ฟองน้ำคุมกำเนิด (Contraceptive Sponge) เป็นหนึ่งในวิธีการคุมกำเนิด ที่ป้องกันไม่ให้อสุจิเข้าไปในมดลูก โดยฟองน้ำคุมกำเนิดทำมาจากวัสดุคือ โฟมโพลียูรีเทน (Polyurethane) จะมีรูปร่างคล้ายโดนัท และมีลักษณะนุ่ม นอกจากนี้ ฟองน้ำคุมกำเนิดยังมียาฆ่าอสุจิเพื่อยับยั้งหรือฆ่าเซลล์อสุจิด้วย เพื่อช่วยลดโอกาสการตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตาม ฟองน้ำคุมกำเนิดไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ ดังนั้นจึงควรใช้คู่กับถุงยางอนามัยเพื่อลดความเสี่ยงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และลดความเสี่ยงการตั้งครรภ์
[embed-health-tool-ovulation]
การทำงานของฟองน้ำคุมกำเนิด
อันดับแรก ผู้หญิงต้องทำให้ฟองน้ำชุ่มด้วยน้ำ จากนั้นใส่ฟองน้ำคุมกำเนิดเข้าไปในช่องคลอด โดยควรใส่ให้ลึกที่สุดจนถึงบริเวณปากมดลูก ซึ่งฟองน้ำคุมกำเนิดเป็นอุปกรณ์ ที่คุมกำเนิดได้เนื่องจาก
- มีสารฆ่าเซลล์อสุจิ เป็นระยะเวลา 24 ชั่วโมง โดยคุณสามารถมีเพศสัมพันธ์ในเวลาดังกล่าว โดยไม่ต้องการยาฆ่าเซลล์อสุจิเพิ่ม
- ออกแบบมาเพื่อขัดขวาง และดูดซึมอสุจิ ก่อนที่อสุจิจะเข้าสู่บริเวณปากมดลูก ซึ่งเป็นส่วนเชื่อมต่อระหว่างมดลูกกับช่องคลอด
- ทำหน้าที่เป็นกำแพงกั้น ระหว่างอสุจิและปากมดลูก
ความเสี่ยงของฟองน้ำคุมกำเนิด
ประสิทธิภาพของฟองน้ำคุมกำเนิด คือจากผู้หญิง 100 คนที่ใช้ฟองน้ำคุมกำเนิด พบว่า 9-11 คนตั้งครรภ์ภายในปีแรก และสำหรับความเสี่ยงคือ ฟองน้ำคุมกำเนิดไม่สามารถช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ นอกจากนี้ฟองน้ำและยาฆ่าอสุจิ อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง ดังนี้
- ช่องคลอดแห้ง หรือระคายเคือง
- เกิดการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ หรือติดเชื้อในช่องคลอด
- เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
- กลุ่มอาการท็อกซิกช็อก (Toxic shock syndrome)
วิธีใช้ฟองน้ำคุมกำเนิด
ก่อนใช้ฟองน้ำคุมกำเนิด ควรอ่านฉลากผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด หรือปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ และมีขั้นตอนการใช้ฟองน้ำคุมกำเนิด ดังนี้
- ทำฟองน้ำให้เปียกหมาดๆ ทำฟองน้ำให้ชุ่มด้วยน้ำเปล่าสะอาด 2 ช้อนโต๊ะ หรือประมาณ 30 มิลลิลิตร และบีบเบาๆ จนกระทั่งเปียกหมาดๆ แต่ไม่ควรให้แห้งสนิท โดยน้ำจะกระตุ้นยาฆ่าอสุจิในฟองน้ำคุมกำเนิด
- ใส่เข้าไปในช่องคลอด เมื่ออยู่ในท่าที่ถนัดแล้ว ให้ใส่ฟองน้ำคุมกำเนิดเข้าไปในช่องคลอด โดยควรให้ด้านที่มีเชือกอยู่ด้านนอก และควรใส่เข้าไปจนปิดปากมดลูก ข้อควรระวังคือ ไม่ควรกดนิ้วลงบนฟองน้ำขณะที่ใส่เข้าไป
- ควรทิ้งไว้อย่างน้อย 6 ชั่วโมงหลังจากมีเพศสัมพันธ์ แต่ไม่ควรทิ้งไว่นานเกิน 24 ชั่วโมง เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- การเอาออก ให้ค่อยๆ ดึงฟองน้ำคุมกำเนิดออกมา และควรระวังไม่ให้นิ้วกดบริเวณฟองน้ำ