ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group
ไทโอทีพา (Thiotepa)ใช้เพื่อรักษาโรคมะเร็ง ไทโอทีพาทำหน้าที่ในการชะลอหรือหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ส่วนใหญ่มักจะใช้โดยการฉีดเข้ากระเพาะปัสสาวะเพื่อรักษาโรคมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะ
ไทโอทีพายังสามารถใช้ร่วมกับยาอื่นเพื่อป้องกันการต่อต้านการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ (stem cell transplant) ได้อีกด้วย
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเท่านั้นที่เป็นผู้ฉีดไทโอทีพา โดยแพทย์จะฉีดเข้าสู่หลอดเลือดดำ ในบางครั้งอาจฉีดไทโอทีพาเข้าที่เนื้องอกโดยตรง
โปรดแจ้งให้แพทย์หรือพยาบาลทราบในทันทีว่าคุณมีอาการปวด แสบร้อน หรือรอยแดงตรงบริเวณที่ฉีดยา
สำหรับการรักษาโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มักจะใช้การรักษาโดยฉีดไทโอทีพาเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะผ่านทางท่อสวน ก่อนได้รับการฉีดควรงดการดื่มน้ำเป็นเวลา 8 ถึง 12 ชั่วโมง และจะทำการทิ้งยาสารละลายไว้ 2 ชั่วโมง แล้วค่อยๆระบายออกผ่านทางท่อกระเพาะปัสสาวะ แพทย์อาจสั่งให้คุณเปลี่ยนท่าทางทุกๆ 15 นาทีขณะที่มียาสารละลายอยู่ในกระเพาะปัสสาวะเพื่อให้แน่ใจว่ายานั้นรักษาทุกส่วนภายในกระเพาะปัสสาวะ
หากต้องการใช้ไทโอทีพาเพื่อป้องกันการต่อต้านการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ ควรรับยานี้ 2 ครั้ง ห่างกันระยะเวลา 12 ชั่วโมง ในช่วงระหว่างการรักษาอาจเกิดปัญหาการแพ้ขึ้นที่ผิวหนัง เพื่อลดความเสี่ยง ควรอาบน้ำและเปลี่ยนผ้าพันแผลอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง จนครบ 48 ชั่วโมง
ปริมาณในการให้ไทโอทีพาขึ้นอยู่กับทางการแพทย์และการตอบสนองต่อการรักษา แพทย์จะทำการตรวจนับความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (complete blood count) เพื่อหาปริมาณยาที่เหมาะสม อาจมีการเพิ่มปริมาณของยาและจำเป็นต้องจัดตารางการให้ไทโอทีพาในครั้งถัดไป หากระดับของเซลล์เม็ดเลือดขาวหรือเกล็ดเลือดต่ำกว่าปกติ
ไทโอทีพาบางยี่ห้ออาจเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเสมอ เพื่อความปลอดภัย
ข้อควรรู้ก่อนใช้ ไทโอทีพา มีดังนี้
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ไทโอทีพาในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ยานี้
ไทโอทีพาจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ ประเภท D โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
หลังจากได้รับ ไทโอทีพา เข้าสู่ร่างกาย มักจะเกิดผลข้างเคียงเหล่านี้ตามมา คือ
อาการแพ้ยาที่รุนแรงค่อนข้างเกิดขึ้นได้ยาก ไม่ใช่ทุกคนที่จะพบกับผลข้างเคียงเหล่านี้ และอาจมีอาการอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้นหรือหากมีอาการที่รุนแรง โปรดเข้าขอคำปรึกษาและควรได้รับการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ไทโอทีพาอาจมีปฏิกิริยากับยาอื่นได้ เช่น ยาแอสไพรินและยาแก้อักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ และยาที่อาจจะเป็นอันตรายต่อระบบภูมิคุ้มกัน เช่น การทำเคมีบำบัด (chemotherapy) หรือยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (corticosteroids) อย่างเพรดนิโซน (prednisone) การปฏิกิริยากับวัคซีนส่วนใหญ่เป็น วัคซีนโปลิโอแบบรับประทาน หรือวัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบพ่นจมูก กรดนาลิดิซิก (nalidixic acid) ส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอาการเลือดออกได้ ควรใช้ยาแอสไพรินปริมาณที่ต่ำ เพื่อป้องกันโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันหรือโรคหลอดเลือดสมองต่อไป (โดยทั่วไปจะอยู่ที่ขนาด 81 ถึง 325 มก. ต่อวัน)
โปรดขอคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติมและปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัด และไม่ควรเปลี่ยนขนาดยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ไทโอทีพาอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์ก่อนเสมอ
ไทโอทีพาอาจส่งผลให้อาการสุขภาพอ่อนแรงลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบถึงสภาวะร่างกายก่อนได้รับการรักษาด้วยไทโอทีพาเสมอ
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคมะเร็งเต้านม (Breast Cancer)
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคมะเร็งรังไข่ (Ovarian Cancer)
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคมะเร็งช่องโพรงเยื่อหุ้มอวัยวะ (Serosal Cavity Neoplastic Disease)
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ (Bladder Cancer)
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Lymphoma)
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคมะเร็ง (Malignant Disease)
การปรับขนาดยาสำหรับผู้ป่วยโรคไต
ไทโอทีพาไม่เหมาะสำหรับการรักษาในกรณีผู้ป่วยที่เป็นโรคไต แแต่หากมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับการฉีดไทโอทีพา อาจสามารถใช้ในขนาดต่ำควบคู่ไปกับการทดสอบอย่างเหมาะสม
การปรับขนาดยาสำหรับผู้ป่วยโรคตับ
ไทโอทีพาไม่เหมาะสำหรับการรักษาในกรณีผู้ป่วยที่เป็นโรคตับ แต่หากมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับการฉีดไทโอทีพา อาจสามารถใช้ในขนาดต่ำควบคู่ไปกับการทดสอบอย่างเหมาะสม
การปรับขนาดยา
สำหรับผู้ที่ได้รับยาโดยการฉีดยาเข้าสู่หลอดเลือดดำควรหยุดใช้ยาในช่วงที่จำนวนเซลล์เม็ดเลือดขาวน้อยกว่าหรือเท่ากับ 3000/ลูกบาศก์เมตร หรือจำนวนเกล็ดเลือดน้อยกว่าหรือเท่ากับ 150,000/ลูกบาศก์เมตร
ข้อควรระวัง
ไทโอทีพาไม่เหมาะสำหรับการรักษาในกรณีผู้ป่วยที่มีมวลกระดูกเสียหาย แต่หากมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับการฉีดไทโอทีพา อาจสามารถใช้ในขนาดต่ำควบคู่ไปกับการทดสอบอย่างเหมาะสม
คำแนะนำอื่นๆ
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาโรคมะเร็ง (Malignant Disease)
โรคมะเร็งซาร์โคมา (Sarcoma) 25 ถึง 65 มก./ตารางเมตร ฉีดเข้าสู่หลอดเลือดดำหนึ่งครั้ง ทุกๆ 3 ถึง 4 สัปดาห์
การปลูกถ่ายสเต็มเซลล์โดยใช้เซลล์ของตนเอง (Autologous bone marrow transplantation) 300 มก./ตารางเมตร ฉีดเข้าสู่หลอดเลือดดำนานกว่า 3 ชั่วโมง และฉีดซ้ำทุกๆ 24 ชั่วโมงเป็นจำนวน 3 ครั้ง ปริมาณที่ร่างกายของเด็กรับได้สูงสุดคือ 1,125 มก./ตารางเมตร
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย หรืออาจสอบถามแพทย์เพิ่มเติม ไม่ควรเพิ่มปริมาณยาเองโดยที่ไม่ได้รับการอนุญาตจากแพทย์
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย