ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group
ยา ซาควินาเวียร์ (Saquinavir) ใช้ร่วมกับยาริโทนาเวียร์ (ritonavir) และยารักษาโรคเอชไอวีอื่นๆ เพื่อควบคุมอาการติดเชื้อเอชไอวี โดยลดปริมาณของเชื้อเอชไอวีในร่างกาย เพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้น ช่วยลดโอกาสของการเกิดอาการแทรกซ้อนของเอชไอวี เช่น การติดเชื้อโรคอื่นๆ โรคมะเร็ง และช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย
ยา ซาควินาเวียร์ เป็นจัดอยู่ในกลุ่มยายับยั้งเอนไซม์โปรตีเอส (protease inhibitors) จำเป็นต้องใช้คู่กับยาริโทนาเวียร์ ยาอีกตัวในกลุ่มยายับยั้งเอนไซม์โปรตีเอส เพื่อช่วยเพิ่มระดับของยาซาควินาเวียร์ (saquinavir) ทำให้ยา ซาควินาเวียร์ ทำงานได้ดีขึ้น
ยา ซาควินาเวียร์ ไม่ใช่ยาที่ใช้รักษาการติดเชื้อเอชไอวี เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อเอชไอวีควรทำดังนี้
โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม
รับประทานยาซาควินาเวียร์และริโทนาเวียร์ ในเวลาเดียวกันตามที่แพทย์สั่ง พร้อมกับมื้ออาหารหรือภายใน 2 ชั่วโมงหลังมื้ออาหาร โดยทั่วไปคือ 2 ครั้งต่อวัน
เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง แพทย์อาจแนะนำให้คุณเริ่มรับประทานยาซาควินาเวียร์ในปริมาณน้อยแล้วจึงค่อยๆ เพิ่มเพิ่มขนาดยา โปรดปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
ขนาดยาขึ้นอยู่กับอาการของคุณ การตอบสนองต่อการรักษา และยาอื่นๆ ที่คุณกำลังใช้อยู่ อย่าลืมแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรของคุณทราบด้วยว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ
ใช้ยาซาควินาเวียร์เป็นประจำ โดยเว้นระยะห่างเท่าๆ กัน เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากยาสูงสุด และเพื่อให้จำง่ายขึ้น ควรใช้ยาในเวลาเดียวกันทุกวัน
คุณต้องใช้ยานี้ รวมไปถึงยาเอชไอวีอื่นๆ อย่างต่อเนื่องจนครบกำหนดตามที่แพทย์สั่ง อย่ารับประทานยานี้ หรือยาเอชไอวีอื่นๆ มากหรือน้อยกว่าที่กำหนดไว้ และอย่าหยุดรับประทานยานี้ หรือยาเอชไอวีอื่นๆ ก่อนกำหนด แม้จะเป็นเพียงเวลาสั้นๆ เว้นแต่ว่าแพทย์จะแนะนำให้ทำเช่นกัน
การข้ามหรือเปลี่ยนขนาดยาโดยไม่ได้รับการอนุมัติจากแพทย์ อาจทำให้ปริมาณไวรัสเพิ่มขึ้น ทำให้รักษาการติดเชื้อยากขึ้น หรือทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ร้ายแรงได้
ยาซาควินาเวียร์ควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงและความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหายหรือเสื่อมสภาพ ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาซาควินาเวียร์บางยี่ห้ออาจมีวิธีเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ และโปรดเก็บยาให้พ้นจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยงเพื่อความปลอดภัย
ไม่ควรทิ้งยาซาควินาเวียร์ลงในชักโครก หรือเทลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น หากยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้ยา ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้อง โดยสามารถสอบถามข้อมูลวิธีกำจัดยาที่ถูกต้องเพิ่มเติมได้จากเภสัชกร
ก่อนรับประทานยาซาควินาเวียร์ โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกร หากคุณมีอาการแพ้ยานี้ หรือมีอาการแพ้อื่นๆ ยานี้อาจมีส่วนผสมที่ไม่ได้มีฤทธิ์ในการรักษา ที่ทำให้เกิดการแพ้ได้ จึงควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ก่อนรับประทานยาซาควินาเวียร์ แจ้งประวัติทางการแพทย์ให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ โดยเฉพาะ
ยาซาควินาเวียร์อาจทำให้เกิดภาวะที่มีผลต่อจังหวะการเต้นของหัวใจ (QT prolongation หรือระยะของคลื่นไฟฟ้าหัวใจที่ยาวกว่าปกติ) ซึ่งมักไม่ก่อให้เกิดอาการร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต แต่ต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลอย่างทันท่วงที เช่น หัวใจเต้นเร็วหรือเต้นผิดปกติ วิงเวียนศีรษะรุนแรง หมดสติ
ความเสี่ยงของการเกิด QT prolongation อาจเพิ่มขึ้น หากคุณมีภาวะบางอย่าง หรือรับประทานยาที่ทำให้เกิด QT prolongation ก่อนรับประทานยาซาควินาเวียร์
โปรดแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับข้อมูลของยาทั้งหมดที่คุณใช้ หรือหากคุณมีอาการ ดังต่อไปนี้
ระดับโพแทสเซียมหรือแมกนีเซียมในเลือดต่ำ อาจทำให้คุณเสี่ยงต่อการเกิด QT prolongation ได้ ความเสี่ยงนี้อาจเพิ่มขึ้น หากคุณใช้ยาบางชนิด เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาขับน้ำ หรือหากคุณมีอาการ เช่น เหงื่อออกมากผิดปกติ ท้องร่วง อาเจียน โปรดปรึกษาแพทย์ถึงวิธีใช้ยาอย่างปลอดภัย
ก่อนการผ่าตัด แจ้งแพทย์หรือทันตแพทย์ด้วยว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ
ผู้สูงอายุอาจจะไวต่อผลข้างเคียงของยานี้มากกว่า โดยเฉพาะการเกิด QT prolongation
ในช่วงตั้งครรภ์ ควรใช้ยานี้เมื่อจำเป็นเท่านั้น การรักษาสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการส่งต่อเชื้อเอชไอวีไปสู่บุตรได้ และยาซาควินาเวียร์อาจเป็นส่วนหนึ่งในการรักษานี้ โปรดปรึกษาแพทย์ถึงความเสี่ยงและประโยชน์ก่อนการใช้ยา
ยานี้อาจส่งผลต่อการให้นมบุตรได้ โปรดปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ เกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้
ยาไกลคลาไซด์จัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์ หมวด B โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
ยาซาควินาเวียร์อาจทำให้เกิดอาการท้องร่วง คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง หรือเมื่อยล้า หากผลข้างเคียงใดๆ เกิดขึ้นเป็นระยะเวลานาน หรือมีอาการแย่ลง ควรแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบทันที
โปรดจำไว้ว่า การที่แพทย์ให้คุณใช้ยาตัวนี้ เนื่องจากพิจารณาแล้วว่า ยามีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในการรักษา และคนที่ใช้ยานี้ส่วนใหญ่ไม่พบผลข้างเคียงที่ร้ายแรงใดๆ
เมื่อระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น ก็จะเริ่มต่อสู้กับการติดเชื้อที่คุณมีอยู่ และหากระบบภูมิคุ้มกันของคุณทำงานมากเกินไป อาการของโรคอาจกลับมาได้อีกครั้ง ปฏิกิริยานี้สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา (ไม่นานหลังจากเริ่มการรักษาเอชไอวีหรือในอีกหลายๆเดือนถัดมา)
รับการรักษาทางการแพทย์ทันที หากคุณมีอาการร้ายแรงใดๆ รวมถึง
เข้ารับการรักษาทันที หากคุณมีอาการของผลข้างเคียงร้ายแรง เช่น
ปัญหาระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นเนื่องจากการใช้ยานี้ค่อนข้างพบได้ยาก แต่หากเกิดขึ้นก็อาจทำให้อาการเบาหวานแย่ลง ควรแจ้งให้หมอทราบทันที
หากคุณมีสัญญาณของอาการน้ำตาลในเลือดสูง เช่น กระหายน้ำ และปัสสาวะเพิ่มขึ้น หากคุณเป็นโรคเบาหวานอยู่แล้ว ควรตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดสม่ำเสมอตามที่กำหนด และแจ้งผลให้แพทย์ได้รับทราบ แพทย์อาจจะจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนยารักษาโรคเบาหวานของคุณ โปรแกรมออกกำลังกายหรือการกินอาหาร
อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงของไขมันในร่างกายขึ้นได้ ในขณะที่คุณใช้ยาตัวนี้ เช่น ไขมันบริเวณด้านหลังส่วนบนและส่วนท้องเพิ่มขึ้น ไขมันที่แขนและขาลดลง สาเหตุและผลกระทบระยะยาวของการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ยังไม่ทราบแน่ชัด ควรปรึกษากับแพทย์ถึงความเสี่ยง และประโยชน์ของการรักษา รวมทั้งการออกกำลังกายที่จะช่วยลดผลข้างเคียงได้
การแพ้ยาที่รุนแรงนี้ค่อนข้างเกิดขึ้นได้ยาก อย่างไรก็ตาม หากคุณสังเกตเห็นอาการที่บ่งบอกถึงการแพ้อย่างรุนแรง ได้แก่ เวียนศีรษะรุนแรง หายใจติดขัดเกิดผื่นแดง คันหรือบวม โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า ลิ้น และลำคอ ควรเข้ารับการรักษาทันที
ผลข้างเคียงที่กล่าวมาข้างต้น อาจไม่ได้เกิดกับทุกคน หรือบางคนอาจมีอาการอื่นนอกเหนือจากนี้ หากคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
ยาที่อาจเกิดปฏิกิริยากับยาซาควินาเวียร์ เช่น
ยาชนิดอื่นๆ อีกหลายชนิดนอกเหนือจากยาซาควินาเวียร์ อาจทำให้ส่งผลต่อจังหวะการเต้นของหัวใจ (QT prolongation) เช่น
ยาอื่นๆ อาจส่งผลต่อการกำจัดยาซาควินาเวียร์ออกจากร่างกาย ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของยาซาควินาเวียร์ เช่น ยายับยั้งเอนไซม์โปรตีเอสเอชไอวีอื่นๆ อย่างยาอะทาซานาเวียร์ (atazanavir) ยาอินดินาเวียร์ (indinavir) ยาเนวฟินนาเวียร์ (nelfinavir) ยาทิพล่านาเวียร์ (tipranavir) หรือยาโคบิซิสแตท (cobicistat) เป็นต้น
ยาซาควินาเวียร์อาจทำให้การกำจัดยาบางชนิดออกจากร่างกายช้าลง ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของยานั้น เช่น
ยานี้อาจลดประสิทธิภาพของการคุมกำเนิดโดยใช้ฮอร์โมน เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด แผ่นแปะผิวหนัง หรือห่วงคุมกำเนิด ซึ่งอาจทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้
ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการคุมกำเนิดเพิ่มเติม และใช้การปกป้องที่มีประสิทธิภาพ เช่น ถุงยางลาเท็กซ์หรือโพลียูรีเทน แผ่นยางอนามัย ทุกครั้งขณะทำกิจกรรมทางเพศ เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อเอชไอวีสู่ผู้อื่น
แจ้งให้แพทย์ทราบทันที หากคุณมีเลือดออกกระปริดกระปรอย เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณบอกว่า การคุมกำเนิดโดยใช้ฮอร์โมนนั้นทำงานได้ไม่ดี
ยาซาควินาเวียร์อาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น
คุณควรแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบด้วยว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ และเพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาเองโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ยาซาควินาเวียร์อาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ยาซาควินาเวียร์อาจทำให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งสภาวะโรคของคุณให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบก่อนใช้ยาเสมอ
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อใช้รักษาการติดเชื้อเอชไอวี
ขนาดยามาตรฐาน : ยาซาควินาเวียร์ 1000 มก. กับยาริโทนาเวียร์ 100 มก. รับประทานวันละสองครั้ง
ผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการรักษา (เริ่มการบำบัดด้วยยาซาควินาเวียร์ หรือยาริโทนาเวียร์)
ผู้ป่วยที่เปลี่ยนสูตรยากระทันหัน (โดยไม่หยุดพัก) จากยาที่มีส่วนประกอบของยาริโทนาเวียร์ หรือยาในกลุ่มเอ็นเอ็นอาร์ทีไอ (NNRTI) ไม่รวมดีลาเวียร์ดีน (delavirdine) ริลพิไวรีน (rilpivirine) : ยาซาควินาเวียร์ 1000 มก. กับยาริโทนาเวียร์ 100 มก. รับประทานวันละ 2 ครั้ง
ผู้ป่วยที่เปลี่ยนจากสูตรที่มียาดีลาเวียร์ดีนหรือยาริลพิไวรีน
วิธีใช้ : ใช้ร่วมกับยาริโทนาเวียร์และยาต้านไวรัสอื่นๆ ในการรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี-1
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อใช้รักษาการติดเชื้อจากสาเหตุอื่นๆ
คำแนะนำจากศูนย์ควบคุมโรคติดต่อแห่งสหรัฐอเมริกา : ยาซาควินาเวียร์ 1000 มก. กับยาริโทนาเวียร์ 100 มก. (หรือยาซาควินาเวียร์ 400 มก. กับยาริโทนาเวียร์ 400 มก.) รับประทานวันละสองครั้ง
ระยะเวลาการรักษา : 28 วัน
คำแนะนำ
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อใช้รักษาการติดเชื้อเอชไอวีที่มีสาเหตุโดยตรง
คำแนะนำจากกลุ่มงานบริการสาธารณสุขแห่งสหรัฐอเมริกา : ยาซาควินาเวียร์ 1000 มก. กับยาริโทนาเวียร์ 100 มก. รับประทานวันละสองครั้ง
ระยะเวลาการรักษา : 28 วัน หากดื้อยา
คำแนะนำ
การปรับขนาดยาสำหรับโรคไต
อาการระดับเบาหรือปานกลาง : ไม่ควรปรับขนาดยา
ไตผิดปกติระดับรุนแรง หรือโรคไตระยะสุดท้าย : ไม่ควรปรับขนาดยา ควรใช้ยาอย่างระมัดระวัง
การปรับขนาดยาสำหรับโรคตับ
อาการระดับเบาหรือปานกลาง : ไม่ควรปรับขนาดยา
เมื่อใช้คู่กับยาริโทนาเวียร์ :
อาการผิดปกติที่ตับอย่างรุนแรง : ไม่ควรใช้
การปรับขนาดยา
หากมีอาการหนักหรือมีอาการเป็นพิษรุนแรงขณะใช้ยานี้ ควรหยุดใช้ยาจนกว่าอาการจะหายไป หลังจากนั้นอาจควริจารณาเรื่องการกลับมาใช้ยาในขนาดยาปกติ
คำเเนะนำอื่นๆ
คำแนะนำในการใช้ยา
ผู้ป่วยที่ไม่สามารถกลืนยาได้ :
การเก็บรักษา
เก็บที่อุณหภูมิ 25 องศาเซียลเซียส (77 องศาฟาเรนไฮน์) หากเป็นการเดินทางระยะสั้น ให้เก็บได้ที่อุณหภูมิ 15-30 องศาเซลเซียส (59-86 องศาฟาเรนไฮต์) โดยปิดขวดยาให้สนิท
ทั่วไป
ควรพิจารณาเรื่องต่อไปนี้หลังจากเริ่มใช้ยา :
การเฝ้าสังเกต
คำแนะนำสำหรับคนไข้
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อใช้รักษาการติดเชื้อเอชไอวี
16 ปี หรือมากกว่า :
ขนาดยามาตรฐาน : ยาซาควินาเวียร์ 1000 มก. กับยาริโทนาเวียร์ 100 มก. รับประทานวันละสองครั้ง
ผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการรักษา (เริ่มการบำบัดด้วยยาซาควินาเวียร์/ยาริโทนาเวียร์) :
ผู้ป่วยที่เปลี่ยนสูตรยากระทันหัน (โดยไม่หยุดพัก) จากยาที่มีส่วนประกอบของยาริโทนาเวียร์ หรือยาในกลุ่มเอ็นเอ็นอาร์ทีไอ (NNRTI) ไม่รวมดีลาเวียร์ดีน (delavirdine) ริลพิไวรีน (rilpivirine) : ยาซาควินาเวียร์ 1000 มก. กับยาริโทนาเวียร์ 100 มก. รับประทานวันละ 2 ครั้ง
ผู้ป่วยที่เปลี่ยนจากสูตรที่มียาดีลาเวียร์ดีนหรือยาริลพิไวรีน
คำแนะนำ
ขนาดยาที่เชื่อถือได้ มีประสิทธิภาพ และปลอดภัย (ต่ำกว่าระดับความกังวลสำหรับ QT และ PR interval prolongation) นั้นยังไม่ได้รับการพิสูจน์สำหรับเด็กที่อายุต่ำกว่า 16 ปี
วิธีใช้ : ใช้ร่วมกับยาริโทนาเวียร์และยาต้านไวรัสอื่น ๆ ในการรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี-1
ยาซาควินาเวียร์มีจุดเด่นและรูปแบบการใช้งานดังนี้
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านทันที
หากคุณลืมรับประทานยาควรรีบรับประทานทันทีที่นึกได้ หรือหากใกล้ถึงเวลารับประทานยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปรับประทานยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย