ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group
ยา เอซาไธโอพรีน (Azathioprine) มักใช้เพื่อป้องกันการต่อต้านของร่างกาย สำหรับผู้ป่วยที่ทำการปลูกถ่ายอวัยวะไต ยานี้มักจะใช้ร่วมกับยาอื่น เพื่อให้ไตสามารถทำงานได้ตามปกติ ยาเอซาไธโอพรีนยังใช้เพื่อรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (rheumatoid arthritis) ซึ่งเป็นโรคที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายส่งผลกับบริเวณข้อต่อ
ยาเอซาไธโอพรีนนั้นอยู่ในกลุ่มของยากดภูมิคุ้มกัน (immunosuppressants) ทำงานโดยการทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแรงลง เพื่อใช้ให้ร่างกายสามารถปรับตัวเข้ากับไตใหม่ได้ (สำหรับกรณีปลูกถ่ายอวัยวะ) หรือช่วยป้องกันไม่ให้ข้อต่อเสียหายไปมากกว่าเดิม (สำหรับโรคข้อรูมาตอยด์)
ปรึกษากับแพทย์สำหรับความเสี่ยง และประโยชน์ในการใช้ยาเอซาไธโอพรีน โดยเฉพาะหากใช้กับเด็กหรือคนวัยหนุ่มสาว
รับประทานยานี้ตามที่แพทย์สั่ง โดยปกติ คือ วันละหนึ่งหรือสองครั้ง รับประทานพร้อมกับอาหาร เพื่อลดอาการปวดท้อง
ขนาดยาขึ้นอยู่กับสภาวะทางการแพทย์ น้ำหนัก และการตอบสนองต่อการรักษา อย่าเพิ่มขนาดยา หรือใช้บ่อยหรือนานกว่าที่กำหนด อาการของคุณจะไม่หายไวขึ้น และความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงที่ร้ายแรงจะเพิ่มมากขึ้น
ใช้ยานี้เป็นประจำ เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากยา เพื่อให้ง่ายต่อการจำควรใช้ในเวลาเดียวกันทุกวัน
สำหรับการรักษาโรคข้ออักเสบ อาจต้องใช้เวลามากถึง 2 เดือน กว่าที่อาการของคุณจะดีขึ้น แจ้งให้แพทย์ทราบ หากอาการของคุณไม่ดีขึ้นหลังจากรักษาไปนาน 3 เดือน
เนื่องจากยานี้สามารถดูดซึมผ่านทางผิวหนังและปอด และอาจทำอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้ สตรีมีครรภ์หรืออาจจะตั้งครรภ์ไม่ควรใช้ยานี้ หรือสูดหายใจละอองจากยานี้
ยาเอซาไธโอพรีนควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาเอซาไธโอพรีนบางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัยโปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ไม่ควรทิ้งยาเอซาไธโอพรีนลงในชักโครก หรือท่อระบายน้ำ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำเช่นนั้น ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง
ก่อนใช้ยาเอซาไธโอพรีน แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ หากคุณแพ้ยานี้ หรือแพ้ยาเมอร์เคปโตพิวรีน (mercaptopurine) หรือหากคุณมีโรคภูมิแพ้อื่นๆ ยานี้อาจมีส่วนผสมที่ทำให้เกิดอาการแพ้ หรือปัญหาอื่นได้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดปรึกษากับเภสัชกร
ก่อนใช้ยานี้ แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรให้ทราบเกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคต่อไปนี้คือ โรคไต โรคตับ โรคมะเร็ง ความผิดปกติของเอนไซม์บางชนิด เช่น ภาวะพร่องเอนไซม์ทีพีเอ็มที (TPMT deficiency)
ยานี้อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง ควรจำกัดเวลาในการอยู่ใต้แดด หลีกเลี่ยงการอาบแดด ควรทาครีมกันแดดและสวมเสื้อผ้าป้องกันเมื่ออยู่นอกบ้าน แพทย์อาจจะแนะนำให้คุณหลีกเลี่ยงการรักษาด้วยแสง (phototherapy) ขณะที่กำลังใช้ยานี้ สอบถามแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ยาเอซาไธโอพรีนสามารถทำให้คุณติดเชื้อ หรือทำให้อาการติดเชื้อที่เป็นอยู่แย่ลงได้ ควรหลีกเลี่ยงการติดต่อกับผู้ที่มีติดเชื้อที่อาจแพร่กระจายสู่ผู้อื่นได้ เช่น โรคอีสุกอีใส โรคหัด โรคไข้หวัดใหญ่ ปรึกษากับแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม หรือหากคุณเคยสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ
ก่อนการผ่าตัด โปรดแจ้งแพทย์หรือทันตแพทย์เกี่ยวกับยาทั้งหมดที่คุณกำลังใช้ (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่หาซื้อได้เอง และสมุนไพร)
อย่าสร้างภูมิคุ้มกัน (immunizations) หรือฉีดวัคซีนโดยไม่ปรึกษากับแพทย์ หลีกเลี่ยงการติดต่อกับผู้ที่พึ่งผ่านการฉีดวัคซีน (เช่น วัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่สูดดมเข้าทางจมูก)
เพื่อลดโอกาสในการเกิดแผลบาด รอยช้ำ หรือบาดเจ็บ ควรระมัดระวังในการใช้ของมีคม เช่น ใบมีดโกนและกรรไกรตัดเล็บ และหลีกเลี่ยงกิจกรรมอย่างกีฬาที่ต้องปะทะกัน
เนื่องจากยานี้สามารถดูดซึมผ่านทางผิวหนังและปอด และอาจทำอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้ ผู้ที่ตั้งครรภ์หรืออาจจะตั้งครรภ์ไม่ควรจับยานี้ หรือสูดหายใจละอองจากยานี้
แจ้งให้แพทย์ทราบหากคุณตั้งครรภ์หรือวางแผนที่จะตั้งครรภ์ คุณไม่ควรตั้งครรภ์ขณะใช้ยานี้ เนื่องจากอาจทำอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้ ควรสอบถามแพทย์ถึงวิธีการคุมกำเนิดที่เชื่อถือได้ขณะใช้ยานี้ หากคุณตั้งครรภ์ ควรปรึกษาเรื่องความเสี่ยงและประโยชน์ของยานี้กับแพทย์ในทันที
ยานี้สามารถไหลผ่านตามน้ำนมแม่ได้ และอาจส่งผลที่ไม่พึงประสงค์ต่อทารก โปรดปรึกษาแพทย์ก่อนการให้นมบุตร
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้ ยาเอซาไธโอพรีนจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ ประเภท D โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
อาจเกิดอาการคลื่นไส้หรืออาเจียน รับประทานยานี้พร้อมกับอาหารเพื่อลดอาการนี้ อาจเกิดอาการผมร่วงชั่วคราว หากผลข้างเคียงเหล่านี้ไม่ยอมหายไป หรือแย่ลง โปรดแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรในทันที
ผู้ที่ใช้ยานี้อาจจะเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงได้ แต่การที่แพทย์ได้สั่งให้ใช้ยานี้ เนื่องจากคำนวณแล้วว่ายาเป็นประโยชน์ต่อคุณ มากกว่าความเสี่ยงของผลข้างเคียง การที่แพทย์เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด อาจช่วยลดความเสี่ยงได้
แจ้งให้แพทย์ทราบในทันที หากคุณมีผลข้างเคียงที่ร้ายแรง ได้แก่ ท้องร่วง อาการปวดข้อต่อ/กล้ามเนื้อแห่งใหม่หรือร้ายแรงขึ้น
รับการรักษาในทันทีหากคุณมีผลข้างเคียงที่รุนแรงมาก ได้แแก่ คลื่นไส้/อาเจียนไม่ยอมหยุด ปวดท้อง ปัสสาวะสีเข้ม ผิวและตาเป็นสีเหลือง
ยานี้อาจเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อที่สมองที่หายากและรุนแรงมาก (อาจถึงชีวิต) เช่น โรค PML (progressive multifocal leukoencephalopathy) รับการรักษาในทันทีหากคุณมีผลข้างเคียงดังต่อไปนี้ ได้แก่ ซุ่มซ่าม สูญเสียการเคลื่อนไหวที่สอดประสานกัน เสียสมดุล อ่อนแรง วิธีการคิดเปลี่ยนแปลงไปฉับพลัน (เช่น สับสน รวบรวมสมาธิได้ยาก สูญเสียความทรงจำ) พูดหรือเดินลำบาก ชัก การมองเห็นเปลี่ยน
อาการแพ้ที่รุนแรงมากของยานี้หาได้ยาก แต่ควรรับการรักษาในทันที หากคุณสังเกตเห็นอาการแพ้ที่รุนแรง ได้แก่ ผดผื่น คัน/บวม (โดยเฉพาะใบหน้า/ลิ้น/ลำคอ) มึนงงอย่างรุนแรง หายใจติดขัด
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้อาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ โปรดปรึกษากับแพทย์
ยาที่อาจเกิดปฏิกิริยากับยานี้ ได้แก่ ฟีบัคโซสตัต (febuxostat) เคยหรือกำลังใช้ยาสำหรับโรคมะเร็ง เช่น ไซโคลฟอสฟาไมด์ (cyclophosphamide) เมลฟาแลน (melphalan) หรือยาที่กดภูมิคุ้มกัน/เพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ เช่น ริทูซิแมบ (rituximab) โทฟาซิตินิบ (tofacitinib)
ยาเอซาไธโอพรีนคล้ายคลึงกับยาเมอร์แคปโตพิวรีน (mercaptopurine) อย่าใช้ยาที่มีส่วนประกอบของยาเมอร์แคปโตพิวรีน ขณะที่กำลังใช้ยานี้
ยาเอซาไธโอพรีนอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่าคุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ยาเอซาไธโอพรีนอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ยาเอซาไธโอพรีนอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อการปลูกถ่ายไต
คำแนะนำ
การใช้:
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
คำแนะนำ
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคโครห์น (Crohn’s Disease) – ฉับพลัน
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคโครห์น – ประคับประคอง
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคเส้นประสาทอักเสบเรื้อรัง
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคซาร์คอยโดซิส (Sarcoidosis)
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคลำไส้ใหญ่อักเสบชนิดเป็นแผล
งานวิจัย (จำนวนผู้เข้าร่วมงานวิจัย = 9 คน)
งานวิจัย (จำนวนผู้เข้าร่วมงานวิจัย = 12 คน)
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาภาวะม่านตาอักเสบ (Uveitis)
งานวิจัย (จำนวนผู้เข้าร่วมงานวิจัย = 14 คน)
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคเอ็มเอส (Multiple Sclerosis)
งานวิจัย (จำนวนผู้เข้าร่วมงานวิจัย = 6 คน): ผู้ป่วยที่ดื้อต่ออินเตอร์เฟอรอนเบต้า-1บี (interferon beta-1b)
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคแพ้ภูมิตัวเอง (Systemic Lupus Erythematosus)
งานวิจัย:
งานวิจัย (จำนวนผู้เข้าร่วมงานวิจัย = 55 คน) :โรคไตอักเสบลูปัสขั้นรุนแรง (Diffuse proliferative lupus glomerulonephritis)
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคตับอักเสบเรื้อรัง (Chronic Active Hepatitis)
งานวิจัย (จำนวนผู้เข้าร่วมงานวิจัย = 72 คน)
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคทากายาสุ (Takayasu’s Arteritis)
งานวิจัย (จำนวนผู้เข้าร่วมงานวิจัย = 15 คน)
การปรับขนาดยาสำหรับไต
อาจจำเป็นต้องใช้ยาในขนาดที่ต่ำ แต่ไม่มีแนวทางแนะนำโดยเฉพาะ
การปรับขนาดยาสำหรับตับ
อาจจำเป็นต้องปรับขนาดยา แต่ไม่มีแนวทางแนะนำโดยเฉพาะ
การปรับขนาดยา
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง
งานวิจัย (จำนวนผู้เข้าร่วมงานวิจัย = 37 คน)
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อป้องกันภาวะร่างกายต่อต้านอวัยวะที่ได้รับการปลูกถ่าย
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาโรคผิวหนังอักเสบผื่นแพ้
งานวิจัย (จำนวนผู้เข้าร่วมงานวิจัย = 91 คน)
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาโรคแพ้ภูมิตัวเอง
กรณีศึกษา (จำนวนผู้เข้าร่วมงานวิจัย = 67 คน): โรคไตอักเสบลูปัส (Lupus Nephritis)
ยังไม่มีการพิสูจน์ขนาดยาสำหรับผู้ป่วยเด็ก ยานี้อาจเป็นอันตรายต่อเด็กได้ ดังนั้น จึงควรทำความเข้าใจกับความปลอดภัยของยาก่อนการใช้ยา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อกับแพทย์หรือเภสัชกร
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้คือ
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
หากคุณลืมรับประทานยาควรรีบรับประทานทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลารับประทานยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปรับประทานยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย