การเผชิญอากาศร้อนหรือแสงแดดจัดทำให้ทารกเสี่ยงเกิดภาวะขาดน้ำได้ง่ายขึ้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรทำให้ร่างกายของเด็กชุ่มชื้นอยู่เสมอ หากเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 6 เดือน หรือเด็กที่ยังกินนมอยู่ แนะนำให้ป้อนนมลูกให้บ่อยขึ้น แต่ลดระยะเวลาในการป้อนนมแต่ละครั้งให้สั้นลง แต่หากลูกกินอาหารหยาบได้แล้ว ก็อาจให้เด็กจิบน้ำเย็นทีละนิดก็ได้
โรคลมแดด
โรคลมแดด (Heat Stroke) คือ ภาวะที่ร่างกายมีอุณหภูมิสูงเกินไป เนื่องจากสัมผัสกับอากาศร้อนจัดนานกว่าปกติ จนร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนได้ทัน โดยอาการของโรคลมแดดมักเกิดขึ้นเมื่อร่างกายมีอุณหภูมิสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีจะทำให้อวัยวะส่วนต่าง ๆ ในร่างกายเริ่มหยุดทำงาน ทำให้สมองเสียหาย และอาจเป็นอันตรายร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิตได้
อาการของโรคลมแดดที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้ไว้ เช่น
- เหงื่อออกมากผิดปกติ แต่อยู่ ๆ เหงื่อก็หยุดไหล
- กระหายน้ำมาก
- ผิวหนังซีด เย็นและชื้น
- หัวใจเต้นเร็ว
- กระหม่อมบุ๋ม
- ปัสสาวะน้อยลงและมีสีเข้มกว่าปกติ
- ปากแห้ง ตาแห้ง
- ปวดศีรษะ
- เป็นตะคริว
- ง่วงซึม งอแง
วิธีดูแลทารกเมื่อต้องออกไปข้างนอกช่วงอากาศร้อน
- ไม่ควรทิ้งลูกไว้ในรถตามลำพัง แม้จะเป็นที่จอดรถในร่มก็ตาม
- ให้ลูกจิบน้ำเป็นระยะ เพื่อไม่ให้กระหายน้ำ และป้องกันภาวะขาดน้ำ
- พยายามอย่าให้ทารกต้องเจอแดดในช่วงแดดจัด (10.00-14.00 น.) ยิ่งทารกมีอายุน้อยเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องเลี่ยงแดดในช่วงนี้ให้ได้มากที่สุด เพราะยิ่งเด็กเขาก็ยิ่งผลิตเหงื่อได้น้อย นั่นหมายความว่า ร่างกายเขายังปรับลดอุณหภูมิเองได้ไม่เก่งนัก
- ควรให้ลูกอยู่ในที่ร่มและเย็น อากาศถ่ายเทสะดวก หากต้องพาลูกออกกลางแจ้ง หรือเจอแดดจัด ควรใช้ผ้าหมาด ๆ คลุมรถเข็นเด็กเอาไว้ และให้ลูกใส่เสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าสบาย ผ้าไม่หนาจนทำให้ลูกอัดอัด แต่ก็ไม่บางจนทำให้ลูกเสี่ยงป่วย หรือผิวหนังโดนแดดเผา และอย่าลืมทาครีมกันผดผื่นให้ลูก และเปลี่ยนชุดให้เขาบ่อย ๆ ด้วย
- หากลูกเริ่มงอแง หรือดูอ่อนเพลียผิดปกติ นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าลูกกำลังเผชิญภาวะเครียดจากความร้อน (Heat stress) ซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่อคนเราเจอแดดหรืออากาศร้อนจัด จนร่างกายเริ่มระบายความร้อนไม่ไหว ในกรณีนี้ ควรให้ลูกจิบน้ำให้มาก ๆ และพาลูกเข้าพบคุณหมอทันที
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย