- เม็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นแหล่งที่ดีของทองแดง
ทารกในครรภ์จำเป็นต้องได้รับธาตุทองแดงสำหรับการสร้างเส้นเลือด ระบบประสาท และพัฒนาการด้านหัวใจ ปริมาณที่หญิงตั้งครรภ์ควรบริโภคต่อวันคือ 1 มิลลิกรัม โดยเม็ดมะม่วงหิมพานต์ 1 ออนซ์ ให้แร่ธาตุทองแดงถึง 0.6 มิลลิกรัม อย่างไรก็ตาม คุณแม่ตั้งครรภ์ควรระมัดระวังการบริโภคทองแดง เพราะหากได้รับทองแดงมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการท้องร่วง เสี่ยงโรคหัวใจ และปวดศีรษะได้
- เม็ดมะม่วงหิมพานต์มีแมกนีเซียมเป็นส่วนประกอบ
แมกนีเซียม เมื่อทำงานร่วมกับแคลเซียม จะช่วยเสริมสร้างกระดูกและกล้ามเนื้อของหญิงตั้งครรภ์ อีกทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดภาวะความดันโลหิตสูง ความตึงเครียด อ่อนเพลีย และไมเกรนได้อีกด้วย
ข้อควรระวังในการบริโภคเม็ดมะม่วงหิมพานต์
- ยูรุชิออล (Urushiol) ที่อยู่ในเม็ดมะม่วงหิมพานต์ อาจทำให้เกิดผื่นคันที่ผิวหนัง ซึ่งภาวะนี้อาจส่งผลต่อการนอนหลับของหญิงตั้งครรภ์ได้
- หญิงตั้งครรภ์ควรควบคุมปริมาณการรับประทานเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เนื่องจากหากรับประทานมากเกินไป อาจทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้
- ออกซาเลต (Oxalate) ที่อยู่ในเม็ดมะม่วงหิมพานต์ อาจเพิ่มปริมาณของเหลวในร่างกาย และนำไปสู่การเพิ่มความเสี่ยงทางสุขภาพครรภ์ก่อนคลอด
- เลือกรับประทานผลิตภัณฑ์เม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่มีรสธรรมชาติ หากชนิดที่เติมเกลือ อาจมีปริมาณโซเดียมสูง อาจกระทบต่อสุขภาพครรภ์ได้
คุณแม่ตั้งครรภ์ควรปรึกษาคุณหมอ เพื่อประโยชน์สูงสุดในการเลือกรับประทานอาหารทุกประเภทในขณะตั้งครรภ์ และควรรับประทานให้หลากหลายและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย หากมีข้อสงสัยควรปรึกษาคุณหมอถึงโภชนาการสำหรับหญิงตั้งครรภ์โดยเฉพาะ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย