ผื่นแพ้สัมผัส (Contact Dermatitis) คือ อาการผื่นแดงที่เกิดขึ้นจากการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้หรือสารบางอย่างที่ทำให้เกิดอาการระคายเคือง ผดผื่นเหล่านี้อาจทำให้เกิดอาการคันและไม่สบายตัว แต่ไม่อันตรายถึงแก่ชีวิต และสามารถป้องกันได้โดยการหลีกเลี่ยงสารที่อาจทำให้เกิดความระคายเคือง
คำจำกัดความ
ผื่นแพ้สัมผัส คืออะไร
ผื่นแพ้สัมผัส (Contact Dermatitis) คือ อาการผื่นแดงที่เกิดขึ้นจากการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้หรือสารบางอย่างที่ทำให้เกิดอาการระคายเคือง ผดผื่นเหล่านี้อาจทำให้เกิดอาการคันและไม่สบายตัวเป็นอย่างมาก แต่ไม่อันตรายถึงแก่ชีวิต และสามารถป้องกันได้โดยการหลีกเลี่ยงสารที่อาจทำให้เกิดความระคายเคือง
สารที่อาจเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการผื่นแพ้สัมผัสนี้มีมากมาย เช่น สบู่ น้ำหอม น้ำยาล้างจาน ผงซักฟอก นอกจากนี้ การสัมผัสสารก่อภูมิแพ้บางอย่าง เช่น ยาย้อมผม นิกเกิล ยาสำหรับใช้ภายนอกบางชนิด ก็อาจทำให้เกิดอาการผื่นแพ้สัมผัสได้เช่นกัน
ผื่นแพ้สัมผัส พบได้บ่อยแค่ไหน
โรคผื่นแพ้สัมผัสเป็นโรคที่สามารถพบได้ทั่วไป และสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดปรึกษาคุณหมอ
อาการ
อาการของผื่นแพ้สัมผัส
อาการของโรคผื่นแพ้สัมผัสมักเกิดขึ้นบนผิวหนังบริเวณที่สัมผัสกับสารก่ออาการแพ้โดยตรง และสามารถเกิดขึ้นได้ภายในเวลาไม่กี่นาทีหลังการสัมผัส หรือหลายชั่วโมงหลังจากนั้น อาการของผื่นแพ้สัมผัสอาจแบ่งอาการได้เป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
1. อาการผื่นแพ้สัมผัสจากสารก่อภูมิแพ้
2. อาการผื่นแพ้สัมผัสจากสารระคายเคือง
- แผลพุพอง
- ผิวแห้งมาก
- อาการบวม
- ผิวหนังแข็งขึ้นหรือหนาขึ้น
- ตกสะเก็ด เป็นแผล
ควรไปพบคุณหมอเมื่อใด
หากสังเกตเห็นอาการดังต่อไปนี้ ควรเข้าพบคุณหมอทันที
- รู้สึกระคายเคือง หรือมีอาการคันจากผดผื่นมากจนรบกวนการนอนหลับ
- อาการรุนแรงขึ้น หรือลุกลามอย่างรวดเร็ว
- อาการไม่ยอมหายไป หรือมีอาการนานเกิน 3 สัปดาห์
- มีผดผื่นที่บริเวณอวัยวะเพศ
- มีสัญญาณว่าผิวหนังมีอาการติดเชื้อ เช่น เป็นหนอง เป็นไข้
- หากอาการผื่นแพ้สัมผัสเกิดขึ้นในบริเวณที่สำคัญ เช่น ปอด ดวงตา จมูก และรบกวนการมองเห็น หรือทำให้หายใจไม่สะดวก
หากมีสัญญาณหรืออาการที่ระบุข้างต้น หรือมีคำถามเกี่ยวกับอาการของโรคโปรดปรึกษาคุณหมอ
ร่างกายของแต่ละบุคคลมีการตอบสนองแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดควรปรึกษาแพทย์ เกี่ยวกับวิธีรักษาที่ดีที่สุดตามสถานการณ์ของคุณ
สาเหตุ
สาเหตุของผื่นแพ้สัมผัส
ผื่นแพ้สัมผัส เกิดขึ้นจากการสัมผัสกับสารที่อาจทำให้เกิดความระคายเคือง หรือทำให้เกิดอาการแพ้ ทำให้ร่างกายหลั่งสารเคมีออกมาตอบสนองต่อสารระคายเคืองนั้น ๆ และทำให้เกิดอาการที่ผิวหนัง เช่น อาการคัน อาการระคายเคือง
สารก่อภูมิแพ้และสารระคายเคืองที่อาจพบได้บ่อย ได้แก่
- ถุงมือยาง
- เครื่องประดับที่ทำจากทองหรือนิกเกิล
- น้ำหอม สารเคมีที่ใช้ในเครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
- พืชมีพิษ
- สบู่ ผงซักฟอก และน้ำยาทำความสะอาด
- แอลกอฮอล์ล้างแผล
- น้ำยาฟอกขาว
- ฝุ่นละออง
ปัจจัยเสี่ยง
ปัจจัยเสี่ยงของผื่นแพ้สัมผัส
ผู้ที่มีงานอดิเรกหรือประกอบอาชีพดังตัวอย่างต่อไปนี้ อาจเสี่ยงเกิดผื่นแพ้สัมผัสได้มากกว่าคนกลุ่มอื่น
- พนักงานทำความสะอาด
- ช่างเสริมสวย
- คนงานก่อสร้าง
- แพทย์และพยาบาล
- ช่างเชื่อมเหล็ก
- เชฟ และผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับอาหาร
การวินิจฉัยและการรักษาโรค
ข้อมูลที่นำเสนอไม่สามารถใช้แทนข้อแนะนำทางการแพทย์ได้ โปรดปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
การวินิจฉัยผื่นแพ้สัมผัส
คุณหมออาจซักประวัติและตรวจร่างกายเพื่อดูสัญญาณและอาการของโรค และคุณอาจต้องเข้ารับการทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง (Skin Patch Test) ด้วย เพื่อหาว่าสารอะไรที่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการผื่นแพ้สัมผัส
ในการทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง คุณหมอจะเลือกสารก่อภูมิแพ้ที่พบบ่อยมาประมาณ 10-20 ชนิด และหยดหรือฉีดสารเหล่านั้นในปริมาณเล็กน้อยลงบนผิวหนัง จากนั้นรอประมาณ 20 นาทีเพื่อดูว่าผิวหนังมีปฏิกิริยาอย่างไร และจะทำให้ทราบว่าผู้ป่วยมีอาการแพ้ต่อสารอะไร
การรักษาผื่นแพ้สัมผัส
โดยปกติแล้ว โรคผื่นแพ้สัมผัสอาจรักษาได้ด้วยการให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงสารที่ทำให้เกิดอาการระคายเคือง โดยในระหว่างนั้น คุณหมออาจแนะนำให้ผู้ป่วยดูแลตัวเองที่บ้าน อาการของผื่นแพ้สัมผัสอาจหายไปได้เอง หลังจากหลีกเลี่ยงสารที่ทำให้ระคายเคือง
อย่างไรก็ตาม หากอาการผื่นแพ้สัมผัสยังไม่หายไปแม้จะหลีกเลี่ยงสารระคายเคืองแล้ว คุณหมออาจสั่งให้ใช้ยา เช่น
- ยาสเตียร์รอยด์ (Steroid) สำหรับใช้ภายนอก เช่น ยาครีม ยาขี้ผึ้ง มาทาบริเวณที่มีอาการ เพื่อช่วยบรรเทาอาการผดผื่นให้ลดลง
- ยาสำหรับรับประทาน ในกรณีรุนแรง แพทย์อาจสั่งให้รับประทานยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) เพื่อช่วยลดอาการอักเสบ ยาแก้แพ้เพื่อช่วยบรรเทาอาการแพ้ ยาปฏิชีวนะเพื่อช่วยรักษาอาการติดเชื้อ เป็นต้น
การปรับไลฟ์สไตล์และการดูแลตัวเอง
การปรับไลฟ์สไตล์และการดูแลตัวเองที่ช่วยจัดการกับผื่นแพ้สัมผัส
การปรับพฤติกรรมหรือการดูแลตัวเอง ที่อาจช่วยรับมือโรคผื่นแพ้สัมผัสอาจมีดังนี้
- ทำความสะอาดผิว ล้างสารระคายเคืองบนผิวหนังออกด้วยน้ำสะอาด และสบู่อ่อน ๆ
- พยายามอย่าเกาจุดที่มีอาการคัน เนื่องจากอาจทำให้เกิดแผล และติดเชื้อได้
- หลีกเลี่ยงสารที่อาจทำให้ระคายเคือง เช่น น้ำหอม ผงซักฟอก น้ำยาฟอกขาว หากจำเป็นต้องสัมผัสสารดังกล่าว ควรใส่ถุงมือเพื่อป้องกันผิว และก็ควรหลีกเลี่ยงสบู่หรือยาสระผมที่มีส่วนผสมของน้ำหอมด้วยเช่นกัน
- ทาวาสลีนในบริเวณที่มีอาการ เพื่อช่วยลดอาการคัน และผิวแตกแห้ง
หากมีคำถาม โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อให้เข้าใจวิธีการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
[embed-health-tool-heart-rate]