ปล่อยให้ตนเองอ้วน หากเป็นโรคอ้วนเป็นเวลานาน จนกระทั่งมีไขมันสะสมในช่องท้อง ก็อาจทำให้เสี่ยงเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ หากอยากทราบว่าเป็นโรคอ้วนหรือไม่ อาจตรวจสอบง่าย ๆ ด้วยการวัดรอบเอว โดยข้อมูลจากสมาคมโรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกา (American Heart Association หรือ AHA) และสถาบันโรคหัวใจ ปอด และโลหิตวิทยาแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา (The National Heart, Lung, and Blood Institute หรือ NHLBI) ระบุว่า หากผู้หญิงมีรอบเอวหนากว่า 35 นิ้ว (88.9 เซนติเมตร) หรือผู้ชายมีรอบเอวหนากว่า 40 นิ้ว (101.6 เซนติเมตร) ถือว่าเป็นโรคอ้วนลงพุง ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานได้
นอกจากนี้ หากผู้ป่วยเป็นโรคอ้วนร่วมกับมีปัญหาคอดำและรักแร้ดำ นั่นอาจเป็นสัญญาณของภาวะดื้ออินซูลิน (Insulin Resistance) จึงควรปรึกษาคุณหมอเพื่อหาวิธีลดน้ำหนักที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน
- ไม่รับประทานผักและผลไม้ หรืออาหารที่มีไฟเบอร์
ผักและผลไม้เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ และไฟเบอร์ ซึ่งไฟเบอร์มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง เช่น มีส่วนทำให้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานลดลงได้ นอกจากนี้ ไฟเบอร์ยังช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ และช่วยควบคุมน้ำหนัก ไฟเบอร์พบมากในอาหารประเภทผักและผลไม้ การรับประทานผักและผลไม้ให้มากขึ้น จึงอาจช่วยให้ห่างไกลจากโรคเบาหวานได้
- ลดน้ำหนักเร็วเกินไป หรือลดน้ำหนักในระยะสั้น
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย