สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

การใช้ประโยชน์ ต้นควินินต้นควินิน (Quinine) หรือเรียกตามชื่อทางวิทยาศาสตร์ได้ว่าต้นซิงโคนา (Cinchona ) ที่นิยมนำมาใช้ในการกระตุ้นความอยากอาหาร แก้ท้องอืด จุกเสียด นอกจากนี้ยังมีประสิทธิภาพในการรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับหลอดเลือด เช่น เส้นเลือดขอด ตะคริว ริดสีดวงทวาร เป็นต้น ในผู้ป่วยบางรายทางการแพทย์อาจแนะนำเป็นการใช้ลดอาการของโรคประจำตัวต่าง ๆ เพิ่มเติม ดังนี้ ไข้หวัดหมู ไข้หวัด โรคมาลาเรีย โรคมะเร็ง ปรับปรุงสุขภาพช่องปาก และลำคอ ภาวะม้ามโต การทำงานของต้นควินินเป็นอย่างไรเนื่องจากยังไม่มีการศึกษาวิจัยที่เพียงพอต่อการอธิบายการทำงานของอาหารเสริม ประเภทสมุนไพรชนิดนี้โปรดปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามเป็นที่ทราบกันดีว่าเปลือกของต้นควินิน อาจมีสารช่วยกระตุ้นการหลั่งของเมือก และน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร บางกรณีก็จำเป็นอาจมีการใช้ประกอบควบคู่กับสารเคมีบางชนิดที่ใช้ในการรักษาโรคมาลาเรียให้ได้ผลของการรักษาดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ข้อควรระวังและคำเตือนเราควรรู้อะไรบ้างก่อนใช้ ต้นควินิน ปรึกษาแพทย์ เภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในกรณีที่ คุณอยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เนื่องจากในขณะที่คุณกำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร คุณควรจะได้รับยาตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น คุณได้รับยาชนิดอื่นอยู่ กรณีนี้รวมถึงยาทุกชนิดที่ซื้อรับประทานเองโดยไม่มีใบสั่งยาจากแพทย์ คุณมีอาการแพ้สารจากต้นควินิน หรือแพ้ยาหรือแพ้สมุนไพรชนิดอื่นๆคุณมีอาการไม่สบาย, มีอาการผิดปกติ, หรือภาวะทางการแพทย์อื่นๆ คุณมีอาการแพ้อื่นๆ เช่น อาหาร, สารแต่งสี, สารกันเสีย, หรือสัตว์บางชนิด ข้อกำหนดสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดอกรักนั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อกำหนดยาอื่น ๆ จำเป็นอย่างยิ่ง ที่ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัย การใช้ผลิตภัณฑ์นี้ต้องมีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง ควรปรึกษาแพทย์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ต้นควินินมีความปลอดภัยแค่ไหนสำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร อย่าใช้ต้นควินินหากคุณกำลังอยู่ในช่วงตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร เนื่องจากมีหลักฐานพบว่าสมุนไพรชนิดนี้ไม่อาจทำอันตรายให้แก่บุตรในครรภ์  ถึงอย่างไรก็ควรเลี่ยงการใช้เพื่อความปลอดภัยต่อทารกในครรภ์เสียก่อน สำหรับผู้ที่มีแผลในกระเพาะอาหาร และลำไส้ ไม่ควรใช้ต้นควินินหากคุณมีแผล เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงของการเลือดออกในปริมาณมากกว่าเดิม สำหรับผู้ป่วยผ่าตัด ต้นควินินมีฤทธิ์ในการชะลอการแข็งตัวของเลือด ดังนั้นอาจมีความกังวลว่าเกี่ยวกับเลือดออกในระหว่างผ่าตัด และหลังการผ่าตัด ควรหยุดการใช้สมุนไพรนี้อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนถึงกำหนดการผ่าตัด มีจังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติโดยเฉพาะช่วง QT ที่ยาวนาน มีน้ำตาลในเลือดต่ำ (เพราะควินินสามารถทำให้น้ำตาลในเลือดของคุณลดลงได้) กำลังตั้งครรภ์ มีโรคไตหรือตับ กำลังทานยาเช่นทินเนอร์ในเลือดยากล่อมประสาทยาลดกรดและยากลุ่ม […]

สรรพคุณของเอเลแคมเพนเอเลแคมเพนเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง รากของเอเลแคมเพนใช้ในการทำยาสำหรับรักษา: โรคปอด เช่นโรคหอบหืด หลอดลมอักเสบ และไอกรน การไอโดยเฉพาะไอที่เกิดจากวัณโรค และลดเสมหะ บำรุงกระเพาะอาหาร อาการคลื่นไส้ และท้องร่วง ฆ่าพยาธิในลำไส้ เช่นพยาธิปากขอ ไส้เดือน พยาธิเส้นด้าย และพยาธิแส้ม้า ขับเหงื่อ เอเลแคมเพนอาจใช้สำหรับรักษาอาการอื่น ๆ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากแพทย์หรือเภสัชกรของคุณ การออกฤทธิ์งานวิจัยเกี่ยวกับเอเลแคมเพนยังมีไม่มากพอ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ควรปรึกษาแพทย์ อย่างไรก็ตาม มีงานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่า เอเลแคมเพนมีสารเคมีที่ฆ่าพยาธิในลำไส้และอาการติดเชื้อในลำไส้ได้ ข้อควรระวังและคำเตือนสิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้เอเลแคมเพน: ปรึกษากับแพทย์ เภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหาก: ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เนื่องจากในขณะให้นมบุตรนั้น ควรใช้ยาตามแพทย์สั่งเท่านั้น กำลังใช้ยาอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงยาที่คุณสามารถซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งจากแพทย์ มีอาการแพ้สารในเอเลแคมเพน ยาอื่น ๆ หรืออาหารเสริมอื่น ๆ เช่น เอเลแคมเพนอาจทำให้เกิดอาการแพ้ในผู้ที่มีความไวต่อพืชตระกูลแอสเตอราเซ/คอมโพสิเต  (Asteraceae /Compositae) ละอองฟาง เบญจมาศ ดอกดาวเรือง ดอกเดซี่และอื่น ๆ มีโรคอื่น ๆ มีความผิดปกติหรือมีอาการที่แพทย์ระบุไว้ เช่น: โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูงหรือความดันโลหิตต่ำ มีประวัติการแพ้อื่น ๆ เช่น แพ้อาหาร แพ้สีผสมอาหาร แพ้สารกันบูดหรือแพ้เนื้อสัตว์ต่าง ๆ ข้อบังคับสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนั้น มีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อบังคับยาชนิดอื่น ๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัย การใช้ผลิตภัณฑ์นี้ต้องมีประโยชน์มากกว่าที่จะเสี่ยงใช้ ควรปรึกษาแพทย์ของคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม เอเลแคมเพนปลอดภัยหรือไม่การตั้งครรภ์และให้นมบุตร: ไม่มีข้อมูลที่เชื่อถือได้เพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยในการรับประทาน เอเลแคมเพน ในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร เพื่อความปลอดภัยควรหลีกเลี่ยงการใช้ ศัลยกรรม: ควรหยุดใช้เอเลแคมเพนอย่างน้อย 2 […]

การใช้ประโยชน์ ดอกป๊อปปี้ดอกป๊อปปี้ (California Poppy) เป็นดอกไม้จากประเทศรัฐแคลิฟอร์เนีย มักใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเพื่อรักษาอาการ ดังต่อไปนี้ ปัญหาด้านการนอนผิดปกติ (นอนไม่หลับ) อาการปวดเมื่อย อาการวิตกกังวล อาการปัสสาวะรดที่นอนในเด็ก โรคกระเพาะปัสสาวะ โรคตับ กระตุ้นการผ่อนคลาย เมื่อใช้ดอกป๊อปปี้ร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่น จะมีฤทธิ์ช่วยบรรเทาภาวะซึมเศร้า โรคจิตเวชระยะยาว อาการเหนื่อยล้าของร่างกาย อาการปวดเส้นประสาท ปัญหาเกี่ยวกับเส้นเลือด ความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และการระงับประสาท การทำงานของดอกป๊อปปี้เป็นอย่างไรมีการศึกษาไม่เพียงพอเกี่ยวกับวิธีการทำงานของป๊อปปี้กรุณาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม แต่อย่างไรก็ตาม มีศึกษาบางส่วนค้นคว้าพบว่าดอกป๊อปปี้มีสารเคมีที่ช่วยกระตุ้นการผ่อนคลาย และการนอนหลับได้เป็นอย่างดี ข้อควรระวังและคำเตือนเราควรรู้อะไรบ้างก่อนใช้ ดอกป๊อปปี้  ควรปรึกษากับแพทย์และเภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรถ้ามีอาการหรือลักษณะ ดังต่อไปนี้ ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เนื่องจากในขณะที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรควรจะได้รับยาหรือสมุนไพรบำรุง ที่จัดจำหน่ายโดยแพทย์เท่านั้น อยู่ในระหว่างการใช้ยาหรือสมุนไพรอื่นๆ ร่วมด้วย รวมถึงยาทุกชนิดที่ซื้อรับประทานเองโดยไม่มีใบสั่งยาจากแพทย์ มีอาการแพ้สารที่มีส่วนประกอบของดอกป๊อปปี้หรือยา และสมุนไพรชนิดอื่น มีอาการเจ็บป่วย มีอาการผิดปกติ หรือมีโรคอื่นๆ แทรกซ้อน มีอาการแพ้ต่าง ๆ เช่นแพ้อาหาร สีผสมอาหาร สารกันบูด หรือเนื้อสัตว์ ข้อบังคับสำหรับผลิตภัณฑ์สมุนไพรเสริมอาหารนั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อบังคับของการใช้ยา จึงจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัยในการใช้ ประโยชน์ของการใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเสริมอาหารนี้จะต้องมีค่าน้ำหนักมากกว่าความเสี่ยง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ดอกป๊อปปี้มีความปลอดภัยแค่ไหนสำหรับสตรีตั้งครรภ์ : รวมถึงช่วงให้นมบุตร ยังไม่พบข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับการใช้ดอกป๊อปปี้ในระหว่างตั้งครรภ์ ควรเลี่ยงการใช้เพื่อความปลอดภัยต่อร่างกายของคุณ และทารก สำหรับการผ่าตัด : ดอกป๊อปปี้มีฤทธิ์ในการชะลอระบบประสาทส่วนกลางทำให้มีอาการง่วงซึม ดอกป๊อปปี้อาจออกฤทธิ์ชะลอระบบประสาทมากเกินไปเมื่อใช้ร่วมกับยาอื่นๆ ในขณะผ่าตัด และหลังผ่าตัด ควรหยุดใช้ดอกป๊อปปี้อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนรับการผ่าตัด ผลข้างเคียงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ดอกป๊อปปี้มีอะไรบ้าง อาจเกิดอาการแพ้ ผดผื่นระคายเคือง ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีผลข้างเคียงดังกล่าว อาจเกิดผลข้างเคียงอื่นๆทั้งรุนแรงและไม่รุนแรงตามมาได้ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรเพิ่มเติม ปฏิกิริยาระหว่างยายาที่อาจเกิดปฏิกิริยากับดอกป๊อปปี้มีอะไรบ้าง ยาระงับประสาท (ยานอนหลับ หรือยาคลายกังวล) ดอกป๊อปปี้อาจส่งผลให้มีอาการง่วงซึมและอาการครึ่งหลับครึ่งตื่น ชนิดของยาระงับประสาทมีดังนี้ เช่น […]

สรรพคุณของลูกใต้ใบ ลูกใต้ใบ (Chanca Piedra) ใช้สำหรับ ความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น อาการติดเชื้อ อาการปวดและอาการบวม (อักเสบ) นิ่วในไต การขับของเหลวออกจากท่อปัสสาวะหรือช่องคลอด ความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร เช่น แก๊ส อาการเบื่ออาหาร อาการปวดท้อง การติดเชื้อในลำไส้ อาการท้องผูกและโรคบิด โรคเบาหวาน นิ่วในถุงน้ำดี อาการเสียดท้อง ไข้ ไข้หวัดหมู โรคดีซ่าน เนื้องอกในช่องท้อง อาการเจ็บปวดทางช่องทวารหนัก ไข้มาลาเรีย ผื่นแพ้ อาการไอ ภาวะคั่งน้ำ อาการคัน การแท้งบุตร อาการใจสั่น  ไข้ไทฟอยด์ ภาวะโลหิตจาง โรคหืด โรคหลอดลมอักเสบ อาการกระหายน้ำ วัณโรค และอาการเวียนศีรษะ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น ซิฟิลิสและโรคหนองใน ลูกใต้ใบยังใช้เป็นยาบำรุงและบรรเทาปัญหาเกี่ยวกับตับ รวมไปถึงโรคไวรัสตับอักเสบบี ลูกใต้ใบอาจถูกนำไปใช้กับอาการอื่นๆ อีกด้วย หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร   กลไกการออกฤทธิ์ เนื่องจากยังมีงานวิจัยเกี่ยวกับลูกใต้ใบไม่มากพอ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม มีการศึกษาค้นคว้าพบว่าสารใน ลูกใต้ใบอาจช่วยบรรเทาอาการชักกระตุกและไข้ และมีประสิทธิภาพต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัส นอกจากนี้ยังช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้   ข้อควรระวังและคำเตือน สิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้ลูกใต้ใบ  ปรึกษาแพทย์ เภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในกรณีที่ ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เนื่องจากในขณะให้นมบุตรนั้น ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น กำลังใช้ยาอื่นๆ […]

การใช้ประโยชน์ ไวท์มัลเบอร์รี่ไวท์มัลเบอร์รี่ (White Mulberry) เป็นต้นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน ต่อมาได้รับการปลูกอย่างกว้างขวางทั่วโลก และนิยมนำใช้ในการรักษาทางการแพทย์สำหรับการป้องกันไข้หวัด ลดระดับของคอเลสเตอรอลของผู้ป่วยโรคเบาหวาน นอกจานี้ยังสามารถนำมาสกัดให้อยู่ในรูปแบบผง หรือนำไปเป็นส่วนประกอบในยาต่าง ๆ เพื่อรักษาโรค หรืออาการอื่น ๆ เพิ่มเติม ดังนี้ โรคไขข้อ บำรุงหลอดเลือด บรรเทาอาการท้องผูก ไอ เจ็บคอ ป้องกันฟันผุ ลดความดันโลหิต รักษาอาการปวดกล้ามเนื้อ และข้อต่อ การทำงานของไวท์มัลเบอร์รี่เป็นอย่างไรเนื่องจากยังไม่มีการศึกษาวิจัยที่เพียงพอต่อการอธิบายการทำงานของอาหารเสริม ประเภทสมุนไพรชนิดนี้โปรดปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม มีการศึกษาค้นคว้าพบว่ามีสารประกอบบางอย่างในไวท์มัลเบอร์รี่ ที่มีกลไการทำงานคล้ายกับยารักษาผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในการชะลอการสลายของน้ำตาลในลำไส้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมน้ำตาลในเลือดที่เหมาะสม ข้อควรระวังและคำเตือนเราควรรู้อะไรบ้างก่อนใช้ ไวท์มัลเบอร์รี่ ปรึกษาแพทย์ เภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในกรณีที่ คุณอยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เนื่องจากในขณะที่คุณกำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร คุณควรจะได้รับยาตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น คุณได้รับยาชนิดอื่นอยู่ กรณีนี้รวมถึงยาทุกชนิดที่ซื้อรับประทานเองโดยไม่มีใบสั่งยาจากแพทย์ คุณมีอาการแพ้สารจากไวท์มัลเบอร์รี่ หรือแพ้ยาหรือแพ้สมุนไพรชนิดอื่นๆคุณมีอาการไม่สบาย, มีอาการผิดปกติ, หรือภาวะทางการแพทย์อื่นๆ คุณมีอาการแพ้อื่นๆ เช่น อาหาร, สารแต่งสี, สารกันเสีย, หรือสัตว์บางชนิด ข้อกำหนดสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดอกรักนั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อกำหนดยาอื่น ๆ จำเป็นอย่างยิ่ง ที่ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัย การใช้ผลิตภัณฑ์นี้ต้องมีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง ควรปรึกษาแพทย์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ไวท์มัลเบอร์รี่มีความปลอดภัยแค่ไหนสำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร ไม่มีข้อมูลชัดเจนเกี่ยวกับการใช้ไวท์มัลเบอร์รี่ ในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร ถึงอย่างไรก็ควรเลี่ยงการใช้เพื่อความปลอดภัยต่อทารกในครรภ์เสียก่อน สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ไวท์มัลเบอร์รี่อาจลดระดับน้ำตาลในเลือดของคนที่เป็นโรคเบาหวานได้ แต่ก็ควรระมัดระวังภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำจนเกินไป หากคุณรับประทานในปริมาณที่ไม่เหมาะสม ผลข้างเคียงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ไวท์มัลเบอร์รี่ มีอะไรบ้าง ยังไม่มีการรายงานผลข้างเคียง จากผู้ใช้สักเท่าไหร่นัก แต่อาจมีผลกระทบต่อผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน ที่อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงจนมีอาการวิงเวียนศีรษะ เหงื่อออกง่าย อ่อนเพลีย และหมดสติไป เช่นเดียวกับการใช้เพื่อลดความดันในโลหิต ที่อาจทำให้มีอาการสายตาพร่ามัว คลื่นไส้ และเป็นลมไปในที่สุด ดังนั้นหากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับผลข้างเคียงใด ๆ […]

พลูคาว (Bishop’s Weed) หรือ พลูตอง หรือ พลูทอง เป็นพืชชนิดหนึ่ง มักจะนำมาใช้เป็นยาสมุนไพรเพื่อรักษาโรคต่างๆ โดยเฉพาะความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับผิวหนัง ข้อบ่งใช้พลูคาว ใช้สำหรับ พลูคาว (Bishop’s Weed) หรือ พลูตอง หรือ พลูทอง เป็นพืชชนิดหนึ่ง มักจะนำมาใช้เป็นยาสมุนไพรเพื่อรักษาโรคต่างๆ โดยเฉพาะความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับผิวหนัง พลูคาวสามารถนำมาใช้เพื่อบรรเทาอาการของโรคดังต่อไปนี้ โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) ปัญหาผิวต่างๆ โรคระบบทางเดินอาหาร โรคหอบหืด อาการเจ็บหน้าอก (angina) นิ่วในไต ภาวะคั่งน้ำ การทำงานของพลูคาว ยังไม่มีการวิจัยที่เพียงพอต่อการอธิบายการทำงานของสมุนไพรชนิดนี้  ถามจากผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรและแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม  อย่างไรก็ดีมีการวิจัยบางส่วนแสดงให้เห็นว่า มีสารเคมีบางชนิดในพลูคาว (Bishop’s Weed) ซึ่งรวมถึงสารเมทอกซาเลน (Methoxsalen) ซึ่งใช้ในการบำบัดรักษาโรคสะเก็ดเงิน และผื่นผิวหนังต่างๆ ได้ ข้อควรระวังและคำเตือนข้อควรรู้ก่อนใช้พลูคาว ปรึกษาแพทย์หรึอเภสัชกร หาก คุณอยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เนื่องจากในขณะที่คุณกำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร คุณควรจะได้รับยาตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น คุณได้รับยาชนิดอื่นอยู่ ไม่ว่าจะเป็นยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง สมุนไพร เป็นต้น คุณมีอาการแพ้สารจากพลูคาว หรือแพ้ยาชนิดอื่น หรือแพ้สมุนไพรชนิดอื่น คุณมีอาการเจ็บป่วย มีอาการผิดปกติ หรือภาวะทางการแพทย์อื่นๆ คุณมีอาการแพ้ต่าง ๆ เช่น แพ้อาหาร สีผสมอาหาร สารกันบูด เนื้อสัตว์ กฎระเบียบสำหรับการใช้สมุนไพรนั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่ายารักษาโรค คุณจึงควรศึกษาข้อมูลให้มากเพื่อความปลอดภัยในการใช้ ก่อนนำสมุนไพรพลูคาวไปใช้ คุณควรมั่นใจว่าสมุนไพรนั้นให้คุณประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ผู้หญิงตั้งครรภ์ […]

ครามป่า (Wild Indigo) นิยมใช้บรรเทาอาการ เช่น พยาธิตัวอ่อน โรคคอตีบ โรคไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดหมู ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ และบางคนใช้ครามป่ากับแผลผิวหนังโดยตรง การสวนช่องคลอด และเพื่อทำความสะอาดแผลเปิดและบวมด้วย สรรพคุณของ ครามป่าครามป่าเป็นพืชสมุนไพร รากใช้ทำเป็นยารักษาโรค พยาธิตัวอ่อน โรคคอตีบ โรคไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดหมู ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ โรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน ติดเชื้อต่อมน้ำเหลือง ไข้ผื่นแดง ไข้เหลือง ไข้มาลาเรีย ไทฟอยด์ ต่อมทอนซิลอักเสบ อาการเจ็บคอ อาการบวมที่ปากและคอ ฝี โรคที่มีการอักเสบของระบบทางเดินอาหาร บางคนใช้ครามป่ากับแผลผิวหนังโดยตรง การสวนช่องคลอด และเพื่อทำความสะอาดแผลเปิดและบวม กลไกการออกฤทธิ์ไม่มีข้อมูลทางการศึกษาวิธีใช้งานของครามเพียงพอ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม ข้อควรระวังและคำเตือนปรึกษากับแพทย์ เภสัชกร หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรของคุณในกรณี: กำลังตั้งครรภ์ หรือ อยู่ในช่วงให้นมบุตร เพราะเป็นช่วงที่ควรใช้ยาตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น กำลังใช้ยาประเภทอื่น รวมถึงยาทุกชนิดที่ไม่มีใบสั่งยาจากแพทย์ แพ้สารที่อยู่ในครามป่าหรือยาและสมุนไพรอื่น ๆ มีอาการป่วย ความผิดปกติ หรือ พยาธิสภาพ เป็นโรคภูมิแพ้ชนิดอื่น ๆ เช่น แพ้อาหาร แพ้สีย้อม แพ้สารกันบูด หรือแพ้สัตว์ ข้อกำหนดในการใช้อาหารเสริมสมุนไพรมีความเข้มงวดน้อยกว่าการใช้ยาทั่วไป แต่ควรศึกษาให้รอบคอบเพื่อรับรองความปลอดภัยของการใช้สมุนไพร ว่าควรเกิดคุณประโยชน์มากกว่าอันตราย และควรปรึกษาแพทย์หรือหมอสมุนไพรเพื่อทราบข้อมูลเพิ่มเติม ความปลอดภัยในการใช้ครามป่าครามป่าไม่ปลอดภัยเมื่อใช้รับประทานหรือทาลงบนผิวหนัง ในระยะยาวหรือในปริมาณการใช้ยามาก ข้อควรระวังและคำเตือนพิเศษหญิงตั้งครรภ์และผู้ที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร:  ครามป่าไม่ปลอดภัยเมื่อใช้รับประทานหรือทาลงบนผิวหนัง ควรหลีกเลี่ยงการใช้ ปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารหรือลำไส้: ครามในป่าอาจเป็นอันตรายต่อผู้ที่มีปัญหาในกระเพาะอาหารหรือลำไส้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ ผลข้างเคียงครามป่าอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงอะไร ปริมาณการใช้ยามาก อาจทำให้อาเจียน ท้องร่วง ปัญหาเกี่ยวกับลำไส้เล็ก และอาการชัก อย่างไรก็ตาม  ผลข้างเคียงเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคนและอาจมีอาการจากผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่ไม่ได้กล่าวไว้ข้างต้น หากมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องผลข้างเคียง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร หรือ […]

สรรพคุณของมันเทศป่ามันเทศป่า มักใช้สำหรับการบำบัดหรือทดแทนสโตรเจน ช่องคลอดแห้งในสตรีที่มีอายุมาก อาการก่อนมีประจำเดือน PMS โรคกระดูกพรุน เพิ่มพลังทางเพศในชายและหญิง และการขยายเต้านม นอกจากนี้ยังใช้มันเทศป่า เพื่อรักษาความผิดปกติของลำไส้ที่เรียกว่า diverticulosis อาการปวดถุงน้ำดี โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ และบำรุงกำลัง บางครั้งมันเทศป่า ใช้เป็นครีมบำรุงผิว และเพื่อลดอาการหมดประจำเดือน เช่นกะพริบร้อน อาจมีการกำหนดให้มีการใช้มันเทศป่าเพื่อการใช้งานอื่น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากแพทย์หรือเภสัชกรของคุณ กลไกการออกฤทธิ์การศึกษาเกี่ยวกับกลไกออกฤทธิ์ของสมุนไพรชนิดนี้ยังมีไม่เพียงพอ กรุณาปรึกษาแพทย์สมุนไพรของคุณเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมอย่างไรก็ตามมีการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับมันเทศป่าที่มีสารเคมี diosgenin ซึ่งสามารถทำหน้าที่เเป็นสเตียรอยด์ต่างๆ เช่นเอสโตรเจนที่ทดลองในห้องปฏิบัติการ อย่างไรก็ตาม ร่างกายไม่สามารถเปลี่ยนมันเทศป่าให้เป็นเอสโตรเจนได้ ข้อควรระวังและคำเตือนปรึกษากับแพทย์ เภสัชกร หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรของคุณในกรณี: กำลังตั้งครรภ์ หรือ อยู่ในช่วงให้นมบุตร เพราะเป็นช่วงที่ควรใช้ยาตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น กำลังใช้ยาประเภทอื่น รวมถึงยาทุกชนิดที่ไม่มีใบสั่งยาจากแพทย์ แพ้สารที่อยู่ในมันเทศป่าหรือยาและสมุนไพรอื่น ๆ มีอาการป่วย ความผิดปกติ หรือ พยาธิสภาพ เป็นโรคภูมิแพ้ชนิดอื่น ๆ เช่น แพ้อาหาร แพ้สีย้อม แพ้สารกันบูด หรือแพ้สัตว์ ข้อกำหนดในการใช้อาหารเสริมสมุนไพรมีความเข้มงวดน้อยกว่าการใช้ยาทั่วไป แต่ควรศึกษาให้รอบคอบเพื่อรับรองความปลอดภัยของการใช้สมุนไพร ว่าควรเกิดคุณประโยชน์มากกว่าอันตราย และควรปรึกษาแพทย์หรือหมอสมุนไพรเพื่อทราบข้อมูลเพิ่มเติม ความปลอดภัยของมันเทศป่า เด็ก: ไม่ได้มีข้อมูลการศึกษาเกี่ยวกับมันเทศป่าในเด็ก ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้ใช้ในเด็ก หญิงตั้งครรภ์และผู้ที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร: ข้อมูลไม่น่าเชื่อถือเพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยในการรับประทานมันเทศป่า ถ้าคุณกำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เพื่อความปลอดภัย ควรหลีกเลี่ยงการใช้ ผลข้างเคียงมันเทศป่าอาจมีความปลอดภัยเมื่อนำมาใช้รับประทานหรือทาลงบนผิว แต่อย่างไรก็ตาม การใช้ปริมาณยามากอาจทำให้อาเจียนได้ ในบางรายอาจได้รับผลข้างเคียงบางอย่างที่ไม่ได้ระบุไว้ข้างต้น หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับผลข้างเคียงใด ๆ โปรดปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรของคุณ ปฏิกิริยาระหว่างการใช้ยาอาหารเสริมสมุนไพรชนิดนี้อาจทำปฏิกิริยาระหว่างการใช้ยาหรืออาการทางการแพทย์ในปัจจุบันของคุณ ปรึกษากับหมอรักษาสมุนไพรหรือแพทย์ก่อนใช้ ยาหรือภาวะสุขภาพบางอย่างอาจทำปฏิกิริยาระหว่างการใช้ยากับสมุนไพรของคุณเช่น: ยาทดแทนฮอร์โมนหรือยาคุมกำเนิด: การศึกษาทดลองในสัตว์พบว่า diosgenin […]

สรรพคุณของ Marshmallow อะไรบ้างส่วนใบและรากของ Marshmallow ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดและอาการอักเสบของเยื่อเมือกบุผิวของทางเดินหายใจตอนบน อาการไอเรื้อรัง กระเพาะอาหารอักเสบ ท้องเสีย ฝีในท้อง ท้องผูก ภาวะติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะและนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ บางคนนำใบและรากของ Marshmallow มาพอกฝี แผลตามผิวหนัง แผลอักเสบและแผลจากไฟไหม้เพื่อรักษาได้ ใบของ Marshmallow ใช้รักษาแผลจากแมลงกัดต่อยได้ ส่วนราก นำมาทำขี้ผึ้งใช้ทาตามผิวหนังได้และสามารถบรรเทาอาการเจ็บปวดและอักเสบบริเวณเท้าและมือจากความเย็นจัดได้อีกด้วย กลไกการทำงาน Marshmallow เป็นอย่างไรบ้างMarshmallow ช่วยปกป้องตามชั้นผิวหนังและทางเดินอาหาร ช่วยลดอาการไอและเยียวยาแผลให้หายเร็วยิ่งขึ้น หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ สิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้ Marshmallow มีอะไรบ้างหากคุณมีคุณสมบัติหรืออาการตามด้านล่างนี้ควรปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรก่อนทาน ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ยาที่จะสามารถรับประทานได้ควรมีแพทย์สั่งจ่ายเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามก็ยังไม่มีงานวิจัยใดที่ยืนยันว่าสามารถทานได้ในช่วงนี้ เพราะฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงจะดีกว่า ทานยาอื่นๆอยู่ ที่ไม่ได้รับการสั่งจ่ายจากแพทย์ มีอาการแพ้สารใน  Marshmallow ยาและสมุนไพรต่างๆ ภูมิแพ้ชนิดอื่นๆเช่น แพ้อาหาร แพ้สีย้อมผม แพ้วัตถุกันเสีย หรือแพ้สัตว์ต่างๆ เป็นต้น โดยทั่วไปแล้ว ข้อตกลงเกี่ยวกับสมุนไพรจะมีข้อจำกัดน้อยกว่ายารักษาโรค แต่ยังคงเน้นความปลอดภัยอ้างอิงโดยงานวิจัยต่างๆซึ่งข้อได้เปรียบของการทานสมุนไพรเสริมคือการทราบถึงความเสี่ยงอันตรายที่จะเกิดขึ้นก่อนการใช้จริง ทั้งนี้ทั้งนั้นควรปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร การใช้ประโยชน์จาก Marshmallow ให้ปลอดภัยควรทำอย่างไรช่วงตั้งครรภ์และให้นมบุตร : ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลใดที่ระบุถึงการใช้สมุนไพรนี้ในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตรได้อย่างปลอดภัย ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการใช้ การผ่าตัด : Hibiscus อาจมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดซึ่งอาจเกิดอาการแทรกแซงระหว่างผ่าตัด ดังนั้นหยุดการใช้ยาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนทำการผ่าตัด   ผลข้างเคียงจากการทาน Marshmallow มีอะไรบ้างMarshmallow สามารถใช้กินและทาบริเวณผิวหนังได้ […]

การใช้ประโยชน์Ground-Ivy ใช้ทำอะไร? Ground-Ivy เป็นพืชชนิดหนึ่ง ต้นของมันที่ถูกนำมาอบแห้งและใบถูกนำมาบดเพื่อใช้ทำยา ผู้คนทานสมุนไพรชนิดนี้เพื่อรักษาโรคเหล่านี้ ปัญหาเล็กน้อยเกี่ยวกับปอด อาการไอ โรคหลอดลมอักเสบ โรคปวดข้อ อาการปวดข้ออื่นๆ เสียงอื้อในหู โรคกระเพาะต่างๆ ท้องเสีย ริดสีดวงทวารหนัก ติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ นิ่วในไต ปัญหาเกี่ยวกับการมีประจำเดือน โรคลูคีเมีย ไวรัสตับอักเสบ โรคมะเร็ง โรคเอดส์ บางรายนำเอา Ground-Ivy มาทาลงบนผิว เพื่อรักษาบาดแผล แผลภายใน และโรคผิวหนังอื่นๆ Ground-Ivy อาจได้รับการสั่งยาเพื่อใช้ในวัตถุประสงค์อื่นๆ สอบถามแพทย์ และเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม   สรรพคุณของ Ground-Ivyยังมีการศึกษาไม่เพียงพอเกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทสมุนไพรชนิดนี้ว่ามีการทำงานอย่างไร ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือขอคำแนะนำจากแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม บางการศึกษาชี้ว่า Ground-Ivy อาจมีฤทธิ์เป็นยาฝาดสมานช่วยให้ของเหลวจากร่างกายแห้ง เช่น น้ำมูก หรือช่วยให้เลือดหยุด   ข้อควรระวังและคำเตือนควรรู้อะไรก่อนที่จะใช้ Ground-Ivy ควรปรึกษากับแพทย์ เภสัชกร หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร ถ้า: ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เนื่องจากในขณะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น ใช้ยาอื่นร่วมอยู่ รวมถึงยาที่กำลังใช้ที่สามารถหาซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งยา มีอาการภูมิแพ้สารใด ๆ ใน Ground-Ivy หรือยาอื่น ๆ หรือสมุนไพรอื่น ๆ มีโรค ความผิดปกติ หรือพยาธิสภาพอื่น ๆ มีอาการแพ้อื่น ๆ เช่น แพ้อาหาร สีย้อมอาหาร สารกันบูด หรือเนื้อสัตว์ ข้อบังคับสำหรับอาหารเสริมประเภทสมุนไพรนั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อบังคับของการใช้ยา จึงจำเป็นที่จะต้องศึกษาให้มากเพื่อความปลอดภัยในการใช้ คุณประโยชน์ของการรับประทานอาหารเสริมประเภทสมุนไพรนี้ต้องมีค่าน้ำหนักมากกว่าความเสี่ยงก่อนการใช้ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์ Ground-Ivy มีความปลอดภัยเพียงใด:สำหรับผู้ตั้งครรภ์และอยู่ในระหว่างการให้นมบุตร: ยังมีข้อมูลที่เชื่อถือได้ไม่เพียงพอในด้านความปลอดภัยในการนำ Ground-Ivy มาใช้ หากท่านกำลังตั้งครรภ์หรืออยู่ในระหว่างให้นมบุตร ควรคำนึงถึงความปลอดภัยและหลีกเลี่ยงการนำมาใช้   ผลข้างเคียงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ Ground-Ivy Ground-Ivy นั้นค่อนข้างปลอดภัยแต่ก็ยังมีผลข้างเคียงบางประการ เช่น ความผิดปกติของไตและตับ การแท้งบุตร กระเพาะอาหาร การละคายเคืองในลำไส้ ผลข้างเคียงเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน […]