ข้อบ่งใช้
นาบูเมโทน ใช้สำหรับ
นาบูเมโทน (Nabumetone) เป็นชื่อตัวยาที่ใช้ในการรักษาอาการปวดและอักเสบจากโรคข้อเสื่อม หรือ โรคเกาต์ (Gout) นาบูเมโทนนี้เป็นยาในกลุ่มยาแก้อักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAID)
วิธีการใช้ นาบูเมโทน
- รับประทานยานี้ตามที่แพทย์กำหนด วันละ 1 – 2 ครั้ง พร้อมกับดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวัน
- ห้ามล้มตัวลงนอนหลังจากใช้นาบูเมโทน เพื่อป้องกันอาการท้องไส้ปั่นป่วน ควรรับประทานพร้อมกับอาหาร หรือยาลดกรด
- ขนาดยาขึ้นอยู่กับสภาวะทางการแพทย์ และการตอบสนองต่อการรักษา เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง (เช่น เลือดออกในกระเพาะอาหาร)
- ควรใช้ยานี้ในขนาดต่ำที่สุด และใช้ในระยะเวลาที่สั้นที่สุด อย่าเพิ่มปริมาณนาบูเมโทน หรือใช้บ่อยกว่าที่กำหนด
- สำหรับอาการเรื้อรัง เช่น ข้ออักเสบ ให้ใช้นาบูเมโทนอย่างต่อเนื่องตามที่แพทย์กำหนด โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
สภาวะบางอย่าง เช่น ข้ออักเสบ อาจต้องใช้ยาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานกว่า 2 สัปดาห์ จึงจะเห็นผลการรักษาและอาการที่ดีขึ้นจากนาบูเมโทน แจ้งให้แพทย์ทราบ หากอาการของคุณรุนแรงขึ้น
การเก็บรักษา นาบูเมโทน
- ควรเก็บในอุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย
- เก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
- ไม่ควรทิ้งนาบูเมโทนลงในชักโครก หรือเทยาลงในท่อระบายน้ำ ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน
นาบูเมโทนบางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน ตรวจสอบฉลากข้างบรรจุภัณฑ์หรือสอบถามแพทย์และเภสัชกรเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัย
ข้อควรระวังและคำเตือน
ข้อควรรู้ก่อนใช้ นาบูเมโทน
ก่อนใช้นาบูเมโทน แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ หากคุณแพ้ต่อนาบูเมโทน หรือยาแก้อักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์อื่นๆ (NSAIDs) เช่น ไอบูโพรเฟน (ibuprofen) นาพรอกเซน (naproxen) หรือเซเลโคซิบ (celecoxib) หรือหากคุณเป็นโรคภูมิแพ้อื่นๆ นาบูเมโทนมีสารไม่ออกฤทธิ์ที่ทำให้เกิดอาการแพ้ หรือปัญหาอื่น โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ก่อนใช้นาบูเมโทน แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ เกี่ยวกับประวัติโรคประจำตัวของคุณ โดยเฉพาะโรคต่อไปนี้
- โรคหอบหืด (รวมถึงเคยมีอาการหายใจได้แย่ลงหลังจากใช้ยาแอสไพรินหรือยาแก้อักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์อื่นๆ)
- ปัญหาเกี่ยวกับอาการเลือดออกหรือลิ่มเลือดอื่นๆ ริดสีดวง โรคหัวใจ เช่น เคยมีอาการหัวใจขาดเลือดฉับพลัน
- ความดันโลหิตสูง
- โรคหลอดเลือดสมอง
- โรคตับ
- ปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร ลำไส้ หรือหลอดอาหาร
บางครั้งการใช้ยาแก้อักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ รวมถึงนาบูเมโทน อาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับไต ปัญหานี้มักจะเกิดขึ้น หากคุณมีภาวะขาดน้ำ หัวใจวาย โรคไต ดื่มน้ำให้เพียงพอตามที่แพทย์กำหนด เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ และแจ้งให้แพทย์ทราบในทันที หากปริมาณของปัสสาวะมีการเปลี่ยนแปลง
นาบูเมโทนนี้อาจทำให้เกิดอาการวิงเวียนหรือง่วงซึม ไม่ควรใช้ยานพาหนะจนกว่าคุณจะสามารถทำได้อย่างปลอดภัย และมีปฏิกิริยาไวต่อแสง ควรหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับแสงแดดจัด ทาครีมกันแดด และสวมเสื้อผ้าป้องกันเมื่ออยู่นอกบ้าน
สำหรับสตรีที่กำลังตั้งครรภ์ ควรใช้ยานี้เมื่อจำเป็นเท่านั้น ควรได้รับการอนุญาตจากแพทย์และได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องก่อนใช้
ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า นาบูเมโทนสามารถผ่านสู่น้ำนมแม่ได้หรือไม่ ไม่แนะนำการให้นมบุตรระหว่างกำลังใช้นาบูเมโทนโปรดปรึกษาแพทย์ก่อนให้นมบุตร
ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรี ที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้
นาบูเมโทนจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ ประเภท C โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
- A= ไม่มีความเสี่ยง
- B= ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
- C= อาจจะมีความเสี่ยง
- D= มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
- X= ห้ามใช้
- N= ไม่ทราบแน่ชัด
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงของการใช้ นาบูเมโทน
ผลข้างเคียงที่สามารถพบได้ทั่วไปจากการใช้ นาบูเมโทน มีดังนี้
- อาจเกิดอาการท้องไส้ปั่นป่วน
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ท้องร่วง มีแก๊สในกระเพาะอาหาร
- วิงเวียน ง่วงซึม หรือปวดหัว
หากอาการเหล่านี้ไม่หายไปหรือรุนแรงขึ้น โปรดแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรในทันที
ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับผลข้างเคียงในข้างต้นนี้ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือเภสัชกรที่จำหน่ายยาอย่างละเอียดก่อนการใช้ยา
ปฏิกิริยาของยา
ปฏิกิริยากับยาอื่น
ยาที่อาจมีปฏิกิริยากับยานี้ ได้แก่
- อะลิสคิเรน (aliskiren)
- ยาในกลุ่ม ACE inhibitors เช่น แคปโตพริล (captopril) หรือลิซิโนพริล (lisinopril)
- ยาในกลุ่มแองจิโอเทนซินทูรีเซฟเตอร์บล็อกเกอร์ (angiotensin II receptor blockers) เช่น ลอซาร์แทน (losartan) หรือวาลซาร์แทน (valsartan) ไซโดโฟเวียร์ (cidofovir)
- ยาในกลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ (corticosteroids) เช่น เพรดนิโซน (prednisone) ลิเทียม (lithium) เมโธเทรกเซท (methotrexate)
- ยาขับปัสสาวะ เช่น ฟูโรซีไมด์ (furosemide)
นาบูเมโทนอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอาการเลือดออก เมื่อใช้ร่วมกับยาอื่นที่เพิ่มความเสี่ยงเกี่ยวกับเลือด เช่น ยาต้านเกล็ดเลือด อย่างโคลพิโดเกรล (clopidogrel) ยาเจือจางเลือด เช่น ดาบิกาแทรน (dabigatran) อีนอกซาพาริน (enoxaparin) หรือวาฟาริน (warfarin) และอื่นๆ
ควรอ่านฉลากข้างบรรจุภัณฑ์ที่จำหน่ายโดยแพท์และเภสัชกร เนื่องจากมียาจำนวนมากที่มียาบรรเทาอาการปวด เช่น แอสไพริน เซเลโคซิบ (celecoxib) ไอบูโพรเฟน (ibuprofen) หรือคีโตโรแลค (ketorolac) ยาเหล่านี้มีความคล้ายคลึงกับนาบูเมโทน และอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง หากใช้ร่วมกัน เว้นแต่แพทย์จะอนุญาต
นาบูเมโทนอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น ควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์
นาบูเมโทนอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น
นาบูเมโทนอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
ขนาดยา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาด นาบูเมโทน สำหรับผู้ใหญ่
ขนาดนาบูเมโทนสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคข้อเสื่อม (Osteoarthritis)
- ขนาดยาเริ่มต้น : 1000 มก. รับประทานวัน 1 ครั้ง
- ขนาดยาปกติ : รับประทาน 1500 ถึง 2000 มก. ต่อวัน แบ่งรับประทาน 1 หรือ 2 ครั้ง
- ขนาดยาปกติ : 2000 มก./วัน
คำแนะนำ
- ผู้ป่วยที่น้ำหนักน้อยกว่า 50 มก. ไม่ควรใช้เกินปริมาณ 1000 มก.
- เมื่อมีการตอบสนองต่อการรักษา ควรปรับปริมาณของยาและความถี่ในการใช้ โดยเริ่มปริมาณที่ต่ำที่สุดที่มีประสิทธิภาพและระยะเวลาที่สั้นที่สุด
การใช้งาน
- เพื่อรักษาอาการของโรคข้อเสื่อมและโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
ขนาดนาบูเมโทนสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis)
- ขนาดยาเริ่มต้น : 1000 มก. รับประทานวัน 1 ครั้ง
- ขนาดยาปกติ : รับประทาน 1500 ถึง 2000 มก. ต่อวัน แบ่งรับประทาน 1 หรือ 2 ครั้ง
- ขนาดยาปกติ : 2000 มก./วัน
คำแนะนำ
- ผู้ป่วยที่น้ำหนักน้อยกว่า 50 มก. ไม่ควรใช้เกินปริมาณ 1000 มก.
- เมื่อมีการตอบสนองต่อการรักษา ควรปรับปริมาณของยาและความถี่ในการใช้ โดยเริ่มปริมาณที่ต่ำที่สุดที่มีประสิทธิภาพและระยะเวลาที่สั้นที่สุด
การใช้งาน
- เพื่อรักษาอาการของโรคข้อเสื่อมและโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
การปรับขนาดนาบูเมโทนสำหรับผู้ป่วยโรคไต
ไตบกพร่องระดับเบา (ค่าครีอะตินีนเคลียรานซ์ [CrCl] 50 มล./นาที หรือมากกว่านั้น)
- ไม่มีการปรับขนาดยาที่แนะนำ
ไตบกพร่องระดับปานกลาง (ค่าครีอะตินีนเคลียรานซ์ 30 ถึง 49 มล./นาที)
- ขนาดยาเริ่มต้น : 750 มก. รับประทานวัน 1 ครั้ง
- ขนาดยาปกติ : 1500 มก./วัน
ไตบกพร่องระดับรุนแรง (ค่าครีอะตินีนเคลียรานซ์น้อยกว่า 30 มล./นาที )
- ขนาดยาเริ่มต้น : 500 มก. รับประทานวัน 1 ครั้ง
- ขนาดยาสูงสุด : 1000 มก./วัน
หลีกเลี่ยงการใช้ในผู้ป่วยที่มีไตบกพร่องระดับรุนแรง หากจำเป็นต้องใช้ควรเริ่มต้นการรักษาโดยเฝ้าการทำงานของไตอย่างใกล้ชิด
การปรับขนาดนาบูเมโทนสำหรับผู้ป่วยโรคตับ
- ผู้ป่วยที่มีผลการทดสอบตับผิดปกติ หรืออาการของตับบกพร่องควรทำการประเมินความผิดปกติของตับในเบื้องต้น
- หากเกิดโรคตับหรือมีอาการทั่วร่างการ เช่น ภาวะ eosinophilia หรือผดผื่น ควรหยุดใช้ยานี้
คำแนะนำอื่นๆ
คำแนะนำการใช้ยา
- สามารถรับประทานพร้อมกับอาหารหรือรับประทานแยกต่างหากวันละ 1-2 ครั้ง
การเก็บรักษา
- เก็บไว้ให้พ้นจากแสงแดด
ทั่วไป
- ควรใช้นาบูเมโทนในปริมาณยาที่ต่ำที่สุดที่มีประสิทธิภาพและระยะเวลาที่สั้นที่สุด
- อาจมีความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจขาดเลือดฉับพลัน หัวใจวาย หรือโรคหลอดเลือดสมอง ขณะที่กำลังใช้ยาแก้อักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ ผลข้างเคียงนี้สามารถเกิดได้ตลอดระยะเวลาในการรักษาและความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นหากใช้เป็นเวลานาน หากเคยเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ และหากใช้ยาในขนาดสูง
การเฝ้าระวัง
- หัวใจและหลอดเลือด : ควรเฝ้าระวังความดันโลหิตอย่างใกล้ชิดในช่วงต้นของการรักษาและในช่วงตลอดระยะเวลาในการรักษา
- ระบบทางเดินอาหาร: เฝ้าระวังอาการเลือดออกในระบบทางเดินอาหาร
- สมรรถภภาพของไต : เฝ้าระวังการทำงานของไต โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีอาการโปรสตาแกลนดินส์ของไต (renal prostaglandins) มีบทบาทสำคัญในการรักษาระดับเลือดมาเลี้ยงไต
- เฝ้าระวังจำนวนเม็ดเลือด สมรรถภาพของไต และสมรรถภาพของตับเป็นระยะๆ สำหรับผู้ป่วยที่ทำการรักษาในระยะยาว
คำแนะนำสำหรับผู้ป่วย
- ผู้ป่วยควรรับการรักษา หากมีอาการรุนแรงที่ระบบทางเดินอาหาร ปฏิกิริยาไม่พึงประสงค์ที่ผิวหนัง หรืออาการน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างหาสาเหตุไม่ได้หรือบวมน้ำ
- ผู้ป่วยควรรับการรักษาทันที หากมีอาการของโรคหลอดเลือดหัวใจ ทั้งอาการหายใจไม่อิ่ม พูดไม่ชัด หรืออาการอ่อนแรงที่ด้านใดด้านหนึ่งของร่างกาย
- ผู้ป่วยควรแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ หากกำลังตั้งครรภ์ มีแผนที่จะตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร ไม่ควรใช้นาบูเมโทนในช่วงสัปดาห์ที่ 30 ขึ้นไปของการตั้งครรภ์
ขนาด นาบูเมโทนสำหรับเด็ก
ไม่มีการกำหนดขนาดยาสำหรับผู้ป่วยเด็ก เนื่องจากเป็นยาค่อนข้างอันตราย ควรทำความเข้าใจถึงความปลอดภัยของนอร์ฟลอกซาซินก่อนใช้และโปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม
รูปแบบของยา
รูปแบบของยา มีดังนี้
- ยาเม็ดสำหรับรับประทาน
กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
กรณีลืมใช้ยา
หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยาก่อนได้รับอนุญาตจากแพทย์
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmi]