แพ้ครีมทาผิว เป็นปฏิกิริยาของผิวหนังหลังจากสัมผัสกับสารเคมีบางอย่างที่เป็นส่วนผสมในครีมทาผิว อาการที่พบโดยส่วนมาก ได้แก่ เกิดผื่นแดง คัน ผิวบวมนูน หากเกิดอาการแพ้ ควรหยุดใช้ครีมทาผิวทันทีและงดการใช้ครีมอื่น ๆ ทุกชนิดเช่นกัน นอกจากนั้น ควรเข้าพบคุณหมอ โดยส่คุณหมอมักรักษาด้วยการจ่ายยาลดการอักเสบ หรือยาปฏิชีวนะ ทั้งนี้ อาการแพ้ครีมทาผิวอาจป้องกันได้โดยการเลือกซื้อครีมให้เหมาะกับสภาพผิว รวมทั้งอาจเข้ารับการทดสอบอาการแพ้ก่อนตัดสินใจซื้อครีม เพื่อจะได้ทราบว่าควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดนสารชนิดใดบ้าง
[embed-health-tool-bmi]
แพ้ครีมทาผิว เกิดจากอะไร
การแพ้ครีมทาผิว เป็นปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกายต่อสารต่าง ๆ ในครีมทาผิวที่ทำให้ผิวหนังระคายเคืองหรือเป็นสารก่อภูมิแพ้ เช่น
- น้ำหอม
- สารเคมี
- น้ำมันหอมระเหย
- กรดต่าง ๆ เช่น กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) กรดไฮโปคลอรัส (Hypochlorous Acid) กรดกลุ่มอัลฟาไฮดรอกซี (Alpha Hydroxy Acids)
- สารกันบูด เช่น สารกลุ่มพาราเบน (Parabens)
- สารสกัดจากสัตว์ เช่น ลาโนลิน (Lanolin) ที่สกัดจากขนแกะ
ในทางการแพทย์ แพ้ครีมทาผิวจัดเป็นอาการของโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า โรคผื่นแพ้สัมผัส (Contact Dermatitis) ซึ่งพบได้ทั่วไป โดยแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้
- โรคผิวหนังชนิดผื่นระคายสัมผัส (Irritant Contact Dermatitis) เป็นผื่นแพ้ประเภทที่พบได้บ่อยสุด หรือราว 80 เปอร์เซ็นต์ของผื่นระคายสัมผัสทั้งหมด ผื่นระคายสัมผัสเป็นอาการเนื่องจากผิวหนังเสียหายหรือถูกทำลายจากการสัมผัสกับสารประกอบต่าง ๆ หรือสารเคมีที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน อย่างสบู่ ยาสระผม โลชั่น น้ำยาปรับผ้านุ่ม หรือน้ำหอม โดยทั่วไป ผื่นระคายสัมผัสจะเกิดขึ้นหลังจากสัมผัสกับสารเคมีฤทธิ์แรงเพียงไม่กี่นาทีหรือไม่กี่ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่สัมผัสโดนสารเคมีฤทธิ์อ่อน ผื่นระคายสัมผัสอาจใช้เวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์กว่าจะแสดงอาการ
- โรคผิวหนังชนิดผื่นแพ้สัมผัส (Allergic Contact Dermatitis) เป็นผื่นระคายสัมผัสที่เกิดจากการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันต่อสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ อาทิ น้ำยาย้อมผม ยางพารา ยาบางชนิด สารกันเสีย สารประกอบในครีมกันแดด โดยทั่วไป ผื่นแพ้สัมผัสจะเริ่มเป็นหลังจากสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ไปแล้ว 12 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้น และอาการผื่นแพ้สัมผัสมักจะมีอาการชัดเจนมากขึ้นหลังจากสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ไปแล้วประมาณ 48 ชั่วโมง
แพ้ครีมทาผิว มีอาการอย่างไร
อาการแพ้ครีมทาผิวอาจเกิดขึ้นหลังจากใช้ครีมไปแล้วประมาณ 1 ชั่วโมงหรือไม่กี่นาที และอาจเกิดขึ้นได้ตามผิวหนังทุกส่วนของร่างกาย โดยอาการที่พบได้บ่อย มีดังนี้
- ผื่นแดง โดยปกติจะหายเองภายใน 24 ชั่วโมง
- ผิวหนังเป็นปื้นแดง แห้ง หรือลอกเป็นขุย
- ผิวหนังมีอาการคัน บวม นูน
- ผิวหนังมีตุ่มน้ำใส ๆ ขึ้น
แพ้ครีมทาผิว ควรทำอย่างไร
เมื่อแพ้ครีมทาผิว ควรหยุดใช้ครีมที่เป็นสาเหตุของการแพ้ รวมถึงครีมอื่น ๆ ที่ไม่ใช่สาเหตุของการแพ้ เนื่องจากสารเคมีบางอย่างในครีมเหล่านั้น อาจทำให้อาการแพ้หายได้ช้าลงหรือกำเริบมากขึ้นได้
โดยทั่วไป เมื่อหยุดใช้ครีมที่ทำให้เกิดอาการแพ้ อาการแพ้ครีมจะทุเลาลงและค่อย ๆ หายไปเองภายใน 1 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม หากอาการแพ้ไม่ดีขึ้นภายใน 1-3 สัปดาห์ หรือมีอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบไปพบคุณหมอ
- อาการระคายเคืองเนื่องจากผื่น รู้สึกคันจนรบกวนการดำเนินชีวิตประจำวัน หรือทำให้นอนไม่หลับ
- เกิดผื่นขึ้นแบบกะทันหัน แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว และสร้างความเจ็บปวดอย่างรุนแรง
แพ้ครีมทาผิว รักษาอย่างไร
หากมีอาการแพ้ครีมทาผิว คุณหมออาจใช้วิธีการรักษาด้วยการจ่ายยาบางชนิด ดังต่อไปนี้
- ครีมสเตียรอยด์ ซึ่งมีฤทธิ์แก้อักเสบ ใช้ทาเพื่อลดจำนวนผื่นบนผิวหนัง วันละ 1-2 ครั้ง ติดต่อกันทุกวันเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์
- ยาเม็ดสำหรับรับประทาน เช่น ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งการอักเสบ หรือยาแก้แพ้ซึ่งช่วยบรรเทาอาการคัน หรืออาการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ยาแก้แพ้ (Antihistamine )
แพ้ครีมทาผิว ป้องกันอย่างไร
การแพ้ครีมทาผิว อาจป้องกันได้ หากดูแลตนเองและปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้
- เข้ารับการทดสอบผื่นแพ้ (Patch Test) ที่สถานพยาบาล เพื่อจะได้ทราบว่าตัวเองแพ้สารชนิดใด หรือควรหลีกเลี่ยงสารชนิดใด โดยทั่วไป การทดสอบผื่นแพ้ จะทำโดยการปิดพลาสเตอร์ที่มีสารก่อภูมิแพ้บนผิวหนังเป็นเวลา 48-96 ชั่วโมง เพื่อตรวจสอบปฏิกิริยาของผิวหนังที่มีต่อสารที่ใช้ทดสอบ
- ปรึกษาเภสัชกรก่อนซื้อครีม หรือผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม รวมทั้งการอ่านฉลากให้ละเอียดก่อนเลือกซื้อสินค้าเพื่อตรวจสอบว่าไม่มีสารที่เป็นสาเหตุของอาการแพ้เป็นส่วนผสม
- เลือกซื้อครีมที่มีส่วนผสมไม่หลากหลาย หรือมีส่วนผสมเพียง 2-3 อย่าง เพื่อลดโอกาสผิวหนังสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ และควรเลือกซื้อครีมที่ปราศจากน้ำหอมเพราะอาจเป็นสาเหตุของการระคายเคืองหรืออาการแพ้ได้