มีเพศสัมพันธ์แล้วเลือดออก อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นเนื่อเยื่อฉีกขาดเพราะอาจด้วยแรงเสียดสีระหว่างกันมีมากเกินไป หรือมีเพศสัมพันธ์แบบรุนแรงกว่าปกติ หรืออาจเกิดจากช่องคลอดแห้งซึ่งเป็นไปได้ทั้งในผู้หญิงวัยใกล้หมดประจำเดือน หรือผู้ที่ใช้ยารักษาโรคบางอย่างจนก่อให้เกิดผลข้างเคียง รวมทั้งอาจอยู่ในช่วงใกล้มีประจำเดือนอาจทำให้เลือดออกระหว่างมีเพศสัมพันธ์ได้
[embed-health-tool-ovulation]
มีเพศสัมพันธ์แล้วเลือดออก เกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง
หากมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ อาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
1. เนื้อเยื่อฉีกขาดจากการมีเพศสัมพันธ์
การเสียดสีของผิวระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ อาจทำให้เนื้อเยื่อที่บอบบางภายในช่องคลอดฉีกขาด หรือการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ก็อาจเป็นสาเหตุที่ให้ช่องคลอดขยายจนเนื้อเยื่อฉีกขาดได้เช่นกัน และอาจส่งผลให้มีเลือดออกหลังการมีเพศสัมพันธ์ โดยปกติ เลือดมักจะออกมาเพียงเล็กน้อยในระยะเวลาสั้น แต่หากมีเพศสัมพันธ์แล้วเลือดออกเกิน 1-2 วัน ควรเข้าพบคุณหมอ เพราะอาจเกิดจากปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง
2. ช่องคลอดแห้ง
ช่องคลอดแห้งเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของอาการเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ ช่องคลอดแห้งอาจเป็นผลจากภาวะดังต่อไปนี้
- อาการทางช่องคลอดของวัยหมดประจำเดือน (Genitourinary syndrome of menopause: GSM) ทำให้สารหล่อลื่นตามธรรมชาติในช่องคลอดลดลง และเนื้อเยื่อในช่องคลอดยืดหยุ่นน้อยลง
- รังไข่เสียหายหรือตัดรังไข่ออก รังไข่เป็นแหล่งผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนหลัก และเอสโตรเจนก็สำคัญต่อการสร้างน้ำหล่อลื่นในช่องคลอด หากรังไข่เสียหาย ทำงานบกพร่อง หรือถูกตัดออก ก็อาจทำให้ช่องคลอดแห้งได้
- การคลอดลูกและให้นมบุตร ในช่วงตั้งครรภ์ ระดับเอสโตรเจนจะสูงมาก แต่จะลดลงอย่างฉับพลันทันทีหลังคลอด ซึ่งความแปรปรวนของฮอร์โมนเอสโตรเจนที่เกิดขึ้น อาจทำให้ช่องคลอดแห้งได้
- ยาบางชนิด เช่น ยาต้านการสร้างเอสโตรเจน ยาแก้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ยาสเตียรอยด์ ยากล่อมประสาท ยารักษาโรคซึมเศร้าหลายชนิด ยารักษาโรคความดันโลหิตอย่างยากลุ่มแคลเซียม แชนแนล บล็อกเกอร์ หรือเบต้าบล็อกเกอร์ อาจทำให้ช่องคลอดแห้งได้
- สารเคมีและสารก่อความระคายเคือง สารก่อภูมิแพ้และสารเคมีในผลิตภัณฑ์ต่างๆ รอบตัว รวมถึงในสารหล่อลื่นที่มีขายในร้านและถุงยางอนามัย สามารถทำให้ช่องคลอดแห้งได้ทั้งสิ้น
- การสวนล้างช่องคลอด สามารถทำให้ช่องคลอดและระคายเคืองและแห้งได้
- การร่วมเพศโดยไม่มีการเล้าโลม การเกิดอารมณ์ทางเพศกระตุ้นการหลั่งสารหล่อลื่นตามธรรมชาติในช่องคลอดที่ช่วยลดการเสียดสีในระหว่างการร่วมเพศได้ หากฝ่ายหญิงไม่เกิดอารมณ์ทางเพศ ก็อาจไม่มีน้ำหล่อลื่น ซึ่งนอกจากจะทำให้การร่วมเพศเป็นไปได้ยากและเจ็บปวดแล้ว ยังอาจทำให้เลือดออกได้ด้วย
3. การติดเชื้อ
การติดเชื้อทำให้เนื้อเยื่อบริเวณช่องคลอดอักเสบ และเสี่ยงฉีกขาดได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ การติดเชื้อราในช่องคลอด และการติดเชื้อในมดลูก ก็ยังอาจทำให้เนื้อเยื่อบอบบาง และฉีกขาดได้ขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุให้มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ได้
4. เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) เป็นภาวะที่เยื่อบุโพรงมดลูกไปเจริญนอกมดลูก ทำให้เวลามีเพศสัมพันธ์ บริเวณนี้อาจอักเสบ และทำให้เลือดออกได้
5. ภาวะเซลล์ปากมดลูกเจริญผิดปกติ
ภาวะเซลล์ปากมดลูกเจริญผิดปกติ จะตรวจพบได้ด้วยการส่องกล้องเข้าไปในบริเวณปากมดลูก หากบริเวณปากมดลูกมีเซลล์เล็ก ๆ เป็นลักษณะเหมือนผื่นเกิดขึ้น อาจทำให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นเสียหายได้ง่าย โดยเฉพาะตอนมีเพศสัมพันธ์ ที่มีการเสียดสีบริเวณปากมดลูก ซึ่งเป็นเหตุให้มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ได้
6. โรคมะเร็ง
อาการเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด โดยเฉพาะหลังจากการมีเพศสัมพันธ์ อาจเป็นหนึ่งในอาการของโรคมะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องคลอด นอกจากนี้ ภาวะเลือดออกหลังหมดประจำเดือน ก็เป็นหนึ่งในอาการของโรคมะเร็งปากมดลูกและโรคมะเร็งมดลูกเช่นกัน
หากพบว่ามีเลือดออกจากช่องคลอดนานผิดปกติ ร่วมกับมีอาการคัน เจ็บแสบอวัยวะเพศเมื่อปัสสาวะ คลื่นไส้ และมีปวดท้องอย่างรุนแรง ควรเข้ารับการตรวจวินิจฉัยจากคุณหมอทันที คุณหมอจะได้วิเคราะห์หาสาเหตุ และวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุด