เด็กบางคนอาจจะมีอาการนอนละเมอ ซึ่งนั่นหมายถึงพวกเขายังไม่ตื่น แต่อาจจะมีการเดิน พูดคุย นั่งบนเตียง หรือทำสิ่งอื่น ๆ ในขณะที่ดวงตายังปิดอยู่ และไม่รู้สึกตัว สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำ คือ อย่าปลุกให้พวกเขาตื่นจากการละเมอ เพราะมันอาจทำให้พวกเขารู้สึกกลัวได้ ควรจะพยายามค่อย ๆ นำตัวพวกเขากลับไปนอน และควรดูแลรักษาบริเวณที่เขาชอบเดินละเมอให้ปลอดภัย ไม่มีสิ่งของระเกะระกะ เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กเกิดอันตรายระหว่างเดินละเมอ
ปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น อาการคัดจมูก อาการภูมิแพ้ อาการหวัด โรคหอบหืด อาจทำให้เด็ก ๆ หายใจลำบาก จนอาจทำให้ไม่ยอมนอนได้ นอกจากนั้น อาหารปวดหู และอาการปวดฟัน ก็อาจทำให้ลูกไม่ยอมนอนได้เช่นกัน ดังนั้น การปรึกษากุมารแพทย์ จึงเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด
วิธีทำให้ลูกนอนหลับ
สำหรับวิธีที่จะทำให้ลูกนอนหลับได้อย่างสนิท อาจทำได้ดังนี้
- พาลูกออกไปทำกิจกรรมข้างนอก
การให้ลูก ๆ ออกไปทำกิจกรรมข้างนอกบ้าน เช่น วิ่งเล่น ออกกำลังกาย ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะพวกเขาจะได้ใช้พลังงาน และเตรียมความพร้อมก่อนเข้านอน การที่ร่างกายมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นจากการทำกิจกรรมข้างนอก และอุณหภูมิลดลงเมื่อหยุดทำกิจกรรม อาจช่วยทำให้เด็ก ๆ หลับได้งานขึ้น ระยะเวลาสำหรับการออกกำลังกาย รวมถึงกิจกรรมต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับเด็ก คือ 60 นาที
- ตั้งเวลาเข้านอนและตื่นนอน
สำหรับเด็กในวัยเรียนต้องการเวลานอน 9-11 ชั่วโมงทุกคืน แต่สิ่งที่ทำให้เกิดการนอนไม่หลับมีมากมาย ดังนั้น การตั้งเวลาในการเข้านอนและตื่น เป็นการแก้ไขปัญหาที่คุณพ่อคุณแม่ควรจะทำ เพราะเด็กส่วนใหญ่จะมีรูปแบบการเข้านอนและการตื่นนอนที่ไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก การตั้งเวลาเข้านอนจะทำให้พวกเขารู้ว่าถึงเวลาเข้านอน และการตั้งเวลาตื่นนอน ก็จะทำให้พวกเขารู้สึกสดชื่นหลังจากตื่นนอนอีกด้วย
การนั่งอยู่บนเตียงของเด็ก ๆ หรือกอดเข้าไว้ข้าง ๆ ตัว แล้วพูดถึงสิ่งที่อยู่ในใจควรจะต้องมีขีดจำกัด คุณพ่อคุณแม่บอกลูกล่วงหน้าว่าต้องการใช้เวลาพิเศษกับพวกเขาเมื่อถึงเวลาที่จำเป็น นอกจากนั้น การพูดมากคุยเกินไปเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง พยายามเป็นผู้ฟัง เพื่อให้เด็ก ๆ ได้พูดถึงความวิตกกังวลที่เกิดขึ้น เพื่อช่วยหาวิธีการแก้ปัญหา ทุกครั้งที่ได้รับโอกาสจากพวกเขา ลองหาคำพูดที่ดี ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการฟัง การทำเช่นนี้คุณพ่อคุณแม่จะกลายเป็นฮีโร่ของพวกเขา
กิจวัตรก่อนนอนถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง สำหรับทารก เด็กวัยหัดเดิน และเด็กก่อนวัยเรียน การทำกิจวัตรก่อนนอนเป็นประจำ เช่น อาบน้ำ เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ถือเป็นสิ่งที่ควรทำ จากนั้นการปลอบโยนและทำให้พวกเขาผ่อนคลาย อาจเป็นการช่วยให้บรรยากาศในการนอนสมบูรณ์แบบ จากนั้นร่างกายของเด็ก ๆ ก็จะเริ่มง่วงโดยอัตโนมัติ เมื่อเริ่มต้นทำกิจวัตรก่อนนอนเป็นประจำ
- ปิดทีวีอย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนเข้านอน
หน้าจอโทรทัศน์ หน้าจอโทรศัพท์ หรือจอคอมพิวเตอร์ อาจรบกวนการผลิตฮอร์โมนเมลาโทนิน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวงจรการนอนหลับที่สำคัญได้ เมื่อระดับเมลาโทนินอยู่ในระดับสูงสุด คนส่วนใหญ่มักจะะรู้สึกง่วงนอนและพร้อมเข้านอน แต่การเปิดทีวีหรือเล่นโทรศัพท์เพียงครึ่งชั่วโมงก่อนนอน อาจรบกวนการหลั่งเมลาโทนินได้ ดังนั้น การทำให้ห้องนอนเป็นเขตปลอดหน้าจอ และหน้าจอทั้งหมดควรมืดสนิทในเวลานอน ถือเป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ควรตรวจสอบ แต่ทางที่ดีการเอาสิ่งเหล่านี้ออกจากห้องนอนตอนกลางคืนจะเป็นการดีที่สุด
ลองสอนลูกให้ระบายความวิตกกังวลไปยังวัตถุที่ไม่มีชีวิต เช่น สัตว์ ตุ๊กตา เป็นอีกหนึ่งวิธีอาจช่วยให้ลูก ๆ ระบายความวิตกกังวลได้ หากพวกเขาไม่อยากบอกกับคุณพ่อคุณแม่ หากพวกเขาไม่มีความวิตกกังวลก็จะทำให้หลับสนิทได้
การเล่านิทานก่อนนอนอาจดึงความสนใจของเด็ก ๆ ให้เข้าไปสู่โลกจิตนาการที่เป็นความคิดบวก นอกจากนั้นยังอาจช่วยให้ลืมความกังวลต่าง ๆ การอ่านออกเสียงให้เด็ก ๆ ฟังถือว่าเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการของพวกเขา และช่วงเวลาก่อนนอนถือเป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการอ่านหนังสือให้เด็ก ๆ ฟังอีกด้วย
แต่หากลูกยังไม่ยอมนอน ควรปรึกษากับกุมารแพทย์ เพื่อหาสาเหตุ และวิธีการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจะเป็นการดีที่สุด
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย