ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group
ยา คาโบแซนทินิบ (Cabozantinib) ใช้เพื่อรักษาโรคมะเร็งบางชนิด เช่น โรคมะเร็งไต โรคมะเร็งต่อมไทรอยด์ ยา คาโบแซนทินิบ นั้นอยู่ในกลุ่มของยายับยั้งไทโรซีนไคเนส (tyrosine kinase inhibitors) ยา คาโบแซนทินิบ ทำงานโดยชะลอหรือหยุดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
ยาในรูปแบบที่แตกต่างกัน (ยาแคปซูล ยาเม็ด) นั้นใช้เพื่อรักษาโรคมะเร็งที่แตกต่างกัน อย่าเปลี่ยนรูปแบบยา เว้นแต่แพทย์สั่ง
รับประทานยานี้ตามที่แพทย์กำหนด โดยปกติ คือ วันละครั้ง ห้ามรับประทานยานี้พร้อมกับอาหาร ควรรับประทานยานี้ขณะท้องว่าง อย่ารับประทานอาหารอย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนรับประทานยาและอย่างน้อย 1 ชั่วโมงหลังจากรับประทานยา
กลืนยาลงไปทั้งเม็ดพร้อมกับน้ำเต็มแก้ว (8 ออนซ์/240 มล.) อย่าแกะหรือบดยาแคปซูลหรือยาเม็ด
รับประทานยานี้เป็นประจำเพื่อให้ได้ประโยชน์จากยาสูงสุด เพื่อให้จำง่ายขึ้น ควรรับประทานยาในเวลาเดียวกันทุกวัน
ขนาดยาขึ้นอยู่กับสภาวะทางการแพทย์และการตอบสนองต่อการรักษา อย่าเพิ่มขนาดยา ใช้ยาบ่อยกว่า หรือนานกว่าที่กำหนด เนื่องจากไม่ได้ทำให้อาการของคุณหายไปเร็วขึ้น แต่กลับยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง
ยาคาโบแซนทินิบควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง ให้พ้นแสงและความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเสื่อมสภาพ ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาคาโบแซนทินิบบางยี่ห้ออาจมีวิธีเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรอ่านคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์หรือสอบถามเภสัชกรเสมอ และโปรดเก็บยาให้พ้นจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยงเพื่อความปลอดภัย
ไม่ควรทิ้งยาคาโบแซนทินิบลงในชักโครก หรือเทยาลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่จะได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น หากยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้ยา ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้อง โดยสามารถสอบถามข้อมูลวิธีกำจัดยาที่ถูกต้องได้จากเภสัชกร
ก่อนใช้ยาคาโบแซนทินิบ แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบหากคุณแพ้ยานี้ หรือมีโรคภูมิแพ้อื่นๆ ยานี้อาจมีส่วนประกอบออกฤทธิ์ที่ทำให้ให้เกิดอาการแพ้หรือปัญหาอื่นๆ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดปรึกษาเภสัชกร
ก่อนใช้ยานี้แจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ของคุณ โดยเฉพาะโรคตับ ความดันโลหิตสูง อาการเลือดออกที่เพิ่งเกิดขึ้น รวมถึงอาการไอเป็นเลือด
ยานี้อาจทำให้เกิดอาการวิงเวียน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือกัญชานั้นอาจทำให้อาการวิงเวียนรุนแรงขึ้นได้ อย่าขับรถ ใช้เครื่องจักร หรือทำกิจกรรมที่ต้องการความตื่นตัวจนกว่าคุณจะสามารถทำได้อย่างปลอดภัย จำกัดปริมาณเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และปรึกษาแพทย์หากคุณใช้กัญชา
ยาคาโบแซนทินิบสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ หรือทำให้อาการติดเชื้อที่เป็นอยู่รุนแรงขึ้นได้ ควรหลีกเลี่ยงการติดต่อผู้มีอาการติดเชื้อที่สามารถแพร่สู่ผู้อื่นได้ เช่น โรคอีสุกอีใส โรคไข้หวัดใหญ่ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือสงสัยว่าตัวเองมีโอกาสได้รับเชื้อในช่วงที่ผ่านมา โปรดปรึกษาแพทย์
อย่าสร้างภูมิคุ้มกันหรือรับวัคซีนโดยไม่ปรึกษากับแพทย์ หลีกเลี่ยงการติดต่อกับผู้ที่พึ่งรับวัคซีนเชื้อเป็น เช่น วัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่รับโดยการสูดดม
เพื่อลดโอกาสในการเกิดรอยบาด รอยช้ำ หรือการบาดเจ็บ ควรใช้ของมีคมด้วยความระมัดระวัง เช่น มีดโกน กรรไกรตัดเล็บ และหลีกเลี่ยงกิจกรรมหรือกีฬาที่มีการปะทะ
อาจเกิดอาการปวดหรือแผลภายในช่องปากและลำคอ ควรแปรงฟันเบาๆ ด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงน้ำยาล้วนปากที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และบ้วนปากด้วยน้ำเย็นบ่อยๆ นอกจากนี้ ยังควรรับประทานอาหารที่อาหารที่นุ่มและชุ่มฉ่ำ
บางคนที่ใช้ยาคาโบแซนทินิบอาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับกรามที่รุนแรง แพทย์ควรตรวจช่องปากก่อนเริ่มใช้ยานี้ ก่อนทำทันตกรรม ควรแจ้งให้ทันตแพทย์ทราบหากคุณกำลังใช้ยานี้ เพื่อช่วยป้องกันปัญหาเกี่ยวกับกรามควรทำการตรวจสุขภาพช่องปากและฟันเป็นประจำ และเรียนรู้วิธีการรักษาสุขภาพเหงือกและฟัน หากคุณมีอาการปวดกรามควรติดต่อแพทย์และทันตแพทย์ในทันที
ก่อนการผ่าตัด แจ้งให้แพทย์หรือทันตแพทย์ทราบเกี่ยวกับยาทั้งหมดที่คุณใช้ ทั้งยาตามใบสั่งยา ยาที่หาซื้อเอง และสมุนไพรต่างๆ แพทย์หรือทันตแพทย์อาจสั่งให้คุณหยุดใช้ยาคาโบแซนทินิบเป็นเวลาอย่างน้อย 28 วันก่อนการผ่าตัด ควรทำตามแนวทางการหยุดใช้ยาและเริ่มใช้ยาอย่างเคร่งครัด
แจ้งให้แพทย์ทราบหากคุณตั้งครรภ์หรือมีแผนที่จะตั้งครรภ์ คุณไม่ควรตั้งครรภ์ขณะที่กำลังใช้ยาคาโบแซนทินิบ ยานี้อาจทำอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้ ควรสอบถามวิธีการคุมกำเนิดที่น่าเชื่อถือขณะที่กำลังใช้ยานี้และภายใน 4 เดือนหลังจากหยุดการรักษา หากคุณตั้งครรภ์โปรดปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความเสี่ยงและประโยชน์ของการใช้ยานี้ทันที
ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ายานี้สามารถผ่านเข้าสู่น้ำนมแม่ได้หรือไม่ แต่เนื่องจากพบความเสี่ยงต่อการดูแลเด็กทารก จึงไม่แนะนำให้คุณแม่ให้นมบุตรในช่วงระหว่างการใช้ยาและภายใน 4 เดือนหลังจากหยุดการใช้ยา โปรดปรึกษาแพทย์ก่อนให้นมบุตร
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยา
ยาคาโบแซนทินิบจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ หมวด D โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
อาจเกิดอาการวิงเวียน ท้องร่วง คลื่นไส้ อาเจียน มีแผลในปาก เหนื่อยล้า อ่อนแรง น้ำหนักลด ความอยากอาหารลดลง การรับรสชาติเปลี่ยน เสียงแหบ ผมสีซีดขึ้น หากผลข้างเคียงใดๆ เกิดขึ้นเป็นระยะเวลานาน หรือมีอาการแย่ลง ควรแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบโดยทันที
อาจเกิดอาการผมร่วงชั่วคราว ผมจะกลับมายาวตามปกติหลังจากหยุดการรักษา
โปรดจำไว้ว่าการที่แพทย์ให้คุณใช้ยาตัวนี้เนื่องจากคำนวณแล้วว่ายามีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง และคนที่ใช้ยานี้ส่วนใหญ่ไม่พบผลข้างเคียงที่ร้ายแรงใดๆ
ยานี้อาจทำให้ระดับความดันโลหิตเพิ่มขึ้นได้ ควรตรวจวัดระดับความดันโลหิตเป็นประจำ และแจ้งให้แพทย์ทราบหากผลตรวจพบว่ามีระดับความดันโลหิตสูง แพทย์อาจสั่งให้คุณใช้ยาควบคุมความดันโลหิต
แจ้งให้แพทย์ทราบในทันทีหากเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง เช่น
ในกรณีหายาก ยาคาโบแซนทินิบอาจทำให้เกิดสภาวะเกี่ยวกับสมอง หากคุณเกิดอาการปวดศีรษะ ชัก การมองเห็นเปลี่ยนแปลง สับสน หรือปัญหาเกี่ยวกับการคิด ต้องรีบเข้ารับการรักษาพยาบาลทันที
ในนานๆ ครั้ง ยานี้อาจทำให้เกิดปัญหาที่รุนแรง เช่น หัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน โรคหลอดเลือดสมอง ภาวะหลอดเลือดดำอุดตัน (deep vein thrombosis) โรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด (Pulmonary Embolism) เนื่องจากลิ่มเลือด
เข้ารับการรักษาทันทีหากเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงมาก เช่น
ความสามารถในการต่อสู้กับการติดเชื้ออาจลดลง และอาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่รุนแรงจนถึงแก่ชีวิต หรือทำให้อาการติดเชื้อที่คุณเป็นอยู่นั้นรุนแรงขึ้น แจ้งให้แพทย์ทราบในทันทีหากคุณมีสัญญาณของการติดเชื้อ เช่น เป็นไข้ หนาวสั่น เจ็บคอบ่อยๆ ไอ
การแพ้ยาที่รุนแรงต่อยานี้ ค่อนข้างเกิดขึ้นได้ยาก แต่จำเป็นต้องได้รับการรักษาที่ทันท่วงที อาการของการแพ้รุนแรง ได้แก่ วิงเวียนขั้นรุนแรง หายใจติดขัด ผดผื่น คันหรือบวม โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า ลิ้น และลำคอ
ผลข้างเคียงที่กล่าวมาข้างต้น อาจไม่ได้เกิดกับทุกคน หรือบางคนอาจมีอาการอื่นนอกเหนือจากนี้ หากคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
ยาอื่นอาจส่งผลต่อการกำจัดยาคาโบแซนทินิบออกจากร่างกายซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำงานของยาคาโบแซนทินิบ เช่น เซนต์จอห์น เวิร์ต (St. John’s wort)
ยาคาโบแซนทินิบอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรด้วยว่าคุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนยาเองโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ยาคาโบแซนทินิบอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
หลีกเลี่ยงการรับประทานเกรปฟรุตหรือดื่มน้ำเกรปฟรุตขณะใช้ยานี้ เว้นแต่แพทย์หรือเภสัชกรจะบอกว่าคุณสามารถทำได้อย่างปลอดภัย เกรปฟรุตสามารถเพิ่มโอกาสในการเกิดผลข้างเคียงของยาได้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดสอบถามแพทย์หรือเภสัชกร
ยาคาโบแซนทินิบอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคมะเร็งต่อมไทรอยด์ (Thyroid Cancer)
คำแนะนำ
การใช้งาน
เพื่อรักษาโรคมะเร็งต่อมไทรอยด์ชนิดเมดัลลารีที่ลุกลามแบบรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ (progressive metastatic medullary thyroid cancer)
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคมะเร็งเซลล์ไต (Renal Cell Carcinoma)
คำแนะนำ
การใช้งาน
เพื่อรักษาโรคมะเร็งเซลล์ไตระดับรุนแรงที่เคยได้รับการรักษาด้วยยาต้านการสร้างหลอดเลือดใหม่ (anti-angiogenic therapy)
การปรับขนาดยาสำหรับไต
ไตบกพร่องระดับปานกลางถึงรุนแรง : ไม่มีการปรับขนาดยาที่แนะนำ
การปรับขนาดยาตับ
ยาแคปซูล (โรคมะเร็งต่อมไทรอยด์ชนิดเมดัลลารี)
ยาเม็ด (โรคมะเร็งเซลล์ไต)
การปรับขนาดยา
ยาแคปซูล (โรคมะเร็งต่อมไทรอยด์ชนิดเมดัลลารี) :
อาการไม่พึงประสงค์ (เกณฑ์ศัพท์บัญญัติทั่วไปสำหรับเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ [CTCAE] ของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ [NCI] ระดับ 4 ที่เกี่ยวข้องกับโลหิตวิทยา ระดับ 3 หรือระดับ 4 ที่ไม่เกี่ยวข้องกับโลหิตวิทยาหรือระดับ 2 ที่ไม่สามารถทนได้) : ระงับการรักษาจนกว่าอาการไม่พึงประสงค์จะดีขึ้นจนถึงระดับพื้นฐานหรือบรรเทาลงมาเท่ากับระดับ 1 แล้วจึงปรับขนาดยาดังต่อไปนี้
ใช้ร่วมกับยายับยั้งเอนไซม์ CYP450 3A4 ที่รุนแรง :
ใช้ร่วมกับยาเหนี่ยวนำเอนไซม์ CYP450 3A4 ที่รุนแรง :
ยาเม็ด (โรคมะเร็งเซลล์ไต)
มีกำหนดการผ่าตัด : หยุดการรักษาอย่างน้อย 28 วันก่อนการผ่าตัด รวมถึงการผ่าตัดทำฟัน
อาการไม่พึงประสงค์ (เกณฑ์ศัพท์บัญญัติทั่วไปสำหรับเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ของสถาบันมะเร็งแห่งชาติระดับ 4 ระดับ 3 หรือระดับ 2 ที่ไม่สามารถทนได้) : ระงับการรักษาจนกว่าอาการไม่พึงประสงค์จะดีขึ้นจนถึงระดับพื้นฐานหรือบรรเทาลงมาเท่ากับระดับ 1 แล้วจึงปรับขนาดยาดังต่อไปนี้:
ใช้ร่วมกับยายับยั้งเอนไซม์ CYP450 3A4 ที่รุนแรง :
ใช้ร่วมกับยาเหนี่ยวนำเอนไซม์ CYP450 3A4 ที่รุนแรง :
หยุดการรักษาอย่างถาวร (ทั้งยาแคปซูลและยาเม็ด) ในกรณีที่
คำแนะนำอื่นๆ
คำแนะนำการใช้งาน
การเก็บรักษา
การเฝ้าระวัง
คำแนะนำผู้ป่วย
ยานี้อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น วิงเวียน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำกิจกรรมบางอย่าง ควรหลีกเลี่ยงการขับรถและทำกิจกรรม เช่น ใช้เครื่องจักร จนกว่าคุณจะทราบว่ายาส่งผลต่อคุณอย่างไร
ยังไม่มีการพิสูจน์ความความปลอดภัยและประสิทธิภาพของขนาดยานี้สำหรับผู้ป่วยเด็ก ยานี้อาจเป็นอันตรายต่อเด็กได้ ดังนั้น จึงควรทำความเข้าใจถึงความปลอดภัยของยาก่อนการใช้ยา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
ความแรงและรูปแบบของยา มีดังนี้
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย