หากคุณเพิ่งลองฝึกโยคะเป็นครั้งแรกหรืออย่างน้อยก็ครั้งที่สอง คุณอาจยังไม่ทราบว่า ประเภทของโยคะ มีอะไรบ้าง และประเภทใดเหมาะสมกับคุณมากที่สุด บทความนี้จะช่วยแนะนำคุณในการตัดสินใจว่าโยคะประเภทใดเหมาะสมกับคุณและตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด
ประเภทของโยคะ มีอะไรบ้าง
โดยทั่วไป โยคะที่สามารถพบได้ทั่วไปในโยคะสตูโอต่างๆ มีทั้งสิ้น 8 ประเภทด้วยกัน ได้แก่
หัตถาโยคะ
โยคะที่พบได้ทั่วไปในทุกวันนี้ก็คือ หัตถาโยคะ ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การฝึกจัดระเบียบร่างกายและเทคนิคการหายใจ หากคุณเคยได้ยินเกี่ยวกับ อัษฏางค์โยคะ วินยาสะโยคะ ไอเยนคาร์โยคะ และพาวเวอร์โยคะ ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้มักจะถูกจัดอยู่ในประเภทเดียวกันกับ หัตถาโยคะ เพียงแต่จังหวะการเคลื่อนไหวของหัตถาโยคะจะช้ากว่า
หัตถาโยคะนั้นเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นฝึกโยคะ การฝึกหัตถาโยคะจะทำให้คุณได้รู้จักกับท่าโยคะพื้นฐาน และช่วยให้คุณจำแนกชื่อของท่าต่างๆ ได้ เนื่องจากจังหวะของการฝึกหัตถาโยคะดำเนินไปอย่างช้าๆ จะทำให้คุณสามารถมีสมาธิกับท่าโยคะแต่ละท่าได้ดีกว่า
วินยาสะโยคะ
โยคะชนิดนี้ การเคลื่อนไหวจะลื่นไหลอย่างรวดเร็วและสอดประสานกันระหว่างการเคลื่อนไหวร่างกาย ท่าโยคะ และการหายใจ วินยาสะโยคะโดยทั่วไปจะมีจังหวะที่เร็ว และไม่มีรูปแบบที่เป็นทางการ เรียกอีกอย่างว่า ฟรีสไตล์
โดยทั่วไป ในแต่ละครั้งของการฝึก ครูผู้สอนโยคะนั้นจะฝึกสอนโยคะประเภทนี้เพื่อจุดประสงค์ใดจุดประสงค์หนึ่งโดยเฉพาะเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น การฝึกวันนี้จะมุ่งเน้นไปที่ความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อแขน ส่วนในการฝึกครั้งหน้าจะมุ่งเน้นไปที่การโค้งหลัง หรือในการฝึกหนึ่งครั้งอาจจะสอนท่าโยคะหลายท่าที่มีประโยชน์ต่อทุกส่วนของร่างกายก็ได้เช่นกัน วินยาสะโยคะนั้นเหมาะสมที่สุดสำหรับคนที่คล่องแคล่วว่องไวและไม่ชอบอะไรที่จำเจ
ในทุกครั้งของการฝึกวินยาสะโยคะนั้นคุณจะรู้สึกประหลาดใจในความหลากหลายของท่าโยคะที่ใช้เพื่อการฝึกฝน ด้วยลักษณะเฉพาะของการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่วและความสอดคล้องกันระหว่างท่าโยคะและการหายใจ อัษฎางค์โยคะ ชีวมุกติโยคะ แบบทีส และพาวเวอร์โยคะ ที่มีลักษณะการเคลื่อนไหวคล้ายกันจึงจัดรวมในหมวดหมู่เดียวกันกับ วินยาสะโยคะ
อัษฎางค์โยคะ
เมื่อเปรียบเทียบกับหัตถาโยคะ อัษฎางค์โยคะนั้นเป็นโยคะประเภทที่มีพลัง เข้มข้น จนทำให้คุณมีรู้สึกราวกับเป็นนักกีฬา โดยในการฝึกแบบอัษฎางค์โยคะนั้นมีท่าบังคับที่รวมเรียกกว่า ชุดท่าโยคะอัษฎางค์
มี 2 วิธีในการฝึกอัษฎางค์โยคะ วิธีแรกเรียกว่าแบบ Led Class ในขั้นนี้ครูผู้สอนจะเป็นผู้นำในการฝึก และอีกวิธีก็คือ แบบมัยซอร์ (Mysore) ซึ่งเรีกยตามชื่อเมืองในอินเดียที่เป็นต้นกำเนิดของโยคะประเภทนี้ ในขั้นนี้ คุณจะทำการฝึกตามชุดท่าโยคะ เช่น ท่าพื้นฐานโดยไม่มีครูผู้สอนคอยแนะนำ หรือครูผู้สอนจะทำหน้าที่สังเกตการณ์และคอยช่วยเหลือคุณเพื่อปรับท่าทาง
การฝึกอัษฎางค์โยคะนั้นต้องการความทุ่มเทสูงมาก แต่ก็ให้ผลลัพท์จากการฝึกทันทีทั้งทางร่างกายและจิตใจ อัษฎางค์โยคะนั้นเหมาะสำหรับผู้ที่ขยันอดทนและทุ่มเท โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเป็นนักกีฬา
ไอเยนคาร์โยคะ
โยคะประเภทนี้จะมุ่งเน้นไปที่ความแม่นยำของท่าโยคะ และเน้นการใช้กล้ามเนื้อตามหลักกายวิภาคของมนุษย์แบบลงลึกในรายละเอียด ส่วนใหญ่ คุณจะต้องทำท่าหนึ่งเป็นระยะเวลานาน หรือบางครั้งอาจมีการดัดแปลงท่าโยคะร่วมกับการใช้อุปกรณ์ เช่น บล็อก เชือกโยคะ หรือ เชือกตรึงผนัง
การฝึกโยคะวิธีนี้มีระบบแบบแผนในการฝึกชัดเจนและมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มความแข็งแกร่ง ความยืดหยุ่น และความมั่นคงของร่างกาย นอกจากนี้ ไอเยนคาร์โยคะ ยังมีประโยชน์สำหรับการบำบัดรักษาอาการทางกายบางประการอีกด้วย
ไอเยนคาร์นั้นเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบการฝึกโยคะแบบลงลึกในรายละเอียด รวมทั้งผู้ที่ต้องการการบำบัดและรักษาปัญหาสุขภาพ
โยคะร้อน
โยคะร้อน หรือ บิกรัมโยคะ (ฺBikram) นั้นเป็นโยคะที่ทำการฝึกในห้องที่มีความร้อนสูง ซึ่งเป็นหนึ่งในรูปแบบการฝึกโยคะที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยนิยมฝึกในห้องที่มีอุณหภูมิสูง 42 องศาเซลเซียส มีท่าฝึกทั้งสิ้น 26 ท่า
หากคุณเป็นคนที่เดินทางหรือท่องเที่ยวบ่อยและอยากจะฝึกโยคะระหว่างการท่องเที่ยว ไม่ว่าที่ไหน เมื่อไหร่ ส่วนใดของโลก คุณยก็สามารถฝึกโยคะร้อนได้ ในห้องที่มีอุณหภูมิระดับเดียวกันและชุดท่าโยคะแบบเดียวกัน
โยคะร้อนนั้นเหมาะสำหรับผู้ที่รู้สึกดีเวลามีเหงื่อไหลชุ่มตลอดเวลาระหว่างการออกกำลังกาย เหงื่อที่ไหลออกมาในห้องที่ร้อนระอุนั้นคือส่งผลดีในการดีท็อกซ์ คล้ายกับการอบไอน้ำ ซึ่งผลลัพธ์นั้นมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อสุขภาพของคุณ
ท่าโยคะทั้ง 26 ท่าของโยคะร้อนจะทำให้ร่างกายของคุณมีความยืดหยุ่นขึ้น ซึ่งโดยส่วนใหญ่ คุณมักมีความรู้สึกอยากกลับไปฝึกซ้ำๆ เพื่อยกระดับความแข็งแกร่งและเพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกายของคุณ นอกเหนือจาก โยคะร้อน ที่สามารถฝึกในห้องที่มีอุณรหภูมิสูงแล้ว ยังมีโยคะประเภทอื่นๆ ที่สามารถฝึกได้ในห้องทำความร้อน เช่น อัษฎางค์โยคะร้อน โยคะสายป่า โยคะแบบทีส คอร์ พาวเวอร์โยคะและ ฮอทบาร์โยคะ เป็นต้น
กุณฑลิณีโยคะ
โยคะประเภทนี้เป็นการหลอมรวมร่างกายและคุณค่าทางจิตวิญญาณเข้าด้วยกัน ด้วยการฝึกเน้นท่าโยคะทางกายร่วมด้วยเทคนิคการหายใจที่มีพลัง การทำสมาธิ รวมถึงการสวดมนต์ กุณฑลิณีโยคะนั้นมุ่งเน้นในการเพิ่มพลังชีวิตของร่างกายและการตระหนักรู้ในตนเอง
ดังนั้น กุณฑลิณีโยคะนั้นจึงเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบการทำสมาธิและชอบที่จะสำรวจโลกภายในจิตใจ สัญชาติญาณ และการสำรวจความคิดของตนเอง หากคุณชอบที่จะรู้จักตนเองอย่างลึกซึ้งถึงระดับจิตวิญญาณ คุณอาจเพิ่มการฝึกกุณฑลิณีโยคะเข้าไปในการฝึกโยคะของคุณ ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี
โยคะสำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์
โยคะชนิดนี้ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์ โยคะชนิดนี้สามารถช่วยเตรียมความพร้อมให้ว่าที่คุณแม่มีสุขภาพกายและใจที่ดี
โดยปกติ โยคะสำหรับผู้ตั้งครรภ์นั้นจะมุ่งเน้นในการฝึกลมหายใจ ฝึกกล้ามเนื้อบริเวณสะโพก และท่าโยคะสำหรับการฟื้นฟูร่างกายซึ่งมีประโยชน์มากสำหรับการฟื้นฟูพลังกายและกำลังใจของหญิงตั้งครรภ์ที่มักต้องเจอกับรู้สึกอ่อนล้า เนื่องมากจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
ผู้ตั้งครรภ์ที่ทำการฝึกโยคะชนิดนี้อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้คุณรู้สึกแข็งแรงและกระฉับกระเฉงขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ นอกจากนี้การฝึกโยคะประเภทนี้ยังมีประโยชน์ต่อทารกในท้องอีกด้วย
นอกจากการฝึกโยคะด้วยตนเองระหว่างตั้งครรภ์ ยังมีโยคะสตูดิโอมากมายที่เปิดสอนโยคะสำหรับผู้ตั้งครรภ์และคู่รักที่ต้องการจะฝึกโยคะด้วยกัน เพื่อกระชับสายสัมพันธ์ระหว่างคู่รักและเรียนรู้เพื่อเตรียมพร้อมในการให้กำลังใจซึ่งกันและกันในระหว่างขั้นตอนการคลอดลูก
ตามชื่อก้บอกอยู่แล้วว่าโยคะสำหรับผู้ตั้งครรภ์นั้นเหมาะที่สุดสำหรับหญิงตั้งครรภ์ แม้ว่าคุณจะไม่เคยมีประสบการฝึกโยคะมาก่อน หรือไม่เคยออกกำลังกายใดๆ ก่อนการตั้งครรภ์ก็ตาม
หยินโยคะ
ดูเหมือนว่ารูปแบบหรือประเภทของโยคะส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นไปที่การฝึกฝนความเคลื่อนไหวของร่างกายอย่างต่อเนื่อง แต่สำหรับหยินโยคะนั้น กลับมุ่งเน้นที่การให้ร่างกายอยู่นิ่งๆ นานๆ โดยคุณจะต้องทำท่าโยคะหนึ่งท่าราว 3-5 นาที และท่าส่วนใหญ่คือท่านั่ง บิดหมุนเบาๆ หรือไม่ก็นอนราบ นอกจากนี้ โยคะชนิดนี้ยังดีต่อสุขภาพของคุณ เพราะมุ่งเน้นการยืดเหยียดกล้ามเนื้อฟาสเซียและข้อต่อของคุณ
หยินโยคะนั้นจึงเหมาะสำหรับผู้ที่รักความสงบ ในขณะเดียวกัน หยินโยคะนั้นก็ยังเหมาะกับผู้มีบุคลิกคล่องตัวและกระฉับกระเฉง มักมีตารางชีวิตที่ยุ่งตลอดเวลา เนื่องจากหยินโยคะนั้นมีประโยชน์ในแง่ของการฟื้นฟูพลังและเพิ่มคุณภาพของการนอนหลับ ซึ่งการฝึกโนคะประเภทนี้จะทำให้ร่างกายของคุณผ่อนคลายและมีการหายใจที่มีคุณภาพมากขึ้น และส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายโดยรวม
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีโยคะอีกมากมายหลายประเภทนอกเหนือจากโยคะทั้ง 8 ประเภทที่กล่าวมาข้างต้น ขอแนะนำใหคุณลองฝึกโยคะหลากหลายประเภทจากครูผู้สอนหลายๆ คน เพื่อหาแนวทางการฝึกที่คุณรู้สึกสนุกและสบายใจที่จะฝึกอย่างต่อเนื่อง
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ได้คำตอบหรือยังว่าโยคะแบบไหน ตรงใจคุณที่สุด
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัย หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmi]