มะเร็งถุงน้ำดี คือ การเกิดเซลล์มะเร็งในเนื้อเยื่อถุงน้ำดี ซึ่งเป็นอวัยวะรูปร่างเหมือนลูกแพร์ มีตำแหน่งอยู่ใต้ตับในช่องท้องส่วนบน ถุงน้ำดีทำหน้าที่เก็บน้ำดี ซึ่งเป็นของเหลวที่สร้างจากตับเพื่อย่อยไขมัน การสังเกตอาการของโรค อาจช่วยให้เข้ารับการวินิจฉัยและรักษาได้ตั้งแต่ในระยะแรก ๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการหายขาดได้
คำจำกัดความ
มะเร็งถุงน้ำดี คืออะไร
มะเร็งถุงน้ำดี (Gallbladder cancer) เป็นโรคมะเร็งชนิดหนึ่งที่เซลล์มะเร็งเกิดขึ้นในเนื้อเยื่อถุงน้ำดี
ถุงน้ำดีเป็นอวัยวะรูปร่างเหมือนลูกแพร์ มีตำแหน่งอยู่ใต้ตับในช่องท้องส่วนบน ถุงน้ำดีทำหน้าที่เก็บน้ำดี ซึ่งเป็นของเหลวที่สร้างจากตับ เพื่อย่อยไขมัน เมื่ออาหารเข้าสู่ระบบการย่อยในกระเพาะอาหารและลำไส้ น้ำดีจะถูกปล่อยจากถุงน้ำดีผ่านท่อน้ำดี ซึ่งเชื่อมถุงน้ำดีและตับเข้ากับลำไส้เล็กส่วนต้น
การตรวจพบมะเร็งถุงน้ำดีในระยะแรกสุด เพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาดได้ แต่มะเร็งถุงน้ำดีส่วนใหญ่ มักตรวจพบในระยะหลัง
มะเร็งถุงน้ำดีพบได้บ่อยเพียงใด
มะเร็งถุงน้ำดีเป็นโรคที่พบได้น้อย โดยผู้หญิงมีโอกาสในการเป็นมะเร็งถุงน้ำดีมากกว่าผู้ชาย อย่างไรก็ตาม โรคนี้สามารถจัดการได้โดยลดความเสี่ยง โปรดปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
อาการ
อาการของมะเร็งถุงน้ำดี
มะเร็งถุงน้ำดีตรวจพบและวินิจฉัยในระยะแรกได้ยาก อย่างไรก็ดี อาการที่อาจเป็นสัญญาณของมะเร็งถุงน้ำดี ได้แก่
- ปวดท้อง โดยเฉพาะบริเวณช่องท้องส่วนบน
- ท้องอืด
- มีอาการคัน
- มีไข้
- เบื่ออาหาร
- น้ำหนักลดโดยไม่ตั้งใจ
- คลื่นไส้
- ผิวหนังและตาขาวเป็นสีเหลือง (ดีซ่าน)
ควรไปพบหมอเมื่อใด
การวินิจฉัยและการรักษาในระยะแรก จะช่วยชะลอการพัฒนาโรคของมะเร็งถุงน้ำดี และป้องกันภาวะฉุกเฉินอื่น ดังนั้น หากพบสัญญาณบ่งชี้ของโรคมะเร็งถุงน้ำดี ควรปรึกษาคุณหมอโดยเร็วที่สุดเพื่อป้องกันภาวะรุนแรง
สาเหตุ
สาเหตุของ มะเร็งถุงน้ำดี
ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของมะเร็งถุงน้ำดี แต่ปัจจัยเหล่านี้ อาจส่งผลให้เกิดมะเร็งชนิดนี้ได้
- การสูบบุหรี่
- การสัมผัสกับสารเคมีบางชนิด เช่น สารหนู แร่ใยหิน
- โรคอ้วน
- การรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น อาหารไขมันสูง อาหารปนเปื้อนสารเคมีอันตราย
การวินิจฉัยและการรักษาโรค
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาคุณหมอทุกครั้งเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
การวินิจฉัยมะเร็งถุงน้ำดี
วิธีที่นิยมใช้ในการวินิจฉัยมะเร็งถุงน้ำดี อาจมีดังนี้
- การตรวจร่างกายและการซักประวัติ การตรวจร่างกายเป็นการตรวจดูสัญญาณสุขภาพทั่วไป รวมถึงตรวจหาสัญญาณของโรค เช่น ก้อนเนื้อ เนื้องอก
- ทดสอบการทำงานของตับ การตรวจตัวอย่างเลือดเพื่อวัดปริมาณสารบางชนิดที่ตับปล่อยเข้าสู่กระแสเลือด
- การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan) ทำให้เห็นภาพที่มีรายละเอียดของพื้นที่ภายในร่างกายมากขึ้น เช่น หน้าอก หน้าท้อง เชิงกราน
- การตรวจด้วยเครื่องสร้างภาพด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) ใช้ในการตรวจวินิจฉัยรอยโรคของผู้ป่วย เพื่อนำมาใช้ในการรักษาและติดตามผลการรักษา
การรักษาโรคมะเร็งถุงน้ำดี
การรักษาโรคมะเร็งถุงน้ำดีขึ้นอยู่กับระยะของมะเร็ง ชนิดของมะเร็ง สภาวะสุขภาพ และอายุของผู้ป่วย โดยวิธีรักษามะเร็งถุงน้ำดีที่นิยมใช้ เช่น
- การผ่าตัด เป็นทางเลือกหนึ่งหากคุณเป็นมะเร็งถุงน้ำดีในระยะเริ่มแรก
- การผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออก
- การผ่าตัดเอาถุงน้ำดีและตับบางส่วนออก มะเร็งถุงน้ำดีที่ขยายออกไปนอกถุงน้ำดีและเข้าไปในตับ
- เคมีบำบัด การใช้ยาฆ่าเซลล์มะเร็งที่เติบโตอย่างรวดเร็ว สามารถให้เคมีบำบัดผ่านทางการฉีด หรือรับประทาน
- การรักษาด้วยรังสี การฆ่าเซลล์มะเร็งด้วยลำแสงพลังงานสูง เช่น รังสีเอกซ์และโปรตอน
หากเป็นมะเร็งถุงน้ำดีระยะลุกลาม การรักษาอาจทำได้ยากมาก และอาจไม่สามารถรักษามะเร็งได้ ในกรณีนี้ การรักษา คือ การจำกัดมะเร็งและดูอาการอย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยมีอายุยาวขึ้น
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการดูแลตัวเอง
การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการดูแลตัวเองเพื่อป้องกันมะเร็งถุงน้ำดี
มะเร็งถุงน้ำดีไม่สามารถป้องกันได้ แต่สามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการปรับไลฟ์สไตล์ให้ส่งเสริมสุขภาพที่ดี เช่น รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และหลากหลาย รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ใในเกณฑ์สุขภาพดี งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์