เสื้อชั้นใน ชุดชั้นใน บราชั้นใน หรือ บรา ไม่ว่าเราจะเรียกแบบไหน ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นไอเท็มสำคัญที่ผู้หญิงทุกคนจะต้องใช้ เพื่อช่วยพยุงน้ำหนักของหน้าอกหน้าใจของเรา ทั้งยังช่วยให้หน้าอกเข้ารูปสวย กระชับอีกด้วย แต่การเลือกเสื้อชั้นในให้เข้ากับตัวเราอาจจะเป็นเรื่องยาก เพราะสาว ๆ แต่ละคนก็มีรูปร่างสรีระที่แตกต่างกัน ทั้งเสื้อชั้นในประเภทต่าง ๆ ยังมีความสามารถในการรองรับน้ำหนักที่แตกต่างกันอีกด้วย แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ วันนี้ Hello คุณหมอ จะมาให้คำแนะนำดี ๆ ในการ เลือกเสื้อชั้นใน ให้เหมาะสมหน้าอกของ ทำให้การลงทุนซื้อเสื้อชั้นในครั้งไหนก็ไม่เสียเปล่าแน่นอน
อยากจะ เลือกเสื้อชั้นใน ต้องดูอะไรบ้าง
ขนาด การเลือกเสื้อในที่มีขนาดที่ถูกต้อง เหมาะสมกับไซส์ของหน้าอกของเรานั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะการใส่เสื้อชั้นในที่ผิดไซส์ อาจจะทำให้รูปร่างของหน้าอกมีลักษณะล้น ไม่สวยงาม ทำให้เรารู้สึกอึดอัด คับแน่น หายใจไม่ออก หรือถ้าหากเลือกซื้อเสื้อชั้นในที่มีขนาดใหญ่เกินไป ก็จะทำให้ไม่สามารถรองรับหน้าอกได้อย่างพอดี และอาจเคลื่อนไปมาได้
รูปแบบ เสื้อชั้นในนั้นมีรูปแบบต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นแบบมีโครง แบบไร้สาย แบบดันทรง และเสื้อชั้นในรูปแบบต่างๆ ก็จะเหมาะสมกับสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป เช่น หากจะออกกำลังกาย ควรเลือกใช้สปอร์ตบรา หรือหากอยากจะใส่เกาะอก ควรเลือกใช้แบบไร้สาย เป็นต้น
เสื้อชั้นใน มีแบบไหนบ้าง มาดูกัน
แต่ก่อนเราอาจจะแยกแยะประเภทของเสื้อชั้นในแบบง่าย ๆ ได้ง่ายเป็นแบบมีโครง หรือไม่มีโครง แต่ในปัจจุบัน ประเภทของ เสื้อชั้นใน นั้นมีหลากหลายมากขึ้น แตกต่างกันออกไปตามรูปแบบลักษณะของเสื้อชั้นใน และการใช้งาน ตัวอย่างของเสื้อชั้นในที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน มีดังต่อไปนี้
เสื้อชั้นในครึ่งทรง หรือ ครึ่งเต้า (Demi Bra)
มีลักษณะขึ้นมาครอบคลุมบริเวณหน้าอกแค่เพียงครึ่งเดียว ทำให้สามารถโชว์เนินอกได้เต็มที่ ถ้าหากเลือกขนาดที่ถูกต้อง จะทำให้สามารถรองรับหน้าอกได้พอดี ไม่ดูล้น เหมาะสำหรับหน้าอกที่ค่อนข้างเล็กและกระชับ
เสื้อชั้นในเต็มทรง (Full Cup Bra)
เป็นเสื้อชั้นในที่ครอบคลุมปกปิดหน้าอกทั้งหมด ทำให้สามารถรองรับหน้าอกได้อย่างเต็มที่ มักจะมาพร้อมกับสายบราขนาดใหญ่ ทำให้สามารถรองรับน้ำหนักได้ดี เสื้อชั้นในแบบนี้เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่มีหน้าอกใหญ่ เพราะสามารถรองรับน้ำหนักได้ และทำให้หน้าอกดูไม่ล้น
เสื้อชั้นในดันทรง (Push-up Bra)
เสื้อชั้นในดันทรงจะมีฟองน้ำด้านในที่ช่วยดันเสริมหน้าอกขึ้นมา ทำให้หน้าอกดูมีขนาดใหญ่มากขึ้น ทั้งยังช่วยจัดให้หน้าอกทั้งสองข้างชิดกัน ทำให้ดูสวยเป็นทรงมากยิ่งขึ้น โดยปกติแล้วเสื้อชั้นในดันทรงจะปิดเพียงแค่ครึ่งล่าง เพื่อให้ช่วงเนินออกได้โดนเด่นออกมา เหมาะสำหรับผู้หญิงที่มีหน้าอกเล็ก เพราะจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้มากขึ้น
เสื้อชั้นในไร้สาย (Strapless Bra)
บราไร้สายเหมาะสำหรับสาว ๆ ที่อยากจะใส่ชุดเกาะอก เปิดไหล่ โชว์ไหล่สวย ๆ อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องมาคอยระแวงเรื่องสายเสื้อในให้รำคาญใจ เหมาะสำหรับหน้าอกทุกไซส์ แต่การรองรับน้ำหนักของเสื้อชั้นในแบบไร้สายอาจจะด้อยกว่าเสื้อชั้นในแบบอื่น เพราะไม่มีสายมาคอยช่วยรองน้ำหนักของหน้าอก
สปอร์ตบรา หรือ เสื้อชั้นในกีฬา (Sport Bra)
แค่ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าบราสำหรับออกกำลังกาย สปอร์ตบรานั้นออกแบบมาเพื่อเก็บเต้านมเพื่อให้แนบชิดติดกับหน้าอก และป้องกันการขยับเขยื้อนของเต้านม ในช่วงที่เราต้องขยับตัวมาก ๆ อย่างในช่วงขณะออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นขณะวิ่ง เดิน หรือโยคะ ทำให้เราไม่รู้สึกเจ็บหน้าอกขณะออกกำลังกาย สปอร์ตบรานั้นจะครอบคลุมส่วนของหน้าอกทั้งหมดอย่างมิดชิด และรองรับน้ำหนักของเต้านมได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะมีหน้าอกขนาดไหนก็ตาม
เสื้อชั้นในประเภทต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งของเสื้อชั้นในทั้งหมด ยังมีบราอีกมากมายหลายรูปแบบ เช่น บราปีกนก บราเสื้อกล้าม หรือแม้แต่บราสำหรับแม่ให้นมลูก การจะเลือก เสื้อชั้นใน ให้เหมาะสม เราต้องคำนึงถึงหลาย ๆ ปัจจัย เช่น ขนาดหน้าอก กิจกรรมที่จะทำ หรือเสื้อผ้าที่เราใส่ เพื่อให้เหมาะสม ดูสวยงาม และสามารถรองรับหน้าอกของเราได้อย่างถูกต้อง
เสื้อชั้นในแบบมีโครง เพิ่มโอกาสในการเป็นมะเร็งเต้านมจริงหรือ?
หนึ่งในความเชื่อที่เราอาจจะเคยได้ยินกันมาว่า การใส่เสื้อชั้นในแบบมีโครง จะทำให้มีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมเพิ่มมากขึ้น ความเชื่อนี้เป็นเพียงความเชื่อผิด ๆ ที่ยังไม่มีหลักฐานที่ได้รับการยืนยันทางวิทยาศาสตร์ มีงานวิจัยที่พยายามหาความเชื่อมโยงระหว่างการใส่ เสื้อชั้นใน และการเกิดมะเร็งเต้านม แต่ก็พบว่าอัตราการเกิดมะเร็งเต้านมในกลุ่มผู้หญิงที่ใส่เสื้อชั้นในกับไม่ใส่เสื้อชั้นในนั้นแทบจะไม่มีความแตกต่างใด ๆ มีเพียงแค่ผู้หญิงที่ไม่ได้ใส่เสื้อชั้นใน มักจะเป็นผู้หญิงที่มีน้ำหนักตัวในเกณฑ์ปกติ จึงทำให้มีความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งเต้านมน้อยกว่าผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากแค่นั้นเอง
วิธีการวัดขนาดหน้าอกที่ถูกต้อง
การวัดขนาดของบรานั้น จะมีทั้งการวัดขนาด คัพ (ขนาดเต้า) A-B-C และการวัดไซส์ โดยการวัดขนาดหน้าอกที่ถูกต้องเพื่อเลือกเสื้อชั้นใน จะมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
- เริ่มวัดรอบอก คือวัดขนาดบริเวณรอบหน้าอก โดยนับที่จุดสูงสุดของหน้าอก หรือบริเวณหัวนมทั้งสองข้าง วัดโดยใช้สายวัดพันคาดผ่านบริเวณหัวนมทั้งสอง แล้วอ้อมไปทางด้านหลัง จนมาบรรจบกัน ใช้หน่วยนับเป็น เซนติเมตร
- วัดรอบลำตัว โดยเลื่อนสายวัดตัวลงมาวัดบริเวณลำตัว ช่วงใต้ราวนม จะได้ขนาดรอบลำตัวมา
- นำ ขนาดรอบอก มาลบกับ ขนาดรอบลำตัว จะได้ขนาดหน้าอกที่ถูกต้อง เช่น หน้าอก 80 เซนติเมตร รอบตัว 70 เซนติเมตร จะได้ 80-70 = 10 เท่ากับขนาดหน้าอก 10 เซนติเมตร
- นำมาเปรียบเทียบขนาดคัพและขนาดไซส์ โดยขนาดของคัพจะดูที่ผลต่างของขนาดรอบอกลบกับขนาดรอบตัว ส่วนขนาดของไซส์จะดูแค่ขนาดรอบตัวอย่างเดียว เวลาเลือกชุดชั้นในก็จะใช้ตัวเลขทั้งสองค่า เช่น A70
ขนาดคัพ
- A = 9 – 11 ซม.
- B = 11.5 – 13.5 ซม.
- C = 14 – 16 ซม.
- D = 16.5 – 18.5 ซม.
- E = 19 – 21 ซม.
- มากกว่า E = 21.5 ขึ้นไป
ขนาดไซส์
- 65 = 63 – 67 ซม.
- 70 = 68 – 72 ซม.
- 75 = 73 – 77 ซม.
- 80 = 78 – 82 ซม.
- 85 = 83 – 87 ซม.
- 90 = 88 – 92 ซม.
- 95 = 93 – 97 ซม.
- 100 = 98 – 102 ซม.
- 105 = 103 – 107 ซม.