โดยเฉลี่ยแล้วผู้หญิงจะมีประจำเดือนทุกๆ 24-38 วัน และจะมีประจำเดือนเป็นเวลา 2-8 วันต่อเดือน หากประจำเดือนมาไม่ปกติ โดยส่วนใหญ่แล้วไม่เป็นอันตราย แต่บางกรณีก็อาจหมายถึงปัญหาสุขภาพบางอย่าง แล้ว ประจำเดือนมาไม่ปกติ เกิดจากสาเหตุใด และเมื่อไหร่ที่ควรปรึกษาคุณหมอ
ประจำเดือนมาไม่ปกติ มีลักษณะเป็นอย่างไร
รอบประจำเดือนมาไม่ปกติ อาจมีลักษณะต่างๆ เช่น
- ประจำเดือนมาน้อยหรือมากผิดปกติ
- ประจำเดือนมาหลายวัน มากเกินไป
- ช่วงเวลาก่อนมีประจำเดือนเริ่มเปลี่ยนแปลง
- จำนวนวันที่มีประจำเดือนแตกต่างกันมาก
การบันทึกข้อมูลของการมีประจำเดือน จะช่วยให้คุณรู้ว่าประจำเดือนมาปกติ หรือไม่ปกติ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการที่ประจำเดือนมาไม่ปกติจะไม่ถือเป็นเรื่องร้ายแรง แต่ในบางกรณีก็อาจเป็นสัญญาณเตือนปัญหาสุขภาพ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ มีดังต่อไปนี้
ประจำเดือนมาไม่ปกติเกิดจาก สาเหตุใดบ้าง
ประจำเดือนมาไม่ปกติอาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย ได้แก่ ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และโพเจสเตอโรน (Progesterone) จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมวัยรุ่นและวัยใกล้หมดประจำเดือน จึงเกิดภาวะประจำเดือนมาไม่ปกติบ่อย เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกายนั่นเอง นอกจากนี้ ยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อรอบประจำเดือน ดังนี้
- การตั้งครรภ์ หรือการให้นมลูก ประจำเดือนไม่มา สามารถเป็นสัญญาณของการตั้งครรภ์ และการให้นมลูกอาจส่งผลให้ การกลับมามีประจำเดือนหลังคลอดช้าลง
- การกินผิดปกติ การลดน้ำหนักเร็วเกินไป หรือออกกำลังกายอย่างหนัก รวมถึงการกินผิดปกติ ทั้ง 3 สาเหตุนี้สามารถทำให้ประจำเดือนมาผิดปกติได้
- ถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (Polycystic Ovary Syndrome, PCOS) เนื่องจากความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ และในรังไข่มีถุงน้ำหลายใบ และมักจะเกิดขึ้นในผู้หญิงที่มีอายุ 18-45 ปี
- ภาวะรังไข่ทำงานผิดปกติก่อนวัยอันควร (Premature ovarian insufficiency, POI) คือภาวะที่รังไข่ทำงานผิดปกติก่อนอายุ 40 ปี และผู้หญิงที่เกิดภาวะนี้อาจเกิดภาวะประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือประจำเดือนมาเป็นครั้งคราวในเวลาหลายปี
- ภาวะอักเสบในอุ้งเชิงกราน (Pelvic inflammatory disease, PID) เป็นการติดเชื้อบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ ที่สามารถทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ
- เนื้องอกมดลูก (Uterine fibroids) เป็นเนื้องอกที่เติบโตในมดลูกและไม่ใช่เนื้อร้าย ซึ่งสามารถทำให้มีประจำเดือนมากผิดปกติ และมีประจำเดือนนานกว่าปกติ
ทำอย่างไรเพื่อป้องกันประจำเดือนมาไม่ปกติ
ผู้หญิงบางคนอาจใช้ยาคุมกำเนิด เพื่อช่วยควบคุมรอบประจำเดือน นอกจากนี้การรักษาโรคต่างๆ อาจช่วยให้อาการประจำเดือนมาไม่ปกติหายไป เช่น โรคการกินมากผิดปกติ อย่างไรก็ตามสำหรับภาวะประจำเดือนมาไม่ปกตินั้นจะไม่สามารถป้องกันได้ ด้วยการรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ด้วยการออกกำลังกายเป็นประจำ และกินอาหารที่มีประโยชน์
มากไปกว่านั้นหากคุณมีอาการดังต่อไปนี้ ควรปรึกษาแพทย์ทันที
- ประจำเดือนไม่มา นานกว่า 90 วันและคุณไม่ได้ตั้งครรภ์
- ประจำเดือนมานานกว่า 7 วัน
- ประจำเดือนมามากผิดปกติ หรือต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ ทุกๆ 1-2 ชั่วโมงเนื่องจากประจำเดือนมามากเกินไป
- ระยะห่างระหว่างการมีประจำเดือน น้อยกว่า 21 วันและน้อยกว่า 35 วัน
[embed-health-tool-ovulation]