backup og meta

ไอโซเตรทติโนอิน (Isotretinoin)

ไอโซเตรทติโนอิน (Isotretinoin)

ข้อบ่งใช้ ไอโซเตรทติโนอิน

ไอโซเตรทติโนอิน ใช้สำหรับ

ยา ไอโซเตรทติโนอิน (Isotretinoin) ใช้เพื่อรักษาสิวหัวช้าง (เป็นสิวอักเสบชนิดรุนแรง) ที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาประเภทอื่น เช่น เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (benzoyl peroxide) หรือคลินดามัยซิน (clindamycin) ที่ใช้ทาผิวหนัง หรือเตตราไซคลีน (tetracycline) หรือมิโนไซคลีน (minocycline) ที่ใช้รับประทาน

ยา ไอโซเตรทติโนอิน จัดอยู่ในประเภทของยาที่เรียกว่าเรตินอยด์ (retinoids) มีหน้าที่การทำงานในการช่วยลดการสร้างความมันบนใบหน้า (sebum) ความมันบนใบหน้าในปริมาณมาก สามารถก่อให้เกิดสิวที่รุนแรงได้ หากปล่อยไว้ไม่รักษา สิวที่รุนแรงอาจเป็นสาเหตุให้เกิดแผลเป็นถาวรได้

วิธีใช้ยาไอโซเตรทติโนอิน

  • ให้กลืนทั้งแคปซูล ห้ามบดหรือเคี้ยว ยาไอโซเตรทติโนอินมักใช้สองครั้งต่อวัน เป็นเวลา 15-20 สัปดาห์ หรือใช้ตามที่แพทย์สั่ง โดยปกติแนะนำให้รับประทานยาไอโซเตรทติโนอินพร้อมอาหาร อย่างไรก็ดี องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (US Food and Drug Administration :FDA) ได้ประกาศไว้ว่า ยาไอโซเตรทติโนอินยี่ห้อแอบโซริกา (Absorica) อาจรับประทานพร้อมหรือไม่พร้อมกับอาหารก็ได้ อาหารช่วยเพิ่มการดูดซึมยานี้ไปยังกระแสเลือดของคุณ ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้รับประทานยานี้พร้อมกับน้ำเต็มแก้วหนึ่งแก้ว และห้ามนอนหลังจากรับประทานยาเป็นเวลา 10 นาที
  • ขนาดใช้ยาขึ้นอยู่กับอาการ น้ำหนัก และการตอบสนองต่อการรักษา
  • อาการสิวอาจแย่ลงในช่วงสองสามวันแรกของการใช้ยานี้ และอาจใช้เวลาถึง 1-2 เดือน ก่อนที่จะสังเกตเห็นประโยชน์อย่างเต็มที่จากการใช้ยานี้ หากกลับมาเป็นสิวที่รุนแรงอีก สามารถเริ่มการรักษารอบที่สองในเวลา 2 เดือนหลังจากหยุดใช้ยานี้ ผู้ผลิตไม่แนะนำการใช้ยาไอโซเตรทติโนอินในระยะยาว ห้ามใช้ยาเกินกว่าในปริมาณที่แนะนำ
  • เนื่องจากยาไอโซเตรทติโนอินสามารถดูดซึมผ่านทางผิวหนังและปอด และอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้ หญิงที่ตั้งครรภ์หรืออาจจะตั้งครรภ์ ไม่ควรใช้ยานี้ หรือสูดดมผงจากแคปซูลยา

การเก็บรักษายาไอโซเตรทติโนอิน

การเก็บรักษายาไอโซเตรทติโนอินที่ดีที่สุดควรเก็บไว้ในอุณหภูมิห้อง ให้ห่างจากแสงโดยตรงและความชื้น เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของยา ไม่ควรเก็บยาไอโซเตรทติโนอินไว้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาไอโซเตรทติโนอินมีหลากหลายยี่ห้อ ซึ่งมีวิธีการเก็บรักษาที่แตกต่างกัน เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องตรวจสอบวิธีการเก็บรักษาที่ระบุไว้ในบรรจุภัณฑ์ หรือสอบถามจากเภสัชกร เพื่อความปลอดภัย คุณควรเก็บยาทั้งหมดให้ห่างจากเด็กหรือสัตว์เลี้ยง

คุณไม่ควรทิ้งยาไอโซเตรทติโนอินลงในโถส้วมหรือท่อระบายน้ำ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น สิ่งสำคัญคือต้องกำจัดยาอย่างเหมาะสม เมื่อหมดอายุหรือไม่ใช้งานแล้ว ให้ปรึกษาเภสัชกรสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดผลิตภัณฑ์อย่างปลอดภัย

ข้อควรระวังและคำเตือน

ข้อควรรู้ก่อนใช้ยาไอโซเตรทติโนอิน

ก่อนใช้ยาไอโซเตรทติโนอิน

  • ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกร หากคุณแพ้ยาไอโซเตรทติโนอิน วิตามินเอ ยาอื่นๆ หรือส่วนผสมใดๆ ในยาไอโซเตรทติโนอิน ให้ถามเภสัชกรหรือตรวจสอบส่วนผสมที่ไม่ออกฤทธิ์จากคู่มือคำแนะนำการใช้ยา
  • ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกร เกี่ยวกับยาที่แพทย์สั่ง และยาที่แพทย์ไม่ได้สั่ง เช่น วิตามิน ผลิตภัณฑ์สมุนไพร และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่คุณใช้อยู่หรือวางแผนที่จะใช้ ให้แจ้งการใช้ยาสำหรับโรคลมชัก เช่น ยาเฟนิโทอิน (phenytoin) อย่างไดแลนติน (Dilantin) ยาสำหรับอาการป่วยทางจิต ยาสเตียรอยด์สำหรับรับประทาน เช่น ยาเดกซาเมทาโซน (dexamethasone) อย่างเดคาดรอน (Decadron) หรือเดกโซน (Dexone) ยาเมทิลเพรดนิโซโลน (methylprednisolone) อย่างเมดรอล (Medrol) และยาเพรดนิโซน (prednisone) อย่างเดลตาโซน (Deltasone) ยาปฏิชีวนะเตตราไซคลีน (tetracycline antibiotics) เช่น ยาเดมีโคลไซคลีน (demeclocycline) อย่างเดโคลไมซิน (Declomycin) ยาดอกซีไซคลีน (doxycycline) อย่างโมโนดอกซ์ (Monodox) ไวบราไมซิน (Vibramycin) และยาอื่นๆ ยามิโนไซคลีน (minocycline) อย่างมิโนซิน (Minocin) เวคตริน (Vectrin) ยาออกซีเตตราไซคลีน (oxytetracycline) อย่างเทอรราไมซิน (Terramycin) และยาเตตราไซคลีน (tetracycline) อย่างซูไมซิน (Sumycin) เทเทรกซ์ (Tetrex) และยาอื่นๆ และอาหารเสริมวิตามินเอ แพทย์อาจเปลี่ยนแปลงขนาดใช้ยา หรือเฝ้าดูอาการข้างเคียงอย่างระมัดระวัง
  • ให้แจ้งแพทย์ว่า คุณหรือสมาชิกในครอบครัวเคยมีความคิดหรือเคยพยายามฆ่าตัวตาย หรือคุณหรือสมาชิกในครอบครัวเคยมีภาวะโรคซึมเศร้า อาการป่วยทางจิต โรคเบาหวาน โรคหอบหืด โรดกระดูกพรุน (ภาวะกระดูกเปราะบางและแตกได้ง่าย) โรคกระดูกน่วม (osteomalacia) หรือกระดูกอ่อนแอเนื่องจากขาดวิตามินดีและดูดซึมวิตามินได้ยาก หรือภาวะอื่นๆ ที่ส่งผลให้กระดูกอ่อนแอ มีระดับไตรกลีเซอไรด์ (ไขมันในเลือด) สูง ความผิดปกติเกี่ยวกับการเผาผลาญไขมัน (lipid metabolism disorder) ซึ่งเป็นภาวะที่ส่งผลให้ร่างกายกำจัดไขมันได้ยาก ภาวะอะนอเร็กเซีย (anorexia nervosa) หรือความผิดปกติในการรับประทานอาหาร ที่จะรับประทานอาหารน้อย หรือโรคเกี่ยวกับหัวใจและตับ นอกจากนี้ ให้แจ้งแพทย์ หากคุณมีน้ำหนักเกิน หรือดื่มหรือเคยดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก
  • ห้ามให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ยาไอโซเตรทติโนอิน และในเวลา 1 เดือนหลังจากใช้ยาไอโซเตรทติโนอิน
  • ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดที่ไม่จำเป็นหรือเป็นเวลานาน และให้สวมใส่เสื้อผ้า แว่นกันแดด และทาครีมกันแดด เพื่อปกป้องแสงแดด ยาไอโซเตรทติโนอินอาจทำให้ผิวหนังมีความไวต่อแสงแดด
  • คุณควรทราบว่า ยาไอโซเตรทติโนอินอาจทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับความรู้สึกนึกคิด พฤติกรรม หรือสุขภาพจิตของคุณ ผู้ป่วยบางรายที่ใช้ยาไอโซเตรทติโนอินมีภาวะซึมเศร้า (depression) หรือโรคจิตที่รุนแรง มีความคิดเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายหรือการทำร้ายตัวเอง และได้พยายามหรือทำเรื่องดังกล่าวแล้ว คุณหรือครอบครัวของคุณควรแจ้งแพทย์ทันทีหากคุณมีอาการใดๆ ดังต่อไปนี้ คือ วิตกกังวล เศร้า ร้องไห้ ขาดความสนใจในกิจกรรมที่เคยชื่นชอบ การเรียนหรือทำงานแย่ลง นอนเป็นเวลานานกว่าปกติ หลับยากหรือนอนไม่หลับ หงุดหงิด โกรธ ก้าวร้าว ความอยากอาหาร หรือน้ำหนักเปลี่ยนแปลง ไม่มีสมาธิ ห่างเหินจากเพื่อนหรือครอบครัว ไม่มีแรง รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า หรือรู้สึกผิด คิดเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายหรือทำร้ายตนเอง มีพฤติกรรมตามความคิดร้าย หรือประสาทหลอน ให้มั่นใจว่า สมาชิกในครอบครัวของคุณทราบว่าอาการใดรุนแรง เพื่อสามารถแจ้งแพทย์ได้ หากคุณไม่สามารถเข้ารับการรักษาได้เอง
  • คุณควรทราบว่า ยาไอโซเตรทติโนอินอาจทำให้ดวงตาของคุณแห้ง และใส่คอนแทคเลนส์ได้ลำบาก ในระหว่างหรือหลังจากใช้ยา
  • คุณควรทราบว่า ยาไอโซเตรทติโนอินอาจทำให้ความสามารถในการมองเห็นในที่มืดของคุณลดลง อาจมีอาการดังกล่าวทันทีในระหว่างการใช้ยา และอาจมีอาการต่อเนื่องหลังจากหยุดใช้ยา ให้ระวังเป็นอย่างยิ่ง เมื่อต้องขับรถหรือใช้เครื่องจักรในเวลากลางคืน
  • ให้วางแผนเพื่อหลีกเลี่ยงการกำจัดขนโดยการถอนขน การทำเลเซอร์ผิวหนัง และการกรอผิว (dermabrasion) ในระหว่างที่ใช้ยาและ 6 เดือนหลังใช้ยา ยาไอโซเตรทติโนอินเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นรอยแผลเป็นจากการเข้ารับการรักษาดังกล่าว ให้ปรึกษาแพทย์ว่าเมื่อใดที่คุณสามารถเข้ารับการรักษาดังกล่าวได้
  • ปรึกษาแพทย์ก่อนเข้าร่วมกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมาก เช่น เล่นกีฬา ยาไอโซเตรทติโนอินอาจเป็นสาเหตุให้กระดูกบางหรือหนาผิดปกติ และอาจเพิ่มความเสี่ยงของการบาดเจ็บที่กระดูกบางประการ ในผู้ที่ทำกิจกรรมทางร่างกายบางประเภท ให้แจ้งผู้ที่ดูแลสุขภาพของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาไอโซเตรทติโนอิน

ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

ไม่มีการศึกษาในผู้หญิงอย่างเพียงพอ ที่จะระบุความเสี่ยงเมื่อใช้ยานี้ในระหว่างการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เสมอเพื่อพิจารณาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้ ยานี้มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ ประเภท C ตามที่องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (US Food and Drug Administration :FDA) ได้กำหนดไว้

ความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ ตามองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา มีรายการอ้างอิงดังต่อไปนี้

  • A=ไม่มีความเสี่ยง
  • B=ไม่มีความเสี่ยงในบางงานวิจัย
  • C=อาจมีความเสี่ยง
  • D=มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
  • X=ห้ามใช้
  • N=ไม่ทราบแน่ชัด

ผลข้างเคียง

ผลข้างเคียงจากยาไอโซเตรทติโนอิน

ให้เข้ารับการรักษาฉุกเฉินหากคุณมีสิ่งบ่งชี้ใดๆ ของอาการแพ้ดังต่อไปนี้ ได้แก่ ลมพิษ หายใจลำบาก อาการบวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือคอ

ให้หยุดใช้ยาไอโซเตรทติโนอินและโทรแจ้งแพทย์ทันทีหากคุณมีผลข้างเคียงที่รุนแรงใดๆ เหล่านี้

  • อารมณ์ซึมเศร้า ไม่มีสมาธิ นอนไม่หลับ ร้องไห้ ก้าวร้าว หรือหงุดหงิด พฤติกรรมเปลี่ยน ประสาทหลอน มีความคิดฆ่าตัวตาย หรือทำร้ายร่างกาย
  • มีอาการชาหรืออ่อนเพลียเฉียบพลัน โดยเฉพาะที่ร่างกายข้างใดข้างหนึ่ง
  • การมองเห็นพร่ามัว ปวดศีรษะฉับพลันและรุนแรง หรือปวดเบ้าตา บางครั้งมีอาการอาเจียน
  • ปัญหาการได้ยิน สูญเสียการได้ยิน หรือได้ยินเสียงดังในหู
  • อาการชัก (ลมชัก)
  • อาการปวดรุนแรงบริเวณท้องส่วนบนซึ่งลุกลามไปยังหลัง คลื่นไส้และอาเจียน หัวใจเต้นเร็ว
  • ความอยากอาหารลดลง ปัสสาวะสีเข้ม อุจจาระสีเข้ม ดีซ่าน (ผิวหนังและตาเหลือง)
  • ท้องเสียรุนแรง มีเลือดออกทางทวารหนัก อุจจาระมีสีคล้ำ มีเลือดปน หรือข้นหนืด
  • ไข้ หนาวสั่น ปวดร่างกาย มีอาการไข้หวัดใหญ่ มีจุดสีม่วงใต้ผิวหนัง เป็นแผลหรือเลือดออกง่าย
  • มีแผลพุพองรุนแรง ผิวลอก หรือมีผื่นแดง
  • ข้อต่อไม่แข็งแรง ปวดกระดูก หรือกระดูกหัก

ผลข้างเคียงในระดับเบา ได้แก่

  • ปวดข้อต่อ ปวดหลัง
  • รู้สึกเวียนศีรษะ ง่วงซึม หรือประหม่า
  • อาการแห้งที่ริมฝีปาก ปาก จมูก หรือผิวหนัง
  • ผิวหนังแตกหรือลอก มีอาการคัน มีผื่น เล็บมือหรือเล็บเท้าเปลี่ยนแปลงไป

ผลข้างเคียงเหล่านี้พบไม่ได้ในผู้ใช้ยาทุกคน และอาจมีผลข้างเคียงที่ไม่ได้ระบุข้างต้น หากคุณมีข้องกังวลเกี่ยวกับอาการข้างเคียง ให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

ปฏิกิริยาของยา

ปฏิกิริยากับยาอื่นๆ

ยาไอโซเตรทติโนอินอาจเกิดปฏิกิริยากับยาชนิดอื่นที่คุณใช้อยู่ ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงสำหรับผลข้างเคียงที่รุนแรงขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงปฏิกิริยาของยาที่อาจเกิดขึ้น คุณควรทำรายการยาที่ใช้อยู่ทั้งหมด (ยาที่สั่งโดยแพทย์ ยาที่ไม่ได้สั่งโดยแพทย์ และยาสมุนไพร) และแจ้งแก่แพทย์หรือเภสัชกร เพื่อความปลอดภัยของคุณ ห้ามเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยา โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์

เอกสารนี้ไม่ได้ระบุปฏิกิริยากับยาอื่น ที่อาจเกิดขึ้นได้ทั้งหมด

  • ยาคลอร์เททราไซคลีน (Chlortetracycline), ยาเดมีโคลไซคลีน (Demeclocycline), ยาเดโสเจสเทรล (Desogestrel), ยาดีโนเจสต์ (Dienogest) ยาดอกซีไซคลีน (Doxycycline), ยาโดรสปีเรโนน (Drospirenone), ยาเอสทราดอลไซปีโอเนต (Estradiol Cypionate), ยาเอสทราดอลวาลีเรท (Estradiol Valerate), ยาเอธินีลเอสทราดอล (Ethinyl Estradiol), ยาเอธิโนดอลไดอะซีเตท (Ethynodiol Diacetate), ยาเอโทโนเจสเทรล (Etonogestrel), ยาเลโวโนเจสเทรล (Levonorgestrel), ยาไลมีไซคลีน (Lymecycline), ยามีโคลไซคลีน (Meclocycline), ยาเมดร็อกซีโปรเจสเตอโรนอะซีเตท (Medroxyprogesterone Acetate), ยาเมสทรานอล (Mestranol), ยาเมทาไซคลีน (Methacycline), ยาไมโนไซคลีน (Minocycline), ยาโนเรลเจสโตรมีน (Norelgestromin), ยาโนเรทินโดรน (Norethindrone), ยานอร์เจสติเมท (Norgestimate), ยานอรฺเจสเทรล (Norgestrel), ยาออกซีเททราไซคลีน (Oxytetracycline), ยาโรลิเททราไซคลีน (Rolitetracycline) และยาเททราไซคลีน (Tetracycline)

ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์

ยาไอโซเตรทติโนอินอาจทำปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์ได้โดยการเปลี่ยนแปลงการออกฤทธิ์ยาหรือเพิ่มความเสี่ยงสำหรับอาการข้างเคียงที่รุนแรงขึ้น โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับปฏิกิริยาที่อาจเกิดขึ้นของยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์ ก่อนการใช้ยา

  • เอทานอล

ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่นๆ

ยาไอโซเตรทติโนอินอาจทำปฏิกิริยากับสภาวะทางสุขภาพของคุณ ปฏิกิริยาดังกล่าวอาจทำให้สภาวะทางสุขภาพเสื่อมลง หรือเปลี่ยนแปลงการออกฤทธิ์ของยา เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบเสมอ เกี่ยวกับสภาวะทางสุขภาพทั้งหมดของคุณในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง

  • ภาวะติดสุราเรื้อรัง ขั้นรุนแรง
  • โรคเบาหวาน
  • ครอบครัวเคยมีประวัติเคยมีภาวะผิดปกติเกี่ยวกับระบบเผาผลาญ
  • ปัญหาเกี่ยวกับน้ำหนักที่รุนแรง ให้ใช้ด้วยความระมัดระวัง อาจเพิ่มความเสี่ยงสำหรับอาการที่รุนแรงมากขึ้น
  • โรคอะนอเร็กเซีย (Anorexia) มีความผิดปกติเกี่ยวกับการรับประทานอาหาร
  • การปิดของส่วนเติบโตที่ปลายกระดูก (Epiphyseal closure) ระยะเริ่มต้น
  • โรคกระดูกน่วม (Osteomalacia) หรือภาวะกระดูกอ่อนตัว
  • ในวัยเด็กหรือครอบครัวเคยมีประวัติเป็นโรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) หรือกระดูกเปราะบาง
  • ความผิดปกติหรือโรคเกี่ยวกับกระดูกอื่นๆ ให้ใช้ด้วยความระมัดระวัง ไม่ทราบแน่ชัดว่ายานี้มีผลต่อการเสียเนื้อกระดูกหรือไม่
  • โรคหอบหืด
  • มีประวัติเคยเป็นโรคซึมเศร้า
  • ปัญหาเกี่ยวกับดวงตา หรือการมองเห็น
  • ปัญหาเกี่ยวกับการได้ยิน
  • โรคหัวใจ
  • โรคตับอักเสบ
  • ภาวะไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง
  • มีประวัติเคยมีความผิดปกติเกี่ยวกับลำไส้
  • ตับอ่อนอักเสบ
  • ภาวะสมองบวม
  • มีประวัติเคยเป็นโรคจิต
  • การรับประทานวิตามินเอมากเกินไป (มีปริมาณวิตามินเอในร่างกายมากเกินไป) ให้ใช้ด้วยความระมัดระวัง อาจทำให้อาการเหล่านี้แแย่ลง
  • โรคเกี่ยวกับไต
  • โรคเกี่ยวกับตับ ให้ใช้ด้วยความระมัดระวัง ผลของยาอาจเพิ่มขึ้น เนื่องจากการกำจัดตัวยาออกจากร่างกายเป็นไปได้ช้า

ทำความเข้าใจกับขนาดยา

ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยานี้เสมอ

ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่

ขนาดใช้ยาปกติในผู้ใหญ่สำหรับรักษาสิว

  • สิวอักเสบขั้นรุนแรง: 0.5 ถึง 1 มก./กก./วัน รับประทานโดยแบ่งเป็น 2 ครั้ง ผู้ป่วยที่มีแผลเป็นอาการรุนแรงมากหรือมีอาการปรากฏให้เห็นมากที่ลำตัว อาจจำเป็นต้องใช้ยาถึง 2 มก./กก./วัน

ขนาดใช้ยาปกติในผู้ใหญ่สำหรับรักษามะเร็งเมลาโนมา (Melanoma) – แพร่กระจาย (Metastatic)

  • ให้ใช้ยาร่วมกับยาอินเตอร์เฟอรอน แอลฟา (interferon alfa): 60 มก./วัน โดยแบ่งใช้เป็น 3 ขนาดที่เท่ากัน เป็นเวลา 6 เดือน

ขนาดใช้ยาปกติในผู้ใหญ่สำหรับรักษาผื่นผิวหนังอักเสบ (Granuloma Annulare)

  • 0.5 ถึง 1 มก./กก./วัน รับประทานในขนาดเท่ากัน สองครั้งต่อวัน

ขนาดยาสำหรับเด็ก

ขนาดใช้ยาปกติในเด็กสำหรับรักษาสิว

สิวอักเสบขั้นรุนแรง

  • อายุ 12 ปี หรือมากกว่า: 0.5 ถึง 1 มก./กก./วัน รับประทานโดยแบ่งเป็น 2 ครั้ง

ขนาดใช้ยาปกติในเด็กสำหรับรักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดไมอิลอยด์ (Acute Nonlymphocytic Leukemia)

  • อายุ 1 เดือนหรือมากกว่า: 100 มก./ตร.ม./วัน ชนิดรับประทาน โดยให้ยาเป็นหนึ่งขนาดใช้ยา เป็นเวลา 4 สัปดาห์

รูปแบบยา

ยาไอโซเตรทติโนอินมีรูปแบบการใช้และปริมาณตัวยา ดังต่อไปนี้

  • แคปซูล สำหรับรับประทาน: 10 มก., 20 มก., 30 มก., 40 มก.

กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด

ในกรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ให้โทรแจ้งบริการฉุกเฉิน หรือไปยังห้องฉุกเฉินในโรงพยาบาลใกล้บ้านคุณ

อาการของการใช้ยาเกินขนาด มีดังต่อไปนี้

  • อาเจียน
  • ผิวหนังแดง
  • ปากแห้งแตกอย่างรุนแรง
  • ปวดท้อง
  • ปวดศีรษะ
  • เวียนศีรษะ
  • ร่างกายเสียความสมดุล

กรณีลืมใช้ยา

หากลืมใช้ยาไอโซเตรทติโนอิน ให้ใช้ยาโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างไรก็ดี หากใกล้เวลาใช้รอบถัดไป ให้ข้ามรอบที่ลืมใช้ไปแล้วใช้ยาในรอบถัดไปตามปกติที่กำหนดไว้ ห้ามใช้เพิ่มเป็นสองเท่า

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค และการรักษาโรคแต่อย่างใด

[embed-health-tool-bmi]

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

Isotretinoin oral http://www.webmd.com/drugs/2/drug-6662/isotretinoin- oral/details. Accessed July 16, 2016.

Isotretinoin https://www.drugs.com/mtm/isotretinoin.html. accessed July 16. 2016.

Isotretinoin http://www.medicinenet.com/isotretinoin/article.htm. Accessed July 16, 2016

เวอร์ชันปัจจุบัน

11/05/2020

เขียนโดย ธีรวิทย์ บุญราศรี

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์

อัปเดตโดย: Khongrit Somchai


บทความที่เกี่ยวข้อง

สิวหาย เพียงหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านี้

ยาฮอร์โมนรักษาสิว ทำงานอย่างไร


ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์

ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


เขียนโดย ธีรวิทย์ บุญราศรี · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา