ข้อบ่งใช้
ลาแทโนพรอสต์ ใช้สำหรับ
ลาแทโนพรอสต์ (Latanoprost) ใช้เพื่อรักษาความดันสูงภายในดวงตาเนื่องจากโรคต้อหิน (มุมเปิด) หรือโรคตาอื่นๆ เช่น โรคความดันตาสูง ยานี้คล้ายกันสารเคมีตามธรรมชาติในร่างกาย อย่างโพรสตาแกลนดิน (prostaglandin) และทำงานโดยการทำให้การไหลเวียนของน้ำภายในดวงตาเป็นปกติ ส่งผลให้ลดระดับความดัน การลดระดับความดันภายในดวงตานั้นจะช่วยป้องกันการตาบอดได้
วิธีการใช้ยา ลาแทโนพรอสต์
หยอดยาลงในดวงตาที่มีอาการ โดยปกติคือวันละครั้งตอนเย็น หรือตามที่แพทย์กำหนด อย่าใช้ยานี้บ่อยเกินกว่าที่กำหนด การใช้มากกว่านี้อาจจะทำให้ประสิทธิภาพลดลง
ก่อนหยอดยาควรล้างมือให้สะอาดก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อน ไม่ควรสัมผัสกับส่วนปลายขวด หรือให้ส่วนปลายสัมผัสกับดวงตา หรือพื้นผิวอื่นๆ
สารกันบูดในยานี้อาจจะดูดซึมเข้าไปในคอนแทคเลนส์ได้ หากคุณกำลังใส่คอนแทคเลนส์ ควรถอดออกก่อนหยอดยา รอประมาณ 15 นาที แล้วจึงสวมคอนแทคเลนส์กลับเข้าไป
หงายหน้าขึ้น มองขึ้นไปด้านบนแล้วดึงเปลือกตาล่างลงมาให้เป็นกระพุ้ง ถือขวดยาหยอดตาไว้เหนือดวงตา แล้วหยอดยาหนึ่งหยดลงไปในกระพุ้งนั้น โดยปกติแล้วคือวันละสองครั้ง หรือตามที่แพทย์กำหนด มองลงมาแล้วค่อยๆ หลับตานาน 1 ถึง 2 นาที ใช้นิ้วกดลงไปเบาๆ ที่หัวตา (ใกล้กับจมูก) เพื่อป้องกันไม่ให้ยาไหลออก พยายามอย่ากระพริบตา และอย่าขยี้ตา ทำตามขั้นตอนนี้ซ้ำที่ดวงตาอีกข้าง
อย่าล้างขวดยาหยอดตา และปิดฝาหลังจากใช้งาน
ใช้ยานี้เป็นประจำ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากยา เพื่อให้ง่ายต่อการจำ ควรใช้ยาในเวลาเดียวกันทุกวัน ควรใช้ยาลาแทโนพรอสต์อย่างต่อเนื่อง แม้คุณจะรู้สึกเป็นปกติ คนส่วนใหญ่ที่เป็นโรคต้อหินหรือมีความดันตาสูงนั้น จะไม่รู้สึกป่วย
หากคุณกำลังใช้ยาอื่นสำหรับดวงตา เช่น ยาหยอดตาหรือขี้ผึ้งทาตา ควรรออย่างน้อย 5 ถึง 10 นาทีก่อนใช้ยาอื่น ใช้ยาหยอดตาก่อนยาขี้ผึ้ง เพื่อให้ยาสามารถเข้าดวงตาได้
การเก็บรักษายาลาแทโนพรอสต์
ขวดยาที่ยังไม่ได้เปิดขวดไว้ในตู้เย็น อย่าแช่แข็ง
ยาลาแทโนพรอสต์ควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาลาแทโนพรอสต์บางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัย โปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ไม่ควรทิ้งยาลาแทโนพรอสต์ลงในชักโครก หรือเทยาลงในท่อระบายน้ำ เว้นเสียแต่จะได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง
ข้อควรระวังและคำเตือน
ข้อควรรู้ก่อนใช้ยาลลาแทโนพรอสต์
ก่อนใช้ยาลาแทโนพรอสต์ แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ หากคุณแพ้ต่อยานี้ หรือหากคุณเป็นโรคภูมิแพ้อื่นๆ ยานี้อาจมีสารไม่ออกฤทธิ์ เช่น สารกันบูดอย่างเบนซาลโคเนียมคลอไรด์ (benzalkonium chloride) ที่ทำให้เกิดอาการแพ้หรือปัญหาอื่น โปรดปรึกษาเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ก่อนใช้ยานี้ แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบเกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ของคุณ โดยเฉพาะปัญหาเกี่ยวกับดวงตาอื่นๆ เช่น จอตาบวมน้ำบริเวณจุดภาพชัด (macular edema) กระจกตาอักเสบ (keratitis) ม่านตาอักเสบ (iritis) หรือยูเวียอักเสบ (uveitis) การผ่าตัดเลนส์ตา
หากเกิดอาการติดเชื้อ หรือบาดเจ็บ หรือมีการผ่าตัดที่ดวงตา โปรดสอบถามแพทย์ว่า คุณควรใช้ยาลาแทโนพรอสต์ขวดปัจจุบัน หรือเริ่มใช้ยาขวดใหม่
อาจเกิดอาการมองเห็นไม่ชัด หรือมองเห็นไม่เสถียรชั่วคราวหลังจากใช้ยานี้ อย่าขับรถ ใช้เครื่องจักร หรือทำกิจกรรมที่ต้องการการมองเห็นที่ชัดเจน จนกว่าจะสามารถทำกิจกรรมได้อย่างปลอดภัย
ในช่วงขณะการตั้งครรภ์ควรใช้ยานี้เมื่อจำเป็นเท่านั้น โปรดปรึกษาความเสี่ยงและประโยชน์กับแพทย์
ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ยานี้สามารถส่งผ่านน้ำนมแม่ได้หรือไม่ โปรดปรึกษาแพทย์ก่อนให้นมบุตร
ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ เกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้
ยาลาแทโนพรอสต์จัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์ หมวด C โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
- A= ไม่มีความเสี่ยง
- B= ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
- C= อาจจะมีความเสี่ยง
- D= มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
- X= ห้ามใช้
- N= ไม่ทราบแน่ชัด
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงของการใช้ยาลาแทโนพรอสต์
อาจเกิดอาการมองเห็นไม่ชัด แสบร้อน ปวดเหมือนโดนแมลงต่อย คัน หรือตาแดง ขนตามีการเปลี่ยนแปลงด้านจำนวน สี ความยาว และความหนา เปลือกตาเปลี่ยนแปลงหรือสีคล้ำขึ้น ตาแห้ง เปลือกตาตกสะเก็ด หรือรู้สึกไม่สบาย หรือมีปฏิกิริยาไวต่อแสงมากขึ้น หากอาการเหล่านี้ไม่หายไป หรือรุนแรงขึ้น โปรดแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรในทันที
ยานี้อาจทำให้เกิดดวงตาส่วนที่มีสี เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล (ม่านตา) อย่างช้าๆ (นานหลายเดือนจนถึงหลายปี) หากคุณกำลังใช้ยาลาแทโนพรอสต์ที่ดวงตาข้างเดียว ก็จะเปลี่ยนแค่สีม่านตาข้างนั้น การเปลี่ยนสีอาจเป็นอย่างถาวร แต่ผลในระยะยาวนั้นยังไม่แน่ชัด โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบ หากเกิดอาการนี้ และควรตรวจดวงตาเป็นประจำเพื่อเฝ้าระวัง
โปรดจำไว้ว่า การที่แพทย์ให้คุณใช้ยาตัวนี้ เนื่องจากคำนวณแล้วว่า ยามีประโยชน์มากกว่าเป็นโทษ และคนที่ใช้ยานี้ส่วนใหญ่ไม่พบผลข้างเคียงที่ร้ายแรงใดๆ
แจ้งให้แพทย์ทราบในทันที หากเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงดังต่อไปนี้ ได้แก่ ปวดตา สงสัยว่าจะเกิดการติดเชื้อที่ดวงตา (เช่น ตาแดงหรือตาบวมผิดปกติ) การมองเห็นเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว (เช่น สูญเสียการมองเห็น)
การแพ้ยาที่รุนแรงต่อยานี้ ค่อนข้างเกิดขึ้นได้ยาก แต่จำเป็นต้องได้รับการรักษาที่ทันท่วงที อาการของการแพ้รุนแรงมีดังนี้ ผดผื่น คันหรือบวม (โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า ลิ้น และลำคอ) วิงเวียนขั้นรุนแรง หายใจติดขัด
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ และอาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
ปฏิกิริยาของยา
ปฏิกิริยากับยาอื่น
ยาที่อาจมีปฏิกิริยากับยานี้ได้แก่ ยาหยอดตา อย่างยาเฉพาะที่ไบมาโตโพรสต์ (bimatoprost)
ยาลาแทโนพรอสต์อาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยา โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์
ยาลาแทโนพรอสต์อาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น
ยาลาแทโนพรอสต์อาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
ขนาดยา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาลาแทโนพรอสต์สำหรับผู้ใหญ่
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาภาวะความดันตาสูง
หยอดยาหนึ่งหยดเข้าในดวงตาที่มีอาการวันละครั้งในตอนเย็น
คำแนะนำ
- หากข้ามการใช้ยาไปหนึ่งครั้ง การใช้ยาครั้งต่อไปควรใช้ยาในขนาดปกติ
- ไม่ควรใช้ยามากกว่าหนึ่งหยดเข้าในดวงตาที่มีอาการวันละครั้ง เนื่องจากการใช้ยาบ่อยอาจลดประสิทธิภาพในการลดความดันในดวงตาได้
- ผลการลดความดันในดวงตาจะเริ่มประมาณ 2 ถึง 4 ชั่วโมงหลังจากให้ยาครั้งแรกโดยจะได้รับผลสูงสุดหลังจากผ่านไป 12 ชั่วโมง
- สามารถให้ยานี้ร่วมกับยาหยอดตาอื่นเพื่อลดความดันภายในดวงตา
- หากใช้ยาหยอดตาเฉพาะที่มากกว่าหนึ่งชนิด ควรรออย่างน้อย 5 นาทีก่อนใช้ยาอื่น
การใช้งาน
- เพื่อลดความดันในดวงตาที่สูงเกินไปในผู้ป่วยที่เป็นโรคต้อหินมุมเปิดหรือมีภาวะความดันตาสูง
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคต้อหิน (มุมเปิด)
หยอดยาหนึ่งหยดเข้าในดวงตาที่มีอาการวันละครั้งในตอนเย็น
คำแนะนำ
- หากข้ามการใช้ยาไปหนึ่งครั้ง ควรดำเนินการรักษาต่อไปในขนาดยาตามปกติ
- ไม่ควรใช้ยามากกว่าหนึ่งหยดเข้าในดวงตาที่มีอาการวันละครั้ง เนื่องจากการใช้ยาบ่อย อาจลดประสิทธิภาพในการลดความดันในดวงตาได้
- ผลการลดความดันในดวงตาจะเริ่มประมาณ 2 ถึง 4 ชั่วโมง หลังจากให้ยาครั้งแรก โดยจะได้รับผลสูงสุดหลังจากผ่านไป 12 ชั่วโมง
- สามารถให้ยานี้ร่วมกับยาหยอดตาอื่น เพื่อลดความดันภายในดวงตา
- หากใช้ยาหยอดตาเฉพาะที่มากกว่าหนึ่งชนิด ควรรออย่างน้อย 5 นาทีก่อนใช้ยาอื่น
การใช้งาน
- เพื่อลดความดันในดวงตาที่สูงเกินไป ในผู้ป่วยที่เป็นโรคต้อหินมุมเปิด หรือมีภาวะความดันตาสูง
คำแนะนำอื่นๆ
การเก็บรักษา
- เก็บยาที่ยังไม่ได้เปิดขวดไว้ในตู้เย็น (2 ถึง 8 องศาเซลเซียส/ 36 ถึง 46 องศาฟาเรนไฮน์)
- เมื่อเปิดขวดยาแล้ว สามารถเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องมากถึง 25 องศาเซลเซียส (77 ฟาเรนไฮน์) เป็นเวลา 4 ถึง 6 สัปดาห์
- เก็บให้พ้นจากแสง
คำแนะนำสำหรับผู้ป่วย
- ควรเช็ดน้ำยาส่วนเกินออก เพื่อลดความเสี่ยงในการทำให้ผิวบริเวณเปลือกตาคล้ำขึ้น
- เช่นเดียวกันกับยาหยอดตาอื่นๆ แนะนำให้อุดท่อน้ำตาหรือค่อยๆ หลับตาหลังจากให้ยา อาจจะช่วยลดการดูดซึมยาทั่วร่างกาย จากการให้ยาผ่านระบบดวงตา
- ควรถอนคอนแทคเวนส์ก่อนใช้ยา และรออย่างน้อย 15 นาที จึงค่อยใส่กลับคืน
ขนาดยาลาแทโนพรอสต์สำหรับเด็ก
ยังไม่มีการพิสูจน์ความความปลอดภัยและประสิทธิภาพของขนาดยานี้สำหรับผู้ป่วยเด็ก ยานี้อาจเป็นอันตรายต่อเด็กได้ ดังนั้น จึงควรทำความเข้าใจกับความปลอดภัยของยาก่อนการใช้ยา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อกับแพทย์หรือเภสัชกร
รูปแบบของยา
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
- สารละลายสำหรับหยอดตา
กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
กรณีลืมใช้ยา
หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmi]