวจ
ผลของ การตรวจวินิจฉัยดวงตาโดยการฉีดสี
การตรวจวินิจฉัยดวงตาโดยการฉีดสี จะใช้เวลาประมาณ 30 นาที โดยปกติแพทย์มักแจ้งผลการทดสอบหลังการทดสอบไม่นาน
การตรวจจอประสาทตา
ค่าปกติ:
- สีไหลผ่านหลอดเลือดในเรตินาโดยไม่ล่าช้า
- ไม่มีรอยรั่วหรือการอุดกั้น
ค่าผิดปกติ:
- สีไหลผ่านหลอดเลือดช้ามาก
- การไหลของสีถูกขัดขวาง
- สีรั่วจากหลอดเลือด
- สีเกิดการรวมตัวในเนื้อเยื่อโดยรอบดวงตาหรือในจุดบอด
จากผล การตรวจวินิจฉัยดวงตาโดยการฉีดสี ในห้องปฏิบัติการและโรงพยาบาล ค่าปกติสำหรับการตรวจวินิจฉัยดวงตา อาจมีความหลากหลาย โปรดปรึกษาแพทย์หากมีคำถามใดๆ เกี่ยวกับผลการทดสอบ
หากมีคำถามใดๆ เกี่ยวกับการวินิจฉัยดวงตา โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อให้เข้าใจคำแนะนำของแพทย์ได้ดีขึ้น
[embed-health-tool-bmi]