คำจำกัดความ
โรคแองจีโออีดีมา คืออะไร
โรคแองจีโออีดีมา (Angioedema) เป็นอาการบวมภายใต้ผิวหนังที่เกิดจากการแพ้ มีอาการคล้ายลมพิษ เพียงแต่ลมพิษมีจะมีอาการแค่ที่บริเวณพื้นผิวของผิวหนังและทำให้เกิดอาการคัน ในระหว่างการมีอาการแพ้ ร่างกายจะมีปฏิกริยากับสารก่อภูมิแพ้ (สารที่ทำให้ร่างกายเกิดปฏิกริยา) โดยการปล่อยสารฮีสทามีนในการสูบฉีดเลือด โรคแองจีโออีดีมาสามารถมีผลกระทบกับริมฝีปากและรอบดวงตา ในกรณีที่รุนแรง โรคแองจีโออีดีมาทำให้ลิ้นและคอบวมซึ่งทำให้หายใจลำบาก จึงจำเป็นต้องมีการบำบัดและใช้ยารักษา
โรคแองจีโออีดีมาพบบ่อยแค่ไหน
โรคแองจีโออีดีมาเป็นโรคที่พบได้ทั่วไป ประมาณ 15% ถึง 20% ของคนทั่วไปต้องเคยเป็นโรคลมพิษหรือโรคแองจีโออีดีมาสักครั้งหนึ่ง โรคนี้เกิดขึ้นได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง โปรดปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
อาการ
อาการของโรคแองจีโออีดีมาเป็นอย่างไร
อาการหลักของโรคคืออาการบวมลึกลงไปที่ใต้ผิวหนัง บางครั้งอาจเป็นรอยแดง และมีอาการปวด อาการบวมที่จุดใดจุดหนึ่งมักยาวนานแค่เพียงหนึ่งหรือสองวัน แต่อาการบวมที่เปลี่ยนที่ไปมักยาวนานหลายวันหรือเป็นเรื้อรัง โรคแองจีโออีดีมาเรื้อรังแม้จะทำให้ไม่ค่อยสบายตัวและทำให้แสบคันแต่ไม่เกิดอาการรุนแรงนัก
โรคแองจีโออีดีมาสามารถเกิดขึ้นบนส่วนใดของร่างกายก็ได้ แต่มักจะเกิดที่รอบดวงตา ริมฝีปาก ลิ้น และคอ หากเกิดอาการภายนอกร่างกายนั้นจะไม่เป็นอันตราย แต่โรคนี้อาจเกิดอาการภายในร่างกายได้เช่นกัน เช่น ในลำไส้ หรือปอด (ทางเดินลมหายใจ) ซึ่งทำให้หายลำบาก และอาจเกิดอาการรุนแรงและเป็นอันตราย
อาจมีอาการอื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึง หากมีอาการใดควรไปหาแพทย์
ควรพบหมอเมื่อใด
อาการที่ไม่รุนแรงไม่จำเป็นต้องใช้การรักษา แต่ต้องรักษาอาการที่รุนแรงมาก โปรดปรึกษาแพทย์หากว่ามีอาการยาวนานหลายวัน หายใจลำบาก หรือมีอาการแย่ลง
สาเหตุ
มักเกิดจากการแพ้ยา การรับประทานอาหารที่ไม่เคยรับประทาน หรือใช้น้ำหอมใหม่ แต่การใช้ยาหรืออาหารที่เคยใช้ก็อาจส่งผลในภายหลังเช่นกัน โรคแองจีโออีดีมาไม่สามารถตรวจจับและไม่ใช่อาการติดเชื้อ ถึงแม้ว่าการติดเชื้ออาจเป็นสาเหตุหนึ่ง แต่โรคนี้มักจะเกิดจากพันธุกรรมมากกว่า
ปัจจัยเสี่ยง
มีหลายปัจจัยที่เสี่ยงในการเป็นโรคแองจีโออีดีมา เช่น
- การแพ้อาหารและสารเคมี
- ระบบภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง เช่น ลูปัส (Lupus) มะเร็งเม็ดเลือดขาว และมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
- มีสมาชิกครอบครัวที่เป็นโรคแองจีโออีดีมา
การวินิจฉัยและการรักษาโรค
ข้อมูลดังกล่าวไม่ใช่คำแนะนำในการใช้ยา โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อข้อมูลเพิ่มเติม
การวินิจฉัยโรคแองจีโออีดีมา
แพทย์จะตรวจสอบอาการบวมของผิวและความอ่อนนุ่มของอาการบวมก่อนการวินิจฉัยเบื้องต้น อาจใช้การเจาะตรวจตัวอย่างเลือดโดยไม่ได้มีผลต่อการรักษา แพทย์อาจสอบถามประวัติสมาชิกครอบครัวว่าเคยมีโรคแองจีโออีดีมาหรือไม่
การรักษาโรคแองจีโออีดีมา
การรักษามักใช้เพื่อลดความรุนแรงของอาการ อาการที่ไม่รุนแรงไม่จำเป็นต้องรักษาก็ได้ หากว่ารู้สาเหตุของโรค ให้รักษาที่สาเหตุก่อน การรักษาโรคแองจีโออีดีมาเช่น
- การใช้ความเย็นอาจทำให้สบายตัวขึ้น การใช้โลชั่นหรือครีมอาจไม่มีประโยชน์เพราะไม่สามารถทาผิวแล้วซึมลงไปได้ลึกพอ
- ยาต้านฮิสทามีนเพื่อลดฮิสทามีนในเลือด หากสารก่อการแพ้หายไป ก็จะแก้โรคแองจีโออีดีมาได้ แต่หากว่ามีสารก่อการแพ้ การใช้ยาต้านฮิสทามีนเป็นประจำจะช่วยลดโรคแองจีโออีดีมา การใช้ยาต้านฮิสทามีนอาจมีผลข้างเคียง (ง่วงซึมหรือปากแห้ง) แต่ยาต้านฮิสทามีนบางตัวอาจมีผลข้างเคียงที่น้อยกว่าตัวอื่นๆ
- สเตียรอยด์นั้นเป็นยาที่ให้ผลดีกว่า สามารถใช้เพื่อต้านระบบภูมิคุ้มกัน มักใช้เพื่อกรณีที่รุนแรงเมื่อยาต้านฮิสทามีนอย่างเดียวไม่ได้ผล
การเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตัวเอง
การเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตัวเองแบบใดที่อาจช่วยได้
วิธีการต่อไปนี้อาจช่วยจัดการเรื่องโรคแองจีโออีดีมาได้
- ใช้การประคบเย็นบนพื้นที่ที่บวมและอุ่น
- ใช้ยาที่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์และเภสัชกร
- จดบันทึกสารก่อการแพ้ที่มีความเป็นไปได้ว่าเป็นสาเหตุของโรคแองจีโออีดีมา เช่น อาหารใหม่ๆ ยา สบู่ น้ำหอมหรือเสื้อผ้า จะทำให้ง่ายขึ้นในการหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้แพ้
- ปรึกษาการใช้ยากับแพทย์
- ปรึกษาแพทย์เมื่อการรักษาด้วยยาต้านฮิสทามีนนาน 2-3 วัน ใช้ไม่ได้ผล
หากมีคำถามใด โปรดปรึกษาแพทย์
Hello Health Group ไม่ใช่แหล่งให้คำแนะนำในการใช้ยา การวินิจฉัยหรือการรักษาใด
[embed-health-tool-bmr]