หูชั้นนอกอักเสบ เป็นภาวะอักเสบของหูชั้นนอกซึ่งเกิดจากการติดเชื้อ มีอาการตั้งแต่ไม่รุนแรงไปจนถึงรุนแรงมากหากไม่ได้รับการรักษา เช่น อาการคัน เจ็บปวดในหู หนองไหลมีกลิ่นเหม็น หรืออาจทำให้การได้ยินลดลง ดังนั้นจึงควรรู้เกี่ยวกับสาเหตุ การรักษา และการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่รุนแรงตามมา
คำจำกัดความ
หูชั้นนอกอักเสบ คืออะไร
หูชั้นนอกอักเสบ คือ การติดเชื้อในช่องหูชั้นนอกซึ่งเป็นท่อระหว่างหูชั้นนอกกับแก้วหู ทำให้เกิดอาการอักเสบ โดยมีลักษณะผิวที่หนา แดงบวม ทำให้รู้สึกไม่สบายหู หรือคันหู
อาการ
อาการหูชั้นนอกอักเสบ
อาการของหูชั้นนอกอักเสบในระยะแรกมักไม่รุนแรง แต่หากไม่ได้รับการรักษาจนเกิดการติดเชื้อ อาจทำให้อาการรุนแรงขึ้นได้ ซึ่งระดับ ของอาการจะเริ่มที่ไม่รุนแรง ระยะปานกลาง และระยะรุนแรง ดังนี้
ระยะไม่รุนแรง
- ในช่องหูมีสีแดงเล็กน้อย
- รู้สึกไม่สบายหู และมีอาการคันในช่องหู
- ของเหลวมีกลิ่นเหม็นไหลออกมาจากหู
ระยะปานกลาง
- อาการคันรุนแรงขึ้น และเจ็บปวด
- ในช่องหูมีสีแดงมากขึ้น
- รู้สึกมีสิ่งอุตันในช่องหู เนื่องจากการบวมและของเหลวภายในหู
- ของเหลวมีกลิ่นเหม็นไหลออกมาจากหูมากขึ้น
- การได้ยินลดลง
ระยะรุนแรง
- ช่องหูชั้นนอกบวมและแดง
- ต่อมน้ำเหลืองที่คอบวม
- การอุดตันในช่องหูจากอาการบวมและของเหลวภายในหูมากขึ้น
- มีอาการปวดอย่างรุนแรงซึ่งอาจลุกลามไปที่ใบหน้า คอ หรือศีรษะ
- มีไข้
ควรไปพบคุณหมอเมื่อใด
คุณควรไปพบคุณหมอ เมื่อมีอาการต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้น
ร่างกายของแต่ละบุคคลมีการตอบสนองแตกต่างกัน ควรปรึกษาคุณหมอเกี่ยวกับวิธีรักษาที่ดีที่สุดตามสถานการณ์และระดับความรุนแรง
สาเหตุ
สาเหตุของหูชั้นนอกอักเสบ
โดยปกติช่องหูชั้นนอกจะสร้างขี้หู เพื่อป้องกันการติดเชื้อและกีดขวางการเจริญเติบโตของแบคทีเรียตามธรรมชาติ แต่เมื่อผิวหนังในช่องหูเกิดรอยแผล หรือรอยขีดข่วน เชื้อโรคก็อาจเข้ามาในช่องหูและทำให้เกิดการติดเชื้อได้ ด้วยสาเหตุต่าง ๆ ดังนี้
- การแคะหู การใช้ไม้แคะหู เล็บ หรือกิ๊บติดผม ทำความสะอาดหู และการใช้หูฟัง หรือที่อุดหู สิ่งเหล่านี้อาจทำให้เกิดรอยขีดข่วนหรือบาดแผลภายในรูหูได้
- ความระคายเคืองและโรคผิวหนัง เครื่องสำอาง หรือเครื่องประดับอาจสร้างความระคายเคืองให้กับผิวหนังได้ นอกจากนี้ โรคผิวหนัง เช่น สิว กลาก โรคสะเก็ดเงิน โรคผิวหนังอักเสบ เป็นสภาพผิวหนังที่อาจทำให้เกิดการอักเสบได้
- ความชื้นในช่องหู การว่ายน้ำ หรืออาบน้ำ อาจทำให้เกิดความชื้นในหู ส่งผลให้ขี้หูในช่องหูน้อยลง ซึ่งอาจทำให้เชื้อโรคเข้าไปในหูได้ง่ายขึ้น
- อายุ หูชั้นนอกอักเสบมักพบบ่อยในเด็กและวัยรุ่น
ปัจจัยเสี่ยง
ปัจจัยเสี่ยงหูชั้นนอกอักเสบ
ปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดการติดเชื้อในหู มีดังนี้
- สัมผัสกับการปนเปื้อนของแบคทีเรียในน้ำ
- ใช้อุปกรณ์ที่เกี่ยวกับหู เช่น หูฟัง ที่อุดหู เครื่องช่วยฟัง
- ทำความสะอาดช่องหูด้วยไม้แคะหู หรือของแข็งอย่างกิ๊บติดผม เล็บ
- ความชื้นในหูมากเกินไป ซึ่งอาจเกิดจากสภาพอากาศ เหงื่อ การว่ายน้ำ หรือการอาบน้ำ
การวินิจฉัยและการรักษา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาคุณหมอทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
การวินิจฉัยหูชั้นนอกอักเสบ
คุณหมอจะทำการซักประวัติและตรวจร่างกาย เพื่อทำการวินิจฉัยโรคหูชั้นนอกอักเสบ หากมีไข้หรือมีอาการที่รุนแรง คุณหมออาจทดสอบโดยการย้อมแกรม (Gram Staining) เป็นเทคนิคการย้อมสีเซลล์ของแบคทีเรีย ซึ่งเป็นเทคนิคสำคัญที่ใช้ในการศึกษาเซลล์ของแบคทีเรียร่วมกับกล้องจุลทรรศน์ และเพาะเลี้ยงเชื้อเพื่อหาสาเหตุว่าเกิดจากแบคทีเรียหรือเชื้อรา
การรักษาหูชั้นนอกอักเสบ
การรักษาในเบื้องต้นคุณหมอจะทำความสะอาดสิ่งสกปรกภายในหู เช่น ผิวหนังที่ตายแล้ว ของเหลวมีกลิ่นเหม็น โดยใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide) เพื่อเช็ดทำความสะอาด หรือใช้อุปกรณ์ดูดออกมา
หากมีอาการรุนแรงมากคุณหมออาจให้ใส่ผ้าก๊อซเล็ก ๆ (Ear Wicks) เข้าไปในหู เพื่อไม่ให้ยาหยอดหูกระจายไปบริเวณอื่นมากเกินไป ซึ่งการใช้ยาแต่ละชนิดจะอยู่ในรูปแบบของยาเฉพาะที่ และขึ้นอยู่กับลักษณะของการเกิดโรคหูชั้นนอกอักเสบ ดังนี้
- ยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เช่น สารละลายกรดอะซิติก 2% (Acetic Acid Solution) โพลีมัยซินบี (Polymixin B) อะมิโนไกลโคไซด์ (Aminoglycoside) ฟลูออโรควิโนโลน (Fluoroquinolone)
- ยาต้านเชื้อรา เช่น สารละลายกรดอะซิติก 2% (Acetic Acid Solution) โคลไตรมาโซล (Clotrimazole) ไอทราโคนาโซล (Itraconazole)
- สเตียรอยด์รักษาอาการบวม
- ยาที่ช่วยคืนความสมดุลภายในช่องหู ทำให้เชื้อโรคไม่สามารถเติบโตได้
การปรับไลฟ์สไตล์และการดูแลตัวเอง
การปรับไลฟ์สไตล์และการดูแลตัวเองเพื่อช่วยจัดการโรคหูชั้นนอกอักเสบ
การดูแลตัวเองเพื่อป้องกันหูชั้นนอกอักเสบ อาจทำได้ดังนี้
- หลังจากการอาบน้ำหรือว่ายน้ำควรทำให้หูแห้งอยู่เสมอ โดยการเอียงหัวไปด้านข้างเพื่อให้น้ำไหลออก หรือใช้ผ้าขนหนูเช็ดบริเวณหูชั้นนอกให้แห้ง
- หลีกเลี่ยงการว่ายน้ำในทะเลสาบหรือแม่น้ำ เพราะอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรียจำนวนมาก
- สวมที่อุดหูหรือหมวกว่ายน้ำปิดหูในขณะว่ายน้ำเพื่อให้ภายในช่องหูแห้ง นอกจากนี้ หากต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นสเปรย์ควรเอามือผิดหู หรือใช้สำลีอุดหูเพื่อป้องกันการระคายเคือง
- หากเคยติดเชื้อที่หูควรปรึกษาคุณหมอก่อนว่ายน้ำ
- ไม่ควรแกะหรือเกาในช่องหู หรือใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดแหย่เข้าไปในช่องหูลึก ๆ เพราะอาจทำให้เกิดบาดแผลและระคายเคืองได้