- สัมผัสกับการปนเปื้อนของแบคทีเรียในน้ำ
- ใช้อุปกรณ์ที่เกี่ยวกับหู เช่น หูฟัง ที่อุดหู เครื่องช่วยฟัง
- ทำความสะอาดช่องหูด้วยไม้แคะหู หรือของแข็งอย่างกิ๊บติดผม เล็บ
- ความชื้นในหูมากเกินไป ซึ่งอาจเกิดจากสภาพอากาศ เหงื่อ การว่ายน้ำ หรือการอาบน้ำ
การวินิจฉัยและการรักษา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาคุณหมอทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
การวินิจฉัยหูชั้นนอกอักเสบ
คุณหมอจะทำการซักประวัติและตรวจร่างกาย เพื่อทำการวินิจฉัยโรคหูชั้นนอกอักเสบ หากมีไข้หรือมีอาการที่รุนแรง คุณหมออาจทดสอบโดยการย้อมแกรม (Gram Staining) เป็นเทคนิคการย้อมสีเซลล์ของแบคทีเรีย ซึ่งเป็นเทคนิคสำคัญที่ใช้ในการศึกษาเซลล์ของแบคทีเรียร่วมกับกล้องจุลทรรศน์ และเพาะเลี้ยงเชื้อเพื่อหาสาเหตุว่าเกิดจากแบคทีเรียหรือเชื้อรา
การรักษาหูชั้นนอกอักเสบ
การรักษาในเบื้องต้นคุณหมอจะทำความสะอาดสิ่งสกปรกภายในหู เช่น ผิวหนังที่ตายแล้ว ของเหลวมีกลิ่นเหม็น โดยใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide) เพื่อเช็ดทำความสะอาด หรือใช้อุปกรณ์ดูดออกมา
หากมีอาการรุนแรงมากคุณหมออาจให้ใส่ผ้าก๊อซเล็ก ๆ (Ear Wicks) เข้าไปในหู เพื่อไม่ให้ยาหยอดหูกระจายไปบริเวณอื่นมากเกินไป ซึ่งการใช้ยาแต่ละชนิดจะอยู่ในรูปแบบของยาเฉพาะที่ และขึ้นอยู่กับลักษณะของการเกิดโรคหูชั้นนอกอักเสบ ดังนี้
- ยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เช่น สารละลายกรดอะซิติก 2% (Acetic Acid Solution) โพลีมัยซินบี (Polymixin B) อะมิโนไกลโคไซด์ (Aminoglycoside) ฟลูออโรควิโนโลน (Fluoroquinolone)
- ยาต้านเชื้อรา เช่น สารละลายกรดอะซิติก 2% (Acetic Acid Solution) โคลไตรมาโซล (Clotrimazole) ไอทราโคนาโซล (Itraconazole)
- สเตียรอยด์รักษาอาการบวม
- ยาที่ช่วยคืนความสมดุลภายในช่องหู ทำให้เชื้อโรคไม่สามารถเติบโตได้
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย