backup og meta

โรคหลอดเลือดหัวใจ ภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยใน ผู้ป่วยโรคเบาหวาน

โรคหลอดเลือดหัวใจ ภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยใน ผู้ป่วยโรคเบาหวาน

โรคหลอดเลือดหัวใจ เป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยใน ผู้ป่วยโรคเบาหวาน และยังอาจเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ในผู้ป่วยเบาหวาน ดังนั้น เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ นั่นคือ ต่ำกว่า 140 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์

[embed-health-tool-bmi]

โรคหลอดเลือดหัวใจ ภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยใน ผู้ป่วยโรคเบาหวาน

โรคหลอดเลือดหัวใจ เป็นภาวะแทรกซ้อนที่อาจพบได้บ่อยในผู้ป่วยโรคเบาหวาน และยังอาจเป็นสาเหตุของการการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ในผู้ป่วยโรคเบาหวานอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ป่วยโรคเบาหวานยังอาจมีโอกาสเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจได้มากกว่าคนที่ไม่เป็นโรคเบาหวานถึง 2 เท่า เนื่องจากระดับน้ำตาลที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นระยะเวลานาน ๆ อาจส่งผลให้โครงสร้างหลอดเลือดทำงานผิดปกติ ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสม อาจส่งผลกระทบร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

ประเภทของโรคเบาหวาน

โรคเบาหวานอาจแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้

  • โรคเบาหวานชนิดที่ 1 อาจเกิดจากปัจจัยทางด้านพันธุกรรมและปัจจัยทางด้านสิ่งแวดล้อม แม้ปัจจัยเหล่านี้จะยังไม่แน่ชัด แต่อาจเกิดจากความบกพร่องของระบบภูมิคุ้มกันที่ทำลายเซลล์ในตับอ่อน เนื่องจากตับอ่อนมีบทบาทสำคัญในการผลิตอินซูลิน ซึ่งช่วยในการเผาผลาญน้ำตาลให้เปลี่ยนเป็นพลังงาน ส่งผลให้มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงจนนำไปสู่โรคเบาหวาน
  • ภาวะก่อนเบาหวาน เป็นภาวะที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ แต่ยังไม่สูงพอที่จะวินิจฉัยได้ว่าเป็นโรคเบาหวาน ดังนั้น หากได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะก่อนเบาหวาน อาจป้องกันการพัฒนาของโรคด้วยการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด โดยการลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ แต่หากตรวจพบว่ามีภาวะก่อนเบาหวานแล้วไม่ได้รับการรักษาหรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ก็อาจพัฒนากลายเป็นโรคเบาหวานได้ในที่สุด
  • โรคเบาหวานชนิดที่ 2 อาจเกิดจากตับอ่อนไม่สามารถสร้างอินซูลินได้เพียงพอ หรือร่างกายมีอินซูลินแต่ไม่สามารถนำไปใช้ได้ หรือที่เรียกอีกอย่างว่า ภาวะดื้ออินซูลิน การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ไม่ดี อาจส่งผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง
  • โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นหลังจากตั้งครรภ์ เนื่องจาก การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงตั้งครรภ์อาจทำให้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ยาก ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง รวมถึงอาจทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดภาวะคลอดก่อนกำหนด คลอดบุตรยาก หรือภาวะครรภ์เป็นพิษ

วิธีสังเกตอาการของโรคเบาหวาน

สำหรับอาการของโรคเบาหวาน อาจได้แก่

  • กระหายและอยากอาหารมากเกินปกติ
  • ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืน
  • น้ำหนักลดหรือเพิ่มโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • อ่อนเพลีย
  • หงุดหงิด
  • มองไม่ชัด
  • บาดแผลหายช้า
  • คลื่นไส้
  • ผิวหนังติดเชื้อง่ายและหายช้า
  • ผิวคล้ำขึ้นตามรอยพับของร่างกาย (Acanthosis Nigricans)
  • ลมหายใจมีกลิ่นหวานเหมือนผลไม้
  • รู้สึกชาที่มือหรือเท้า

ลดภาวะแทรกซ้อนโรคหลอดเลือดหัวใจ ในผู้ป่วยโรคเบาหวาน

ยิ่งผู้ป่วยเบาหวานสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับมาตรฐานได้นานเท่าไร สุขภาพก็จะยิ่งดีขึ้น ทั้งยังอาจทำให้โอกาสในการเกิดโรคแทรกซ้อนลดลง นอกจากนั้น ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรได้รับการตรวจเหล่านี้ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน

  • การตรวจค่า HbA1c
  • การตรวจระดับคอเลสเตอรอล
  • การตรวจค่าไต
  • การตรวจค่าสายตา
  • การตรวจสุขภาพเท้า

การควบคุมปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ สามารถป้องกันหรือลดโอกาสของการเกิดโรคนี้ได้ เพราะโรคหลอดเลือดหัวใจอาจมีโอกาสเกิดเพิ่มขึ้นตามจำนวนปัจจัยเสี่ยง สำหรับบางคนการเปลี่ยนแนวทางการดำเนินชีวิต เช่น การวางแผนมื้ออาหารที่ดีต่อหัวใจ การออกกำลังกายเป็นประจำ การรักษาน้ำหนักให้อยู่ในระดับปกติ การเลิกสูบบุหรี่ และการจัดการกับความเครียด ก็อาจช่วยควบคุมความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ แต่ถ้าหากการเปลี่ยนแนวทางการดำเนินชีวิตยังไม่เพียงพอ การใช้ยาก็เป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะควบคุมปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ

ในกรณีที่มีการตรวจพบว่าเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ ควรเข้าพบคุณเพื่อรับการรักษา โดยปฏิบัติตามขั้นตอนการรักษาและรับประทานยาอย่างเคร่งครัดและมีระเบียบวินัย ไม่ปรับยาหรือหยุดยาเอง หากมีอาการไม่พึงประสงค์จากยา หรือทนต่อผลข้างเคียงของยาท่เกิดขึ้นไม่ไหวควรแจ้งมให้คุณหมอทราบเพื่อปรับยา

5 วิธี ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ ในผู้ป่วยโรคเบาหวาน

การลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะกับผู้ป่วยที่เป็นทั้งโรคเบาหวานและโรคหลอดเลือดหัวใจในระยะเริ่มต้น นอกจากการได้รับการรักษาอย่างถูกต้องจากคุณหมอแล้ว การดูแลตนเองและความช่วยเหลือจากครอบครัวก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เพราะฉะนั้นผู้ป่วยเบาหวานและครอบครัวควรร่วมมือกันเพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจด้วย 5 วิธี ดังนี้

  • ศึกษาหาความรู้ไปพร้อมกัน

เกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ เช่น การสูบบุหรี่ มีน้ำหนักเกิน ขาดการออกกำลังกายหรือนั่งเป็นระยะเวลานาน ความดันโลหิตสูง ระดับคอเลสเตอรอลสูง

  • ให้กำลังใจผู้ป่วย

ให้กำลังใจกับผู้ป่วยในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ตลอดจนกระตุ้น สนับสนุน เช่น สนับสนุนว่าการตรวจหัวใจก็สำคัญไม่แพ้การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด การตรวจตา ผิว และเท้าในผู้ป่วยสูงอายุที่มักมีอาการหลงลืมเป็นประจำ การทบทวนความเข้าใจเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงที่ผู้ป่วยอาจได้รับ รวมถึงศึกษาวิธีในการลดความเสี่ยงต่าง ๆ สอบถามผู้ป่วยเกี่ยวกับความชอบส่วนตัวและช่วยเหลือผลักดันผู้ป่วยให้บรรลุถึงเป้าหมายในการลดปัจจัยเสี่ยง

  • มีส่วนร่วมในการวางแผน

ครอบครัวอาจเข้ามามีส่วนร่วมในการวางแผนในการจัดการกับปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เพื่อทำให้สุขภาพหัวใจและหลอดเลือดดีขึ้น นอกจากนี้ ยังอาจทบทวนแผนในการจัดการกับปัจจัยเสี่ยงร่วมกับผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ ตรวจดูว่าผู้ป่วยได้รับการรักษาโรคเบาหวานอย่างถูกต้องหรือไม่ เนื่องจาก ผู้ป่วยเบาหวานกว่าครึ่งไม่สามารถควบคุมการใช้อินซูลินให้บรรลุถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ ดังนั้น คุณหมอ ครอบครัว และผู้ป่วย ควรร่วมกันปรึกษาเกี่ยวกับการวางแผนในการจัดการกับปัจจัยเสี่ยง แผนการรักษา เพื่อวางแผนการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต และพิจารณาแนวทางการบำบัดประเภทอื่น ๆ ร่วมด้วย โดยอ้างอิงจากเป้าหมายของผู้ป่วยและคุณหมอย์ร่วมกัน

  • ร่วมกันตั้งเป้าหมาย

การสังเกตพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของผู้ป่วยและร่วมกันตั้งเป้าหมาย เช่น ผู้ป่วยควรออกกำลังกายระดับปานกลางถึงระดับสูงเป็นเวลา 150 นาที/สัปดาห์ หรือ ถ้าผู้ป่วยมีน้ำหนักเกิน การลดน้ำหนักตัวลง 5% ก็จะส่งผลดีต่อระดับน้ำตาลในเลือด ระดับไขมัน ความดันโลหิต ซึ่งสิ่งเหล่านี้ผู้ป่วยต้องการความเข้าใจ กำลังใจ การสนับสนุน และความช่วยเหลือจากครอบครัว

  • ประเมินความตั้งใจและระบุอุปสรรค

ผู้ป่วยอาจไม่ได้ทำตามแผนที่วางไว้ด้วยเหตุผลหลายประการ เช่น ไม่เข้าใจเกี่ยวกับวิธีการรักษาจึงอาจทำให้ไม่ทำตามคำแนะนำของคุณหมอ ค่ารักษาแพงเกินไป ผลข้างเคียงของการรักษา การรักษายุ่งยากเกินไปและไม่สะดวกสบาย หรือแม้แต่การรักษาไม่เข้ากับความชอบหรือสิ่งสำคัญที่ต้องทำ เป็นต้น ผู้ป่วยอาจไม่บอกสิ่งที่คิดบ่อยครั้งนัก ดังนั้น ครอบครัวอาจต้องคอยซักถาม และช่วยหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาของผู้ป่วย

LIPI-2022-0059

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

Diabetes and cardiovascular disease: Epidemiology, biological mechanisms, treatment recommendations and future research. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4600176/.

Diabetes UK  https://www.diabetes.org.uk/resources-s3/2019-02/1362B_Facts%20and%20stats%20Update%20Jan%202019_LOW%20RES_EXTERNAL.pdf.

Coronary Heart Disease.  https://www.nhlbi.nih.gov/files/docs/public/heart/chd_atglance.pdf.

CORONARY ARTERY DISEASE MANAGEMENT. https://www.healthpartners.com/ucm/groups/public/@hp/@public/documents/documents/entry_185904.pdf

CARING FOR SOMEONE WITH TYPE 1 DIABETES  https://www.kydiabetes.net/images/files/Type%201%20Caring%20for%20Diabetes%20for%20Parent%20and%20Caregivers.pdf

DIABETES EARLY SYMPTOMS AND SIGNS. https://www.pita.org.uk/images/Diabetes.pdf

.Risk of diabetes among related and unrelated family members. https://vbn.aau.dk/ws/portalfiles/portal/319554952/Journal_Preproof_Aasbjerg_et_al_Risk_of_diabetes_among_related_and_unrelated_family_members.pdf

เวอร์ชันปัจจุบัน

10/11/2022

เขียนโดย ทีม Hello คุณหมอ

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย

อัปเดตโดย: สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


บทความที่เกี่ยวข้อง

เบาหวานชนิดที่ 1 และ เบาหวานชนิดที่ 2 แตกต่างกันอย่างไร

การป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน


ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


เขียนโดย ทีม Hello คุณหมอ · แก้ไขล่าสุด 10/11/2022

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา