backup og meta

โรคไบโพลาร์ในวัยรุ่น สัญญาเตือนและการรับมือที่ถูกต้อง

โรคไบโพลาร์ในวัยรุ่น สัญญาเตือนและการรับมือที่ถูกต้อง

โรคไบโพลาร์ หรือเรียกอีกอย่างว่า โรคอารมณ์สองขั้ว (Bipolar disorder) นั้นเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์เป็นสำคัญ โดยผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้เวลาเศร้าก็จะเศร้ามากเป็นพิเศษ แต่เมื่อมีความสุขก็จะมีความสุขมากเป็นพิเศษเช่นกัน ซึ่งผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ควรได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากคนในครอบครัว และควรจะต้องไปปรึกษาแพทย์ เพื่อรับวิธีการรักษาที่ถูกต้อง โรคไบโพลาร์ นั้นสามารถเกิดได้กับคนทุกวัย โดยเฉพาะ โรคไบโพลาร์ในวัยรุ่น คุณพ่อคุณมีควรจะต้องดูแลเป็นพิเศษ เพราะในวัยนี้บางครั้งยังไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้เท่าที่ควร  บทความนี้ Hello คุณหมอ จึงนำข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้มาฝากกัน

โรคไบโพลาร์ในวัยรุ่น ข้อเท็จจริงที่ควรรู้

อาจมีหลายคนสงสัยว่า เมื่อเป็นโรคไบโพลาร์แล้ว จะยังสามารถใช้ชีวิตแบบปกติได้หรือไม่ หรือเมื่อเป็นแล้วจะกลับมาเป็นปกติได้หรือไม่ ลองมาดูข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อสงสัยต่างๆ ดังนี้

  • หลายคนเชื่อว่า เมื่อเป็นโรคอารมณ์สองขั้วแล้ว จะไม่สามารถมีอาการที่ดีขึ้น หรือใช้ชีวิตแบบปกติได้ ต้องบอกเลยว่า การใช้ชีวิตอยู่กับโรคไบโพลาร์นั้น ถือเป็นเรื่องที่ท้าทายเป็นอย่างมาก แต่จริงๆ แล้ว คนที่เป็นไบโพลาร์หลายคน มีอาชีพที่ประสบความสำเร็จ มีครอบครัวที่ดี และมีชีวิตที่มีความสุข ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะพวกเขาได้เข้ารับการรักษา พร้อมทั้งได้เรียนรู้เกี่ยวกับทักษะในการเผชิญหน้ากับความเครียดที่ดี รวมถึงได้รับการสนับสนุนที่มั่นคงอีกด้วย
  • โรคไบโพลาร์ส่งผลทางอารมณ์เท่านั้น ความจริงแล้ว โรคไบโพลาร์ ยังส่งผลต่อระดับพลังงาน การตัดสิน ความจำ สมาธิ ความอยากอาหาร รูปแบบการนอนหลับ แรงขับเคลื่อนทางเพศ รวมถึงการเห็นคุณค่าในตัวเอง นอกจากนี้ความผิดปกติของโรคนี้ ยังเชื่อมโยงกับความวิตกกังวล การใช้สารเสพติด และปัญหาสุขภาพต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ ไมเกรน และความดันโลหิตสูง
  • นอกเหนือจากการใช้ยา ไม่มีอะไรที่สามารถควบคุมโรคไบโพลาร์ได้ แม้ยาจะเป็นรากฐานในการรักษาโรคไบโพลาร์ แต่กลยุทธ์การบำบัดและการช่วยเหลือตัวเอง ก็เป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน นอกจากนั้นการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอนหลับให้เพียงพอ กินอาหารให้เหมาะสม พยายามตรวจสอบอารมณ์ของตนเองและรักษาความเครียดให้น้อยลง ก็สามารถควบคุมโรคไบโพลาร์ได้เช่นกัน

สัญญาณเตือนของโรคไบโพลาร์ในวัยรุ่น

โรคไบโพลาร์ สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ในสหรัฐอเมริกา โรคไบโพลาร์ โดยทั่วไปมักจะเกิดขึ้นกับวัยรุ่นตอนปลาย และวัยผู้ใหญ่ตอนต้น ประมาณ 2.8 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่มีอายุมากกว่า 18 ปี แต่ในการวินิจฉัยในวัยรุ่นนั้น แพทย์จะต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อให้แน่ใจว่าอารมณ์แปรปรวนที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้มาจากแค่การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงที่เข้าสู่วัยรุ่นเพียงเท่านั้น แต่สัญญาณที่สามารถสังเกตได้ มีดังนี้

  • ภาวะอารมณ์ไม่คงที่
  • มีความสุขมากจนเกินไป หรือทำอะไรที่ไม่ธรรมดา ซึ่งคนที่มีอายุเท่ากันมักไม่ทำ
  • มีปัญหาในเรื่องของการนอนหลับ หรืออาจจะไม่นอนเลย
  • ไม่รู้สึกเหนื่อย
  • มีปัญหาในการจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
  • พูดเร็วมาก หรือพยายามพูดหลายๆ อย่างพร้อมกัน
  • พูดคุยหรือคิดเกี่ยวกับเรื่องเพศ หรือหมกมุ่นกับเรื่องเหล่านี้บ่อยขึ้น
  • หุนหันพลันแล่น หรือมักจะมีพฤติกรรมที่ชอบทำอะไรเสี่ยงๆ
  • รู้สึกว่าตัวเองสำคัญมากเกินความเป็นจริง
  • รู้สึกเศร้า หรือหดหู่
  • ร้องไห้เป็นประจำ
  • รู้สึกเหงา หรือรู้สึกเหมือนตัวคนเดียว
  • บ่นเกี่ยวกับความเจ็บปวด เช่น ปวดหัว ปวดท้อง
  • รู้สึกผิด
  • รู้สึกไร้ค่า
  • มีความวิตกกังวล
  • รู้สึกโกรธ หรือหงุดหงิดโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านพฤติกรรมที่ทำเป็นปกติ เช่น อาจมีพฤติกรรมการกินผิดปกติ เช่นกินมากขึ้นหรือน้อยลง
  • มีพลังงานน้อยมาก แม้ว่าจะนอนหลับอย่างเพียงพอ
  • สนใจกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้รู้สึกตื่นเต้น
  • สนใจเรื่องเกี่ยวกับความตาย หรือมีความคิดเกี่ยวกับการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปจากเดิม

การรับมือกับโรคไบโพลาร์ที่เกิดในวัยรุ่น

โดยปกติการวินิจฉัยโรคไบโพลาร์ในวัยรุ่น จะมีเกณฑ์การวินิจฉัยที่เหมือนกับผู้ใหญ่ แต่อาการที่เกิดขึ้นในวัยรุ่นนั้น มักจะมีรูปแบบที่แตกต่างกัน และอาจไม่เหมาะกับประเภทการวินิจฉัย นอกจากนี้วัยรุ่นที่มีอารมณ์แปรปรวนก็มักได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นปัญหาสุขภาพจิตด้านอื่นๆ เช่น โรคสมาธิสั้น หรือปัญหาด้านพฤติกรรม ดังนั้นการเข้ารับการวินิจฉัยจากจิตแพทย์ที่มีประสบการณ์โดยตรงเกี่ยวกับโรคไบโพลาร์จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด ซึ่งการรักษาโรคไบโพลาร์ จิตแพทย์มักจะต้องพิจารณาเป็นกรณีไป แล้วแต่อาการที่เกิดขึ้นและอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากยา

สำหรับวัยรุ่นที่เป็นโรคไบโพลาร์นั้น ยังต้องมีการเผชิญหน้าในครอบครัว โรงเรียน รวมถึงในสังคม ซึ่งการควบคุมอารมณ์เมื่อต้องเผชิญหน้า ถือเป็นเรื่องที่ท้าทายเป็นอย่างมาก ดังนั้นหากลูกของคุณอยู่ในช่วงวัยรุ่น และถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคไบโพลาร์ สิ่งแรกที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำก็คือ การให้พวกเขาทานยาตามกำหนด พยายามสังเกตอาการหรือความเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับอารมณ์ พยายามพาลูกของคุณเข้าร่วมการบำบัดอย่างสม่ำเสมอ เพราะการบำบัดนี้จะเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้พวกเขาสามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้

นอกจากการรักษาด้วยยา และการดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแล้ว การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตบางอย่าง เช่น การลดความเครียด การรับประทานอาหารที่ดี การนอนหลับที่เพียงพอ และออกกำลังกายที่เหมาะสม ก็สามารถช่วยเหล่าวัยรุ่นที่เป็นโรคไบโพลาร์ได้เช่นกัน

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัย หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

What are the signs of bipolar disorder in teens?. https://www.medicalnewstoday.com/articles/324365.php. Accessed October 25, 2019

Bipolar Disorder Signs and Symptoms. https://www.helpguide.org/articles/bipolar-disorder/bipolar-disorder-signs-and-symptoms.htm. Accessed October 25, 2019

Bipolar Disorder. https://kidshealth.org/en/teens/bipolar.html. Accessed October 25, 2019

เวอร์ชันปัจจุบัน

02/02/2021

เขียนโดย สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ

อัปเดตโดย: Nattrakamol Chotevichean


บทความที่เกี่ยวข้อง

สัญญาณของโรคซึมเศร้า ที่บอกว่าคุณควรต้องรับความช่วยเหลือได้แล้ว

วิธีรับมือและจัดการกับ อารมณ์แปรปรวนในวัยทอง ที่ผู้หญิงวัยทองควรรู้


ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย · แก้ไขล่าสุด 02/02/2021

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา