หนังหุ้มปลายอักเสบ (Balanitis) เกิดจากการติดเชื้อหรือการอักเสบบริเวณส่วนปลายของอวัยวะเพศชาย ส่วนใหญ่จะส่งผลกระทบต่อผู้ชายทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่ไม่เคยขลิบอวัยวะเพศ หรือมีสุขอนามัยที่ไม่ดี จนเกิดการหมักหมมของเชื้อโรคจนอักเสบ นอกจากนี้ เบาหวาน ก็อาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงของภาวะหนังหุ้มปลายอักเสบได้เช่นกัน ผู้ป่วยเบาหวานจึงควรระมัดระวังและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปลอดภัยเพื่อป้องกันเสี่ยงการเกิดหนังหุ้มปลายอักเสบ
[embed-health-tool-bmr]
หนังหุ้มปลายอักเสบในผู้ป่วยเบาหวาน
ในผู้ป่วยเบาหวานที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูงอาจส่งผลให้ปริมาณน้ำตาลที่แฝงอยู่ในปัสสาวะเพิ่มสูงขึ้นด้วย เมื่อปัสสาวะที่เต็มไปด้วยน้ำตาลไหลผ่านไปยังอวัยวะเพศและใต้หุ้มหนังปลายอวัยวะเพศ ก็อาจก่อให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียหรือยีสต์ที่ส่งผลให้หนังหุ้มปลายอักเสบ และอาจทำให้เนื้อบริเวณหนังหุ้มปลายเน่าตาย
นอกจากนี้ เบาหวานยังอาจส่งผลให้ระบบทางเดินปัสสาวะติดเชื้อจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น การทำงานผิดปกติของเซลล์เม็ดเลือดขาวที่เข้าไปต่อสู้กับเชื้อโรค การไหลเวียนของเลือดบกพร่อง จนนำไปสู่การสะสมของแบคทีเรียในปัสสาวะ ทำให้อาจมีหนองปนในปัสสาวะ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ กรวยไตอักเสบ และอาจเกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด หากปล่อยไว้นาน หรือมีการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ดี อาจทำให้ร่างกายต่อสู้กับภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้ได้ยากขึ้น
ประเภทของหนังหุ้มปลายอักเสบ
หนังหุ้มปลายอักเสบอาจแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
- เซอร์ซิเนส บาลานิติส (Circinate Balanitis) อาจเกิดขึ้นกับผู้ชายที่เป็นโรคข้ออักเสบรีแอคทีฟ (Reactive Arthritis) ซึ่งเป็นโรคข้ออักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อ ส่งผลให้หัวองคชาตเกิดแผล อักเสบ บวม และมีรอยแดง
- ซูโดแอปพิเลียลิโอเมทัส เคราโทติก (Pseudoepitheliomatous Keratotic) และเมเคทรัส บาลานิติส ( Micaceous Balanitis) อาจทำให้บริเวณหัวองคชาตเกิดหูดที่เป็นสะเก็ด ภาวะหนังหุ้มปลายอักเสบประเภทนี้พบได้ยาก มักส่งผลกระทบต่อผู้ชายที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ซึ่ง
- ซูน บาลานิติส (Zoon’s Balanitis) เป็นโรคหนังหุ้มปลายอักเสบประเภทที่พบได้บ่อย มักเกิดขึ้นกับเพศชายวัยกลางคนที่ไม่ได้เข้ารับการขลิบ ซึ่งอาจส่งผลทำให้หัวองคชาตแดง อักเสบ และรู้สึกเจ็บปวด
สัญญาณเตือนของหนังหุ้มปลายอักเสบและเบาหวาน
สัญญาณเตือนของหนังหุ้มปลายอักเสบและเบาหวาน อาจสังเกตได้จากอาการเหล่านี้
สัญญาณเตือนของหนังหุ้มปลายอักเสบ
- อวัยวะเพศบวมแดง และมีอาการคัน
- รู้สึกเจ็บแสบร้อนบริเวณผิวหนังหุ้มปลายที่ได้รับผลกระทบ
- มีสารคัดหลั่งสีขาว หรือสีเหลืองจับตัวเป็นก้อน
- มีกลิ่นไม่พึงประสงค์
- อวัยวะเพศเป็นแผล และอาจมีเลือดออกรอบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ
รอยพับบริเวณผิวหนังสามารถดักจับเซลล์ที่ตายแล้ว สารคัดหลั่ง และน้ำมันได้ หากไม่ล้างทำความสะอาดเป็นประจำ สิ่งสกปรกเหล่านี้อาจสะสมและก่อตัวเป็นขี้เปียก ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะหนังหุ้มปลายอักเสบและมีกลิ่นเหม็น นอกจากนี้ หากมีอาการเจ็บแสบขณะปัสสาวะ ควรเข้ารับการรักษาจากคุณหมอทันที เพราะอาจเกิดการติดเชื้อ ส่งผลให้การใช้ชีวิตประจำวัน และทำกิจกรรมทางเพศได้ลำบากขึ้น
สัญญาณเตือนของเบาหวาน
- กระหายน้ำ รู้สึกหิวตลอดเวลา
- มองเห็นสิ่งรอบตัวเป็นภาพซ้อน
- ผิวหนังติดเชื้อ
- เหนื่อยล้าง่าย
- แผลหายช้า
- ปัสสาวะบ่อย
โรคเบาหวานส่งผลต่อโรคหนังหุ้มปลายอักเสบอย่างไร
หนังหุ้มปลายที่แน่นจนไม่สามารถดึงกลับเพื่อเปิดหัวองคชาตได้ อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ของโรคเบาหวานในผู้ชายที่ไม่ได้ขลิบอวัยวะเพศ ผู้ชายประมาณ 25% ที่เป็นโรคหนังหุ้มปลายอักเสบ อาจเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานได้ นอกจากนี้ สภาพแวดล้อมที่มืด อบอุ่น และชื้น ร่วมกับการมีน้ำตาลปนในปัสสาวะ ก็อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคหนังหุ้มปลายอักเสบได้เช่นกัน
สาเหตุของ หนังหุ้มปลายอักเสบจากเบาหวาน
สาเหตุโดยทั่วไปที่อาจทำให้เกิดโรคหนังหุ้มปลายอักเสบ อาจได้แก่ การล้างอวัยวะเพศไม่ถูกวิธี การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคหนองในแท้ โรคหนองในเทียม โรคเชื้อราที่ปากหรือลำคอ แต่สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน อาจเกิดจากสาเหตุดังนี้
- ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้
- อาจเป็นผลข้างเคียงจากยางบางชนิดที่ใช้ในการรักษาโรคเบาหวาน เช่น ดาพากลิโฟลซิน (Dapagliflozin) เนื่องจากยาจะออกฤทธิ์โดยการขับน้ำตาลออกจากร่างกายทางปัสสาวะ ซึ่งน้ำตาลเป็นแหล่งที่ทำให้ยีสต์เจริญเติบโตได้ดี
- มีน้ำหนักเกิน
- มีภาวะที่ทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำไว้ เช่น โรคหัวใจ ตับ ไต
การวินิจฉัย หนังหุ้มปลายอักเสบจากเบาหวาน
คุณหมออาจวินิจฉัยโรคหนังหุ้มปลายอักเสบตามอาการที่เกิดขึ้น และตรวจร่างกายเพื่อตรวจสอบว่าการติดเชื้อเป็นสาเหตุของการเกิดโรคหนังหุ้มปลายอักเสบหรือไม่ นอกจากนี้ คุณหมอยังอาจตรวจสิ่งเหล่านี้
- การตรวจเลือด หรือตรวจปัสสาวะ เพื่อตรวจหาโรคเบาหวานและการติดเชื้ออื่น ๆ
- การตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- การตรวจโรคประจำตัว ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคหนังหุ้มปลายอักเสบ
- การเก็บสารคัดหลั่งบริเวณรูที่ส่วนปลายขององคชาต และส่งไปตรวจสอบในห้องปฏิบัติการ
การรักษา หนังหุ้มปลายอักเสบจากเบาหวาน
ปัญหาหนังหุ้มปลายอักเสบเนื่องจากโรคเบาหวานสามารถบรรเทาอาการด้วยยาต้านเชื้อราโคลไตรมาโซล (Clotrimazole) ยาปฏิชีวนะต้านเชื้อแบคทีเรีย หรือการทาครีมสเตียรอยด์บริเวณหนังหุ้มปลายที่ได้รับผลกระทบ หรืออาจแช่องคชาตในน้ำอุ่นผสมเกลือ เพื่อลดอาการบวม อีกทั้งยังควรรักษาโรคเบาหวานควบคู่ไปด้วย ด้วยการรับประทานยาตามอาการที่คุณหมอกำหนด หรือรับการบำบัดด้วยการฉีดอินซูลิน เพื่อป้องกันหนังหุ้มปลายอักเสบซ้ำ ๆ
วิธีป้องกันหนังหุ้มปลายอักเสบจากเบาหวาน
- การตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเช็กว่าตนเองเสี่ยงเป็นเบาหวานหรือไม่
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมอเกี่ยวกับการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือด
- ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เช่น การเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ไขมันต่ำ ใยอาหารสูง
- ลดน้ำหนัก และออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที
- ล้างใต้หนังหุ้มปลายด้วยสบู่อ่อนเพื่อกำจัดแบคทีเรีย และเช็ดให้แห้ง
- ใส่ถุงยางอนามัยที่ทำจากวัสดุอ่อนโยนต่อผิวอวัยวะเพศ
- ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ในระหว่างที่หนังหุ้มปลายอักเสบ