หัวร้อน ไม่ได้หมายถึงศีรษะที่ร้อนเพราะสภาพอากาศร้อนอบอ้าวของเมืองไทย แต่หมายถึงอาการหงุดหงิดหรือโกรธซึ่งอาจเกิดจากปัญหาชีวิต การทำงาน ปัญหาสุขภาพ ปัญหาสุขภาพจิตหรือจากสาเหตุอื่น ๆ จนบางคนอาจแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวต่อผู้อื่นทั้งทางวาจาและทางกาย ดังนั้น การเรียนรู้วิธีควบคุมอารมณ์ตัวเองและวิธีรับมือเมื่อต้องอยู่กับคนหัวร้อน จึงอาจช่วยให้หลายคนสามารถใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น
[embed-health-tool-heart-rate]
หัวร้อน เกิดจากอะไร
หัวร้อน คือ สภาวะทางอารมณ์ เช่น ความหงุดหงิด ความโกรธ ที่อาจเกิดจากหลายสาเหตุ โดยบางคนอาจมีอารมณ์หัวร้อนอย่างเฉียบพลันจากสิ่งยั่วยุเพียงเล็กน้อย หรือบางคนอาจเกิดจากการสะสมของอารมณ์ในอดีตจนถึงปัจจุบัน และแสดงออกมาเป็นอารมณ์โกรธเพียงชั่ววูบ จนอาจแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว เช่น การเหวี่ยงวีน การตะคอก ด่าทอ หรืออาจรุนแรงถึงขั้นทำร้ายร่างกายผู้อื่น แม้ว่าบุคคลนั้นจะเป็นคนกระทำผิดหรือไม่ก็ตาม
หัวร้อนเป็นปัญหาสุขภาพจิตหรือไม่
หัวร้อนเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดยอาจเกิดจากปัญหาในชีวิต ปัญหาสุขภาพ สุขภาพจิต หรือปัญหาอื่น ๆ ดังนี้
- ความเครียดในชีวิต เช่น การหย่าร่าง การทำงาน ฐานะทางการเงิน ความเหงา ความเหนื่อยล้า สิ่งเหล่านี้สามารถกระตุ้นทำให้เกิดอารมณ์หงุดหงิดและหัวร้อนได้
- การนอนหลับไม่เพียงพอ จากพฤติกรรมการใช้ชีวิตหรือภาวะสุขภาพ เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ปัญหาการนอนไม่หลับ สามารถทำให้ร่างกายอ่อนล้า กระตุ้นให้เกิดความเครียดมากขึ้นและอาจทำให้เกิดอารมณ์หงุดหงิดได้เช่นกัน
- การรับประทานคาเฟอีน เมื่อรู้สึกอ่อนเพลียหรือนอนหลับไม่เพียงพอ การรับประทานคาเฟอีนสามารถกระตุ้นให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นได้ แต่เมื่อคาเฟอีนหมดฤทธิ์ ความอ่อนเพลียก็จะกลับคืนมาซึ่งสามารถกระตุ้นความหงุดหงิดและทำให้หัวร้อนได้
- ปัญหาสุขภาพ เช่น ภาวะสมองเสื่อม กลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน (PMS) น้ำตาลในเลือดต่ำ ปัญหาการนอนหลับ ปัญหาต่อมไทรอยด์ การบาดเจ็บที่สมอง อาการปวดเรื้อรัง
- ปัญหาสุขภาพจิต เช่น โรคซึมเศร้า โรคไบโพลาร์ ความวิตกกังวล ภาวะถอนพิษสารเสพติด (Substance Withdrawal) โรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนใจ (Post-Traumatic Stress Disorder หรือ PTSD) ความเครียด โรคซึมเศร้าตามฤดูกาล (Seasonal Affective Disorder หรือ SAD)
วิธีควบคุมอารมณ์เพื่อจัดการกับอาการหัวร้อน
หากเจอปัญหามาตลอดทั้งวันหรือสภาพอากาศที่ร้อนจัดจนกระตุ้นให้เกิดอาการหงุดหงิดหัวร้อน สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
- หายใจเข้าออกช้า ๆ เมื่อรู้สึกหัวร้อนให้หายใจเข้าออกช้า ๆ จากนั้นนับ 1-10 หรือนับไปเรื่อย ๆ จนกว่าอารมณ์จะเย็นลง ซึ่งเป็นวิธีเบื้องต้นที่จะช่วยควบคุมอารมณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้นได้
- ปรับความคิดของตัวเองใหม่ เป็นวิธีการคิดบวกที่จะช่วยให้รู้สึกมีความสุขในการใช้ชีวิตมากขึ้น เช่น เมื่อรู้สึกว่าไม่ชอบการทำงาน ให้ลองปรับมุมมองความคิดใหม่ว่าแต่วันนี้ได้ไปเจอเพื่อนร่วมงานที่ดี ได้กินข้าวอร่อย ๆ ตอนพักกลางวัน หรือได้นั่งทำงานในมุมสวย ๆ ก็อาจช่วยให้มีอารมณ์ที่ดีขึ้น
- ออกกำลังกาย การออกกำลังกายจะช่วยหลั่งสารเอ็นโดรฟิน ซึ่งเป็นสารเคมีแห่งความสุขที่จะช่วยบรรเทาความเครียดได้
- หากิจกรรมทำเพื่อจัดการกับอารมณ์ เช่น อ่านหนังสือ นั่งสมาธิ เดินเล่น ไปเที่ยว วาดรูป ทำสวน เป็นกิจกรรมที่ช่วยคลายเครียดให้กับตัวเองได้เป็นอย่างดี ซึ่งส่งผลดีทั้งต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ และยังช่วยให้สภาวะทางอารมณ์ดีขึ้นตามไปด้วย
- พักผ่อนร่างกายและจิตใจบ้าง บางคนอาจมีอารมณ์หัวร้อนรุนแรงเพราะความเครียดและความเหนื่อยจากการทำงาน จึงควรหาวันหยุดเพื่อหยุดพักจากการทำงานบ้าง จะสามารถช่วยปรับอารมณ์และความเครียดภายในจิตใจได้
- พูดคุยกับคนรอบข้าง บางครั้งการเก็บอารมณ์ ความคิดและความรู้สึกทุกอย่างไว้ที่ตัวเองคนเดียว อาจยิ่งทำให้เกิดความเครียดและอารมณ์หัวร้อนมากขึ้น จึงควรพูดคุยกับเพื่อนหรือคนในครอบครัวเพื่อช่วยระบายความรู้สึกไม่ดีเหล่านั้น บางทีคนรอบข้างอาจช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี
วิธีรับมือเมื่อต้องอยู่กับคนหัวร้อน
เมื่อเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องทำงานหรืออยู่ร่วมกับคนหัวร้อน วิธีรับมือเมื่อเจอกับคนหัวร้อนอาจสามารถทำได้ ดังนี้
- เลือกที่จะไม่คุยกับใคร ทุกคนสามารถเลือกได้ว่าจะคุยหรือไม่คุยกับใคร ซึ่งวิธีนี้อาจเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการหลีกเลี่ยงคนหัวร้อน โดยเฉพาะหากเจอคนหัวร้อนใส่โดยที่ไม่ได้เกิดจากการกระทำของเรา ก็ควรพิจารณาแล้วว่าควรจะเลือกคุยแบบสนิทสนมกับคนคนนี้ต่อไปอีกหรือไม่ แต่หากจำเป็นต้องคุยเพราะเรื่องงานก็ให้คุยเฉพาะเรื่องงานเท่านั้น ซึ่งเป็นการเอาตัวเองออกมาจากสถานการณ์ที่จะต้องเป็นตัวรองรับอารมณ์ของคนหัวร้อนโดยใช่เหตุ
- ควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ได้ และใช้สติมากกว่าอารมณ์ เมื่อเจอคนหัวร้อนใส่สิ่งแรกที่ควรทำคือการตั้งสติและควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้ได้ เพราะการขาดสติและตอบกลับด้วยอารมณ์อาจทำให้สถานการณ์แย่ไปกว่าเดิมได้
- หลีกเลี่ยงการปะทะและยอมแพ้บ้าง การปะทะกับคนหัวร้อนอาจไม่ใช้ทางออกที่ดีเสมอไป เพราะการขาดสติและปะทะกันด้วยความรุนแรงทั้งทางวาจาหรือร่างกาย อาจยิ่งทำให้เรื่องใหญ่โตและบานปลายไปใหญ่ ดังนั้น หากเราพิจารณาแล้วว่าการโต้เถียงกับคนหัวร้อนไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นและตัวเราเองก็ไม่ได้ผลดีอะไรจากเหตุการณ์นี้ ให้เราเป็นฝ่ายยอมแพ้เพื่อหยุดความรุนแรง ซึ่งในทางกลับกันเราอาจจะเป็นฝ่ายที่ดูดีในสายตาคนรอบข้างมากกว่าเสียด้วยซ้ำ
- ฟังมากกว่าพูด โดยเฉพาะหากอยู่ในสถานการณ์ที่คนหัวร้อนกำลังระบายอารมณ์ใส่เรา ให้เราเงียบและรับฟังในสิ่งที่อีกฝ่ายพูดจากนั้นใช้สติพิจารณาเรื่องราวทั้งหมด บางทีเราอาจจะมองเห็นแง่มุมบางอย่างที่อีกฝ่ายต้องการสื่อสาร เพียงแต่บุคคลนั้นอาจมีปัญหาในด้านของการสื่อสารหรือการควบคุมอารณ์ด้วยสาเหตุหนึ่ง จึงทำให้สื่อสารออกมาด้วยอารมณ์หัวร้อนใส่ผู้อื่น
- เมื่ออารมณ์เย็นลงค่อยกลับมาคุยกันใหม่ เมื่อปล่อยให้อีกฝ่ายพูดและระบายอารมณ์ออกมาควรแยกย้ายกันซักครู่เพื่อปรับอารมณ์ให้เย็นลง จากนั้นค่อยกลับมาคุยกันอีกครั้ง เพื่อใช้สติและเหตุผลในการพูดคุยก็จะช่วยให้ทั้งคู่เข้าใจกันมากขึ้น และผ่านสถานการณ์นี้ไปได้อย่างง่ายดาย