backup og meta

ตรวจหาปริมาณเชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV Viral Load Measurement)

ตรวจหาปริมาณเชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV Viral Load Measurement)

ตรวจหาปริมาณเชื้อไวรัสเอชไอวี เป็นการวัดจำนวนไวรัสเอชไอวีในเลือด มีการเริ่มตรวจวัดค่าไวรัสเอชไอวี เมื่อคุณได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อไวรัสเอชไอวี

ข้อมูลพื้นฐาน

การตรวจหาปริมาณเชื้อไวรัสเอชไอวี คืออะไร

การตรวจหาปริมาณเชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV Viral Load Measurement) เป็นการวัดจำนวนไวรัสเอชไอวี (Human Immunodeficiency Virus: HIV) ในเลือด มีการเริ่มตรวจวัดค่าไวรัสเอชไอวี เมื่อคุณได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อไวรัสเอชไอวี การตรวจวัดในเบื้องต้นนี้เป็นค่าบรรทัดฐาน และการตรวจวัดค่าไวรัสเอชไอวีในอนาคต

นำมาเปรียบเทียบกับค่าบรรทัดฐานนี้ เนื่องจากค่าไวรัสเอชไอวีสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในแต่ละวัน แนวโน้มค่าไวรัสเมื่อเวลาผ่านไป จะใช้เพื่อดูว่า การติดเชื้อมีอาการแย่ลงหรือไม่ หากค่าไวรัสเอชไอวีของคุณแสดงให้เห็นการเพิ่มขึ้นอย่างคงที่ในการวัดหลายครั้ง หมายความว่าการติดเชื้อมีอาการแย่ลง หากแนวโน้มค่าไวรัสเอชไอวีมีค่าลดลงในการวัดหลายครั้ง หมายความว่าการติดเชื้อถูกควบคุมไว้

มีการตรวจวัดค่าไวรัสเอชไอวีโดยใช้การทดสอบหนึ่งในสามประเภทดังต่อไปนี้

  • การตรวจ Reverse-transcriptase polymerase chain reaction (RT-PCR)
  • การตรวจ Branched DNA (bDNA)
  • การตรวจ Nucleic acid sequence-based amplification (NASBA)

การตรวจเหล่านี้เป็นการวัดจำนวนสารพันธุกรรม (RNA) ของไวรัสเอชไอวีในเลือด แต่การตรวจแต่ละประเภทมีรายงานผลการตรวจแตกต่างกัน จึงเป็นสิ่งสำคัญในการใช้ผลการตรวจเดิมเมื่อเวลาผ่านไป

เหตุผลในการ ตรวจหาปริมาณเชื้อไวรัสเอชไอวี

โอกาสที่คุณจำเป็นต้องเข้ารับการทดสอบค่าไวรัสเอชไอวี ได้แก่

  • หลังการวินิจฉัย เรียกว่าการวัดค่าบรรทัดฐาน (baseline measurement) สามารถใช้เปรียบเทียบกับผลการตรวจวัดในอนาคตได้
  • ทุก ๆ สองถึงแปดสัปดาห์ในการเริ่มต้นการรักษา หรือเมื่อการรักษามีการเปลี่ยนแปลง ช่วยประเมินประสิทธิภาพในการออกฤทธิ์ของยา
  • ทุก ๆ สามถึงหกเดือนหรือตามที่แพทย์สั่งหากการรักษามีประสิทธิภาพ

แพทย์อาจพิจารณาค่าไวรัสเอชไอวีของคุณ ร่วมกับปัจจัย CD4+ count เพื่อตัดสินใจว่าจะเริ่มใช้ยาต้านรีโทรไวรัสเมื่อใด

ข้อควรทราบก่อนตรวจ

ข้อควรทราบก่อนการ ตรวจหาปริมาณเชื้อไวรัสเอชไอวี

  • ผลจากวิธีการตรวจวัดต่าง ๆ (RT-PCR, bDNA, NASBA) เพื่อตรวจวัดค่าไวรัสเอชไอวีไม่สามารถสับเปลี่ยนได้ จึงเป็นสิ่งจำเป็นในการใช้วิธีเดิมในการตรวจวัดในแต่ละครั้ง
  • ผลการตรวจวัดค่าไวรัสเอชไอวี ที่ไม่สามารถตรวจจับได้ ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่มีไวรัสเอชไอวีในเลือดอีกต่อไป แค่หมายความว่าจำนวนไวรัสเอชไอวีในเลือดมีค่าต่ำเกินไป ในการตรวจจับจากการตรวจวัดได้ เชื้อเอชไอวียังคงสามารถแพร่กระจายไปยังคนอื่นได้ แม้กระทั่งเมื่อค่าไวรัสเอชไอวีไม่สามารถตรวจจับได้
  • การตรวจวัดค่าไวรัสเอชไอวีไม่ได้ใช้เป็นปกติในการวินิจฉัยการติดเชื้อเอชไอวี การทดสอบแอนติบอดีเอชไอวีใช้เพื่อวัตถุประสงค์นี้
  • การตรวจวัดค่าไวรัสเอชไอวีด้วยวิธี PCR มีความอ่อนไหวมาก ซึ่งสามารถทำให้ได้ผลตรวจที่มีค่าบวกที่เป็นเท็จได้มากขึ้นมีหลายวิธีในการตรวจวัดค่าไวรัสเอชไอวี ซึ่งผลการตรวจไม่สามารถสับเปลี่ยนได้ จึงเป็นสิ่งสำคัญในการใช้ผลการตรวจเดิมในแต่ละครั้ง

ขั้นตอนการ ตรวจหาปริมาณเชื้อไวรัสเอชไอวี

การเตรียมตัวเพื่อ การตรวจหาปริมาณเชื้อไวรัสเอชไอวี

  • คุณไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวใด ๆ ก่อนเข้ารับการทดสอบนี้

ขั้นตอน การตรวจหาปริมาณเชื้อไวรัสเอชไอวี

  • แพทย์จะทำความสะอาดบริเวณขนาดเล็ก ที่แขนหรือข้อศอก ด้วยผ้าเช็ดฆ่าเชื้อหรือแผ่นเช็ดแอลกอฮอล์ ในบางกรณี แพทย์จะพันแผ่นอิลาสติกรอบแขนส่วนบนเพื่อเพิ่มกระแสเลือด ทำให้การสะสมตัวของเลือดจากหลอดเลือดดำเป็นไปได้มากขึ้น
  • แล้วแขนจะถูกแทงเบา ๆ ด้วยเข็มที่แพทย์สอดเข้าไปในหลอดเลือดดำ หลอดที่ใช้เก็บตัวอย่างเลือดเชื่อมติดกับปลายเข็มอีกด้านหนึ่ง
  • เมื่อนำตัวอย่างเลือดออกมาเพียงพอ แพทย์จะนำเข็มออกแล้วแพทย์จะใช้สำลีหรือผ้าพันแผลเพื่อห้ามเลือด ในบริเวณที่เข็มเจาะเข้าไปในผิวหนัง

หลังการตรวจหาปริมาณเชื้อไวรัสเอชไอวี

หลังจากการ ตรวจหาปริมาณเชื้อไวรัสเอชไอวี คุณจะได้รับการนัดหมายให้มารับผลการทดสอบ แพทย์จะอธิบายความหมายของผลการทดสอบสำหรับคุณ คุณควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

ผลการตรวจ

ผลการตรวจหาปริมาณเชื้อไวรัสเอชไอวี

ผลการตรวจสามารถรับได้ภายในเวลาถึง 2 สัปดาห์

ค่าปกติที่ระบุไว้ ณ ที่นี้ ซึ่งเรียกว่า ค่าอ้างอิง (reference range) เป็นเพียงแนวทางเท่านั้น ค่าเหล่านี้เปลี่ยนแปลงไปตามห้องปฏิบัติการและขึ้นอยู่กับวิธีการทดสอบที่ใช้ (RT-PCR, bDNA, NASBA) ห้องปฏิบัติการของคุณอาจมีค่าปกติที่แตกต่างออกไป รายงานจากห้องปฏิบัติการควรมีช่วงค่าที่ห้องปฏิบัติการของคุณใช้ นอกจากนี้ แพทย์จะประเมินผลการตรวจของคุณโดยยึดตามสุขภาพของคุณและปัจจัยอื่นๆ หมายความว่าค่าที่อยู่นอกเหนือจากค่าปกติที่ระบุไว้ ณ ที่นี้ อาจยังคงเป็นค่าปกติสำหรับคุณและห้องปฏิบัติการของคุณ

ผลการตรวจวัดค่าไวรัสเอชไอวี มีการรายงานเป็นจำนวนของสำเนาไวรัสเอชไอวีในเลือดในหน่วยมิลลิลิตร (copies/mL) ไวรัสแต่ละตัวเรียกว่า “สำเนา’ เนื่องจากไวรัสเอชไอวีมีการเพิ่มจำนวน ด้วยการสำเนาตัวเอง (replicating)

ค่าไวรัสเอชไอวี ค่าปกติ: ตรวจไม่พบไวรัสเอชไอวีในเลือด

ค่าไม่ปกติ: ตรวจพบไวรัสเอชไอวีในเลือด แพทย์จะเปรียบเทียบผลการตรวจวัดในปัจจุบันกับผลการตรวจวัดก่อนหน้านี้

หากค่าไวรัสเอชไอวีของคุณเพิ่มขึ้น หมายความว่าการติดเชื้อมีอาการแย่ลง หากแนวโน้มค่าไวรัสเอชไอวีมีค่าลดลง หมายความว่าการติดเชื้อถูกควบคุมไว้

จากผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการและโรงพยาบาล ค่าปกติสำหรับการตรวจวัดค่าไวรัสเอชไอวีอาจมีความหลากหลาย โปรดปรึกษาแพทย์หากมีคำถามใดๆ เกี่ยวกับผลการทดสอบ

หากมีคำถามใดๆ เกี่ยวกับการตรวจวัดค่าไวรัสเอชไอวี โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อให้เข้าใจคำแนะนำสำหรับคุณได้ดีขึ้น

Hello Health Group ม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค และการรักษาโรคแต่อย่างใด

[embed-health-tool-bmi]

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

HIV Viral Load. https://labtestsonline.org/understanding/analytes/viral-load/tab/test#is. Accessed July 4, 2016.

Viral Load Measurement. http://www.webmd.com/hiv-aids/viral-load-measurement?print=true. Accessed July 4, 2016.

HIV Viral Load Testing. http://www.webmd.com/hiv-aids/hiv-viral-load-what-you-need-to-know?print=true. Accessed July 4, 2016.

เวอร์ชันปัจจุบัน

30/11/2020

เขียนโดย ธีรวิทย์ บุญราศรี

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ

อัปเดตโดย: Nattrakamol Chotevichean


บทความที่เกี่ยวข้อง

ติดเชื้อฉวยโอกาส โรคแทรกซ้อนในผู้ป่วยเอชไอวีที่พบได้บ่อย

ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับเชื้อ เอชไอวี / เอดส์ ที่ควรทำความเข้าใจเสียใหม่


ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย ธีรวิทย์ บุญราศรี · แก้ไขล่าสุด 30/11/2020

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา