หนังศีรษะแห้ง ลอก เกิดขึ้นได้เมื่อหนังศีรษะสูญเสียน้ำหรือน้ำมัน เนื่องจากปัญหาด้านสุขอนามัยรวมถึงโรคผิวหนังชนิดต่าง ๆ ทั้งนี้ เมื่อพบว่าหนังศีรษะแห้งและลอก ควรดูแลตัวเองด้วยการสระผมให้น้อยลง หมักหนังศรีษะด้วยน้ำมันมะกอก หรือใช้ยารักษาโรคในรูปแบบครีมหรือยา
[embed-health-tool-bmi]
หนังศีรษะแห้งและลอก เกิดจากอะไร
หนังศีรษะแห้ง เกิดขึ้นเมื่อหนังศีรษะสูญเสียน้ำ หรือมีน้ำมันน้อยเกินไป ทำให้หนังศีรษะไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้
เมื่อหนังศีรษะแห้งทำให้เกิดอาการคัน ระคายเคือง และลอกเป็นขุยหรือหลุดออกเป็นแผ่น ๆ
สำหรับสาเหตุของหนังศีรษะแห้งนั้นมีหลายประการ ดังนี้
- สระผมบ่อยเกินไป การสระผมบ่อย ๆ ทำให้น้ำมันบนศีรษะถูกล้างออก ส่งผลให้หนังศีรษะและเส้นผมแห้ง
- แพ้ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผม สารเคมีในแชมพู ครีมนวดผม หรือยาย้อมผม อาจทำให้แพ้ได้ โดยมักมีอาการหนังศีรษะแห้ง แดง คัน และลอก
- สภาพอากาศ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว อากาศที่เย็นและแห้งอาจทำให้หนังศีรษะและผิวหนังบริเวณอื่นของร่างกายแห้งได้
- โรคผิวหนัง อาการหนังศีรษะแห้ง ลอก อาจเป็นอาการของโรคผิวหนังบางชนิด เช่น โรคสะเก็ดเงิน โรคกลาก โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง โรคเซ็บเดิร์ม ผื่นแอกทินิกเคอราโทซิส (Actinic Keratosis) ซึ่งเป็นผื่นผิวหนังที่มีลักษณะหยาบเป็นขุย สามารถกลายพันธุ์เป็นเซลล์ก่อมะเร็งได้ เกิดจากผิวหนังสัมผัสแสงแดดเป็นประจำ และมักพบในผู้ชายที่ผมร่วง รวมถึงผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป
หนังศีรษะแห้ง ลอก ต่างกับรังแคอย่างไร
หนังศีรษะที่แห้งและลอกออกมา ต่างกับรังแคดังนี้
- หนังศีรษะแห้ง ลอก มีขนาดเล็ก แห้ง และมักพบร่วมกับผิวแห้งตามส่วนอื่นของร่างกาย
- รังแค มีลักษณะมัน หลุดลอกเป็นแผ่นซึ่งมักมีขนาดใหญ่กว่าหนังศีรษะที่แห้งและลอกออกมา
หนังศีรษะแห้ง เมื่อเป็นแล้วควรดูแลตัวเองอย่างไร
หากพบว่าหนังศีรษะแห้ง ลอก อาจดูแลตัวเองให้อาการดีขึ้นได้ด้วยวิธีต่อไปนี้
- เลือกสระผมเพียงบางวัน หากมีผมหยาบเลือกสระ 1 ครั้ง/สัปดาห์ และหากมีผมเส้นเล็กให้เลือกสระประมาณ 2-3 ครั้ง/สัปดาห์ ทั้งนี้ ควรใช้แชมพูสำหรับหนังศีรษะแห้งด้วย เพราะมีคุณสมบัติลดการแห้งและลอกของหนังศีรษะ
- ควรหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นสาเหตุของการแพ้ หากหนังศีรษะแห้ง ลอก เกิดจากการแพ้ ควรหยุดใช้เพื่อให้หนังศีรษะกลับคืนสู่สภาพปกติ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการเกาหนังศีรษะเมื่อคัน เนื่องจากการเกาจะทำให้ผิวหนังระคายเคืองหรืออาการแย่ลงได้
- ทายาคอร์ติโซน (Cortisone) เพื่อบรรเทาอาการคันเมื่อมีผื่น
- เลือกอาบน้ำอุณหภูมิห้องแทนอาบน้ำอุ่นหรือน้ำร้อน เพราะการอาบน้ำอุ่นหรือน้ำร้อน โดยเฉพาะเมื่ออาบเป็นเวลานาน อาจทำให้หนังศีรษะแห้งกว่าเดิมได้
- หลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังกำเริบ เช่น สบู่ แชมพูฤทธิ์แรง หรือความเครียด
- สระผมด้วยแชมพูที่ผสมน้ำมันดิน (Coal Tar) หากเป็นโรคสะเก็ดเงินเพื่อบรรเทาอาการคันหรืออักเสบ
- ทายาที่หนังศีรษะ หากเป็นโรคกลากหรือโรคแอกทินิกเคอราโทซิส ควรทายาที่ได้รับจากคุณหมอหรือเภสัชกร นอกจากนี้ ผู้ป่วยโรคกลากควรสระผมด้วยแชมพูยาที่มีส่วนผสมของซีลีเนียม ซัลไฟด์ (Selenium Sulfide) ด้วย
- หมักหนังศรีษะด้วยน้ำมันมะกอก 20 นาทีก่อนสระผม
หนังศีรษะแห้งและลอก ป้องกันอย่างไร
การป้องกันหนังศีรษะแห้ง ลอก ทำได้หลายวิธี ดังนี้
- สระผมเพียงบางวัน หรือ 1-3 ครั้ง/สัปดาห์
- สระผมด้วยแชมพูที่อ่อนโยนต่อหนังศีรษะ
- ดื่มน้ำให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนังและหนังศีรษะ
- จัดการความเครียด ด้วยการทำกิจกรรมที่ชอบ หรือทำสมาธิ
- งดสูบบุหรี่ เพราะสารนิโคตินในบุหรี่ทำให้เลือดไหลไปเลี้ยงหนังศีรษะน้อยลง ซึ่งทำให้หนังศีรษะแห้งได้