backup og meta

ดูแลสุขภาพดวงตา ก่อนภาวะสมองเสื่อมจะมาเยือน

ดูแลสุขภาพดวงตา ก่อนภาวะสมองเสื่อมจะมาเยือน

ดวงตา’ เป็นอวัยวะสำคัญที่ละเอียดอ่อนและต้องทะนุถนอมเป็นพิเศษ เพราะนอกจากช่วยเปิดโลกกว้างให้เรามองเห็นสิ่งต่างๆ ได้ชัดเจนแล้ว ยังช่วยเสริมบุคลิกภาพและสะท้อนถึงการมีสุขภาพดีอีกด้วย แต่บางครั้งดวงตาคู่สวยก็อาจถูกทำร้ายจากสาเหตุต่างๆ ในชีวิตประจำวันโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด มลภาวะ หรือแม้กระทั่งการนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตในระยะยาวได้

หากสุขภาพดวงตาและการมองเห็นมีปัญหา ทำให้เกิดอาการผิดปกติต่างๆ เช่น สายตาพร่ามัว เห็นภาพซ้อน ปวดกระบอกตา ตาแห้ง กล้ามเนื้อรอบดวงตาเกร็ง เคืองตา น้ำตาไหล ฯลฯ ถ้าปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการดูแลรักษาก็จะนำไปสู่โรคทางสายตาอีกมากมาย ซึ่งอาจส่งผลต่อคุณภาพชีวิตโดยรวมในด้านต่างๆ ได้

นอกจากนี้ ยังมีผลการศึกษาวิจัยที่พบว่าปัญหาด้านการมองเห็นอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะก่อให้เกิด ‘ภาวะสมองเสื่อม’ อีกทั้งเป็นตัวเร่งทำให้การรับรู้และจดจำลดลง โดยผลการวิจัยในประเทศสหรัฐอเมริการะบุว่า ปัญหาการมองเห็นที่ลดลง มีความเชื่อมโยงกับการรับรู้และจดจำที่ลดลงถึงร้อยละ 55 เนื่องจากผู้ประสบปัญหาเหล่านี้ มักมีกิจกรรมทางกายภาพและสังคมที่ลดลงนั่นเอง

รู้หรือไม่! สุขภาพตาที่เสื่อมลง สาเหตุเสี่ยงโรคสมองเสื่อมก่อนวัย

อาการผิดปกติธรรมดาๆ ของดวงตาที่เราอาจมองข้าม หรือไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกต้องในเวลาที่เหมาะสม ก็อาจนำไปสู่การเกิดปัญหาสุขภาพตาขึ้นได้ ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อการมองเห็นเท่านั้น แต่ยังกระทบการทำงานในส่วนต่างๆ ของร่างกายอีกด้วย ทั้งด้านกายภาพ จิตใจ คุณภาพชีวิต และสภาพความเป็นอยู่โดยรวม

จากการศึกษาหลายฉบับระบุในทิศทางเดียวกันว่า ปัญหาการมองเห็นที่ลดลง นับว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคสมองเสื่อม จากการสำรวจผู้หญิงจำนวน 1,000 คนในประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่า การเกิดโรคสมองเสื่อมเพิ่มขึ้นนั้น มีสาเหตุมาจากความรุนแรงของปัญหาการมองเห็นที่เสื่อมลง และยังส่งผลให้คะแนนจากการตรวจสุขภาพจิตลดลงตามไปด้วย ส่วนในประเทศสิงคโปร์พบว่า ปัญหาการมองเห็นมีความเชื่อมโยงกับความสามารถในการรับรู้และจดจำ โดยผู้ใหญ่ที่มีภาวะปัญหาในการมองเห็น มักประสบปัญหาการรับรู้และจดจำที่ลดลงก่อนวัย

สัญญาณบอกปัญหาสุขภาพดวงตา คุณมีอาการเหล่านี้หรือไม่? 

คุณเคยหรือเปล่าที่นั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ หรือจ้องจอโทรศัพท์นานๆ แล้วมีปัญหาตาแห้ง เจอลมแรงๆ ก็มักจะมีอาการตาแดงอยู่บ่อยๆ หรืออาจต้องเพ่งสายตามากกว่าปกติ มองเห็นตัวหนังสือไม่ชัดเจน เมื่อต้องอ่านในระยะใกล้ ฯลฯ คนส่วนใหญ่มักจะมีปัญหาสุขภาพตาไม่มากก็น้อย บางปัญหาเป็นเรื่องเล็กน้อย สามารถหายเองได้ ในขณะที่บางปัญหาก็ต้องอาศัยการดูแลรักษาจากผู้เชี่ยวชาญ

ก่อนอื่นลองมาสังเกตตัวเองว่าคุณมีอาการต่อไปนี้หรือไม่ ซึ่งนับเป็นสัญญานเตือนให้คุณต้องเริ่มหันมาดูแลและปกป้องดวงตาของคุณอย่างจริงจัง

  • สายตายาว : ความสามารถในการมองระยะใกล้ หรือมองวัตถุขนาดเล็กจะลดลงอย่างช้าๆ ถือเป็นอาการปกติ เมื่อมีอายุเพิ่มขึ้น ผู้ที่มีอาการสายตายาวส่วนใหญ่ มักจะมีอาการปวดหัว, ปวดตา, ตาล้า โดยทั่วไปจะแก้ปัญหาโดยการใช้แว่นสายตาที่ใช้ในการอ่านหนังสือ
  • วุ้นในตาเสื่อม : หากเห็นจุดเล็กๆ สีดำ หรือลักษณะคล้ายใยแมงมุมในการมอง ไม่ว่าจะอยู่ภายตัวอาคาร หรือกลางแจ้ง ก็อาจเป็นสัญญาณของอาการวุ้นในตาเสื่อม ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากอายุ แต่บางครั้งก็เป็นสัญญานของปัญหาสุขภาพตาที่ร้ายแรงได้ เช่น จอประสาทตาลอก สำหรับผู้ที่มองเห็นใยแมงมุม หรือแสงจ้าในตาเพิ่มมากขึ้น ควรรีบไปปรึกษาจักษุแพทย์โดยด่วน
  • น้ำตาไหล, มีน้ำตามาก : สาเหตุมาจากการที่ดวงตาอ่อนไหวกับแสง ลม และอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง  หรือมีภาวะตาแห้ง สามารถบรรเทาอาการได้โดยการสวมแว่นกันแดด หรือการหยอดตา แต่บางครั้งอาการน้ำตาไหลอาจจะเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพตาที่ร้ายแรงกว่านั้น เช่น การติดเชื้อ หรือท่อน้ำตาอุดตัน ซึ่งต้องอาศัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการรักษาปัญหาเหล่านี้
  • ปัญหาบริเวณเปลือกตา : โดยทั่วไปมักจะเป็นอาการเปลือกตาแดง บวมเป็นผื่น น้ำตาไหล การเกิดสะเก็ด หรือคราบบริเวณขนตาระหว่างการนอนหลับ ซึ่งอาจจะเป็นผลมาจากอาการหรือโรคที่แตกต่างกันไป ปัญหาเหล่านี้แก้ไขได้ด้วยการประคบเปลือกตาด้วยน้ำอุ่น หรือเช็ดทำความสะอาดเปลือกตาเบาๆ

10 เคล็ดลับง่ายๆ บริหารดวงตาให้แข็งแรงเพื่อสุขภาพตาที่ดี

  • หากต้องใช้สายตาเป็นระยะเวลานาน ควรพักสายตาทุก 20 นาที โดยการมองออกไปไกลๆ ประมาณ 20 ฟุต เป็นระยะเวลา 20 วินาที
  • พยายามกวาดสายตาเพื่อผ่อนคลาย ให้กวาดตามองไปไกลๆ ด้านซ้าย-ขวา สลับกันไปมา โดยไม่ต้องจ้องมองสิ่งใดเป็นพิเศษ จะช่วยให้ดวงตาผ่อนคลายมากขึ้น
  • มองระยะใกล้-ไกล โดยเหยียดแขนซ้ายออกไปให้ไกลที่สุด แล้วตั้งนิ้วชี้มือซ้ายขึ้นเพื่อเป็นจุดโฟกัส พร้อมกับตั้งนิ้วชี้มือขวาให้ห่างจากใบหน้าประมาณ 3 นิ้ว จากนั้นให้โฟกัสภาพแต่ละนิ้วสลับไปมา
  • กะพริบตา 1-2 ครั้ง ทุกๆ 10 นาที จะช่วยให้แก้วตาสะอาด มีน้ำหล่อเลี้ยง ตาไม่แห้งจนเกินไป
  • สวมแว่นกันแดด หรือสวมหมวกปีกกว้าง เมื่อต้องทำอยู่ท่ามกลางแสงแดดจ้า เพื่อปกป้องดวงตาจากแสงแดดและรังสียูวี
  • ไม่ควรเพ่งสายตาในที่มีแสงน้อย หรือเล่นโทรศัพท์ในที่มืด
  • งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ พักผ่อนให้เพียงพอ
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และความคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
  • ควบคุมความดันเลือดให้อยู่ในภาวะปกติ
  • เลือกทานอาหาร หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ช่วยดูแลดวงตา

วิธีดูแลถนอมดวงตาด้วยสารอาหารธรรมชาติ

ก่อนที่ดวงตาจะเสื่อมสภาพก่อนวัยหรือเกินการเยียวยา คุณควรถนอมสุขภาพดวงตาจากภายในด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ช่วยบำรุงสายตา ได้แก่

  • ผักหรือผลไม้ที่ให้วิตามินเอ, ซี, อี เช่น ฟักทอง แครอท มะละกอสุก
  • ผักหรือผลไม้ที่มีสารลูทีนและซีแซนทีน พบมากในผักผลไม้ที่มีสีเหลืองและเขียวเข้ม เช่น ข้าวโพด ฟักทอง พริกหวาน ผักโขม ปวยเล้ง อะโวคาโด เบต้าแคโรทีน
  • ผลไม้ที่มีสารพฤกษเคมี เช่น สารแอนโธไซยานิน (Anthocyanin) มักพบได้ในผลไม้สีม่วงแดง จำพวกผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เช่น สตรอเบอร์รี่ มัลเบอร์รี่ แครนเบอร์รี่ แบล็กเคอร์แรนท์ ฯลฯ ซึ่งมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง เมื่อเทียบกับผักผลไม้ชนิดอื่นๆ

หนึ่งในผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่ที่น่าสนใจก็คือ ‘แบล็กเคอร์แรนท์’ (Blackcurrant) อุดมด้วยแอนโธไซยาโนไซด์ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มฟลาโวนอยด์ที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งมีประโยชน์โดยตรงต่อดวงตา ดังนี้

  • ช่วยคลายความเหนื่อยล้าของดวงตาจากการทำงานหนัก
  • ช่วยให้การมองเห็นในที่มีแสงน้อยดีขึ้น
  • ช่วยป้องกันการเสื่อมของเลนส์ตา เส้นเลือดฝอยในตา และจอประสาทตาที่ถูกทำร้ายจากอนุมูลอิสระ
  • ช่วยกรองหรือป้องกันรังสีจากแสงแดด ปกป้องเซลล์ของจอประสาทตาไม่ให้ถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ
  • ช่วยป้องกันอาการมองไม่เห็นในเวลากลางคืน และช่วยบำรุงรักษาดวงตา
  • สารลูทีน, ซีแซนทีน, แอนโธไซยานิน ที่อยู่ในแบล็กเคอร์แรนท์ ยังมีคุณประโยชน์ด้านอื่นๆ ได้แก่ เสริมความจำและสมาธิในวัยทำงาน, เสริมความจำในผู้สูงอายุ และเสริมสร้างสุขภาพหลอดเลือด

ปัจจุบันสามารถเลือกรับประทานในรูปแบบของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนประกอบของเบอร์รี่ที่มีแอนโธไซยานิน เช่น แบล็กเคอร์แรนท์ พร้อมกับ ลูทีน และซีแซนทีนได้ง่ายๆ เพื่อช่วยดูแลสุขภาพของดวงตา ต่อต้านอนุมูลอิสระที่เข้ามาทำร้ายดวงตา อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็นในที่ๆ มีแสงน้อยอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม คุณสามารถหลีกเลี่ยงหรือป้องกันปัญหาการมองเห็นที่เสื่อมลงได้ ด้วยการปรับไลฟ์สไตล์ประจำวันเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่ก่อให้เกิดปัญหาที่เกี่ยวกับสุขภาพตา เพียงเท่านี้ก็จะสามารถดูแลถนอมดวงตาคู่สวยให้สดใสและอยู่คู่กับคุณไปได้นานๆ

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

Eye conditions linked to increased risk of dementia

https://www.news-medical.net/news/20210914/Eye-conditions-linked-to-increased-risk-of-dementia.aspx Accessed on November 17, 2021.

Association of Visual Impairment With Risk of Incident Dementia in a Women’s Health Initiative Population

https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/32297918 Accessed on November 17, 2021.

Association Between Visual Impairment and Decline in Cognitive Function in a Multiethnic Asian Population

https://jamanetwork.com/journals/jamanetworkopen/fullarticle/2764909 Accessed on November 17, 2021.

Vision Impairment and Cognitive Outcomes in Older Adults: The Health ABC Study

https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6696724 Accessed on November 17, 2021.

เวอร์ชันปัจจุบัน

25/11/2021

เขียนโดย ทีม Hello คุณหมอ

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย พลอย วงษ์วิไล

อัปเดตโดย: พลอย วงษ์วิไล


บทความที่เกี่ยวข้อง

ตรวจตา เพื่อสุขภาพการมองเห็นที่ดี

เทคนิคบริหารดวงตา เพื่อ รักษาตาเหล่ สามารถทำได้อย่างไร


ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

พลอย วงษ์วิไล


เขียนโดย ทีม Hello คุณหมอ · แก้ไขล่าสุด 25/11/2021

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา