สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก เป็นสิ่งหนึ่งที่อยู่คู่กับวัฒนธรรมของไทยมาอย่างเนิ่นนาน Hello คุณหมอ จึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก มาให้ทุกท่านแล้ว ที่นี่

เรื่องเด่นประจำหมวด

สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

น้ำมันสะเดา กับคุณประโยชน์มากมาย แห่งการบำรุงผิวพรรณ

ส่วนใหญ่แล้ว ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบจากสมุนไพร มักให้ผลดีมากกว่าการใช้สารเคมี รวมไปถึง น้ำมันสะเดา นี้ด้วย เพราะน้ำมันสะเดาเป็นสิ่งที่ถูกสกัดจากพืชโดยตรงและผ่านกระบวนการกรอง ฆ่าเชื้อ แต่น้ำมันชนิดนี้จะมีประโยชน์ และวิธีใช้อย่างไรบ้างนั้น ติดตามได้ในบทความที่ Hello คุณหมอ นำมาฝากทุกคนในวันนี้กันได้เลยค่ะ ที่มาของ น้ำมันสะเดา แต่เดิมสะเดานิยมปลูกในประเทศเขตร้อน โดยผู้คนส่วนใหญ่ใช้เป็นสารขับไล่แมลง และศัตรูพืชทั่วไป ต่อมาก็ได้มีการพัฒนาปรับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของสะเดาให้เข้ากับยุคสมัยเรื่อย ๆ เช่น แชมพูสำหรับสัตว์เลี้ยง แชมพูกำจัดรังแค น้ำยาบ้วนปาก อาหารเสริม เครื่องสำอาง ครีม รวมไปถึงการนำเมล็ดจากต้นสะเดามาสกัดเป็นน้ำมันสะเดา เพื่อใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ เช่น ใช้เป็นน้ำมันบำรุงผิว น้ำมันสะเดา ช่วยบำรุงผิวด้านใดบ้าง เนื่องจากน้ำมันสะเดามีส่วนผสมมากมายที่ให้ประโยชน์แก่ผิว ไม่ว่าจะเป็น วิตามินอี สารต้านอนุมูลอิสระ แคลเซียม ไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) ลิโมนอยด์ (Limonoids) กรดไขมัน (EFA) ทำให้คุณนั้นมีสุขภาพผิวที่ดีขึ้น ดังนี้ รักษากลาก การเกิดสิว ลดรอยแผลเป็น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน รักษาผิวกร้านแห้ง และลดเลือนริ้วรอย โรคสะเก็ดเงิน ปัจจุบันมีงานศึกษาวิจัยมากมายเกี่ยวกับการใช้น้ำมันสะเดาบำรุงผิว โดยงานศึกษาวิจัยบางชิ้นระบุว่า น้ำมันสะเดาอาจมีส่วนช่วยในการชะลอริ้วรอย และรักษาสิวได้อย่างเห็นผล แต่จากการทดลองในสัตว์ เมื่อปี 2014 พบว่า น้ำมันสะเดาอาจไม่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ทางด้านการสร้างคอลลาเจน และกำจัดไฝ หูด […]

หมวดหมู่ สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก เพิ่มเติม

ยาสมุนไพร

สำรวจ สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

ยาสมุนไพร

ตะไคร้ (Lemongrass)

ตะไคร้ (Lemongrass) สมุนไพรพื้นบ้านที่คนไทยรู้จักกันดี พืชชนิดนี้มักถูกใช้เพื่อรักษาอาการของระบบทางเดินอาหาร อาการปวดท้อง ลดระดับความดันโลหิต ชักกระตุก อาเจียน ไอ ไขข้ออักเสบ ไข้หวัด และภาวะอ่อนเพลีย ข้อบ่งใช้ตะไคร้ ใช้สำหรับ ตะไคร้ (Lemongrass) สมุนไพรพื้นบ้านที่คนไทยรู้จักกันดี พืชชนิดนี้มักถูกใช้เพื่อรักษาอาการของระบบทางเดินอาหาร อาการปวดท้อง ลดระดับความดันโลหิต ชักกระตุก อาเจียน ไอ ไขข้ออักเสบ ไข้หวัด และภาวะอ่อนเพลีย นอกจากนี้ ยังใช้เพื่อสมานแผลสดที่อาจเกิดจากของมีคม เช่น มีดบาด บางคนใช้ตะไคร้ และน้ำมันหอมระเหยทาบริเวณผิวหนังโดยตรงกับผิวหนังสำหรับอาการปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ และยังช่วยปรับปรุงในเรื่องการไหลเวียนของเลือดให้สมดุลอีกด้วย ข้อควรระวังและคำเตือนข้อควรรู้ก่อนใช้ ตะไคร้ การศึกษาเกี่ยวกับการทำงานของตะไคร้ยังไม่เพียงพอมากนัก โปรดปรึกษานักสมุนไพร หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติม แต่อย่างไรก็ตามเป็นที่ทราบกันดีว่าตะไคร้ประกอบไปด้วยสารที่ช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย และยีสต์บางชนิด และยังช่วยลดอาการปวด ลดไข้ กระตุ้นการไหลเวียนของมดลูก เพื่อให้ประจำเดือนนั้นมาตามกำหนดปกติ ควรปรึกษากับแพทย์และเภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรถึงอาการหรือลักษณะ ดังต่อไปนี้ ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เนื่องจากในขณะที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรควรจะได้รับยาหรือสมุนไพรบำรุง ที่จัดจำหน่ายโดยแพทย์เท่านั้น อยู่ในระหว่างการใช้ยาหรือสมุนไพรอื่น ๆ ร่วมด้วย รวมถึงยาทุกชนิดที่ซื้อรับประทานเองโดยไม่มีใบสั่งยาจากแพทย์ มีอาการแพ้สารที่มีส่วนประกอบของตะไคร้หรือยาและสมุนไพรชนิดอื่น มีอาการเจ็บป่วย มีอาการผิดปกติ หรือมีโรคอื่นๆ แทรกซ้อน มีอาการแพ้ต่าง ๆ เช่น แพ้อาหาร สีผสมอาหาร สารกันบูด หรือเนื้อสัตว์ ข้อบังคับสำหรับผลิตภัณฑ์สมุนไพรเสริมอาหารนั้น มีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อบังคับของการใช้ยา จึงจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติม […]


สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

อาเคเชีย (Acacia)

การใช้ Acaciaประโยชน์ของ Acacia มีอะไรบ้าง Acacia ถูกพูดถึงกันแบบปากต่อปากในเรื่องของประโยชน์ทางด้านการเป็นยา ดังนี้ ช่วยแก้ปัญหาคอเรสเทอรอลสูง ช่วยในการลดน้ำหนัก โรคลำไส้แปรปรวน (Irritable bowel syndrome หรือ IBS) โรคเบาหวาน แก้ปัญหาความเสียหายของตับ นอกจากนี้ Acacia ยังสามารถใช้ในด้านอื่นๆ ได้อีก สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมของ Acacia ได้ที่แพทย์ผู้ดูแล เภสัชกรหรือนักสมุนไพรศาสตร์       การทำงานของ Acacia เป็นอย่างไรมีการศึกษาเกี่ยวกับการทำงานของสมุนไพรชนิดนี้ที่ไม่เพียงพอนัก จึงจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลและนักสมุนไพรศาสตร์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม แต่อย่างไรก็ตาม มีบางการศึกษาที่ได้รายงานเกี่ยวกับสมุนไพรชนิดนี้ว่า : ช่วยแก้ปัญหาคอเรสเทอรอลสูง Acacia เป็นแหล่งของไฟเบอร์ที่ช่วยในการควบคุมอาหาร เนื่องจากสามารถช่วยให้รู้สึกอิ่มได้จึงทำให้เราหยุดรับประทานอาหารเร็วกว่าปกติ ซึ่งส่งผลให้น้ำหนักลดและลดระดับของคอเรสเทอรอลในร่างกาย แก้ปัญหาความเสียหายของตับ จากการทดลองค้นคว้าในสัตว์พบว่าไฟเบอร์ใน Acacia อาจช่วยป้องกันความเสียหายต่อตับที่เกิดจาก Acetaminophen (ยาแก้ปวด) ยกตัวอย่างเช่น ในการศึกษาค้นคว้าด้านเภสัชศาสตร์ปี 2003 พบว่าไฟเบอร์ใน Acacia ช่วยต่อต้านความเสียหายของตับโดยการลดภาวะเครียดที่เกิดจากออกซิเดชั่น ข้อควรระวังและคำเตือนสิ่งที่ต้องรู้ก่อนการใช้ Acacia คืออะไรบ้าง ปรึกษาแพทย์ผู้ดูแล เภสัชกรหรือนักสมุนไพรศาสตร์ หากว่า : อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เนื่องจากระหว่างการตั้งครรภ์หรือช่วงให้นมบุตรนั้นควรจะใช้ยาภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น อยู่ในระหว่างการใช้ยาชนิดอื่น ซึ่งรวมถึงการใช้ยาที่สามารถหาซื้อได้เองโดยไม่ต้องใช้ใบสั่งยาจากแพทย์ มีอาการแพ้สารใดๆ ใน Acacia หรือแพ้ยาและสมุนไพรอื่นๆ มีอาการป่วย อาการผิดปกติของร่างกายหรือผลข้างเคียงจากยา มีอาการแพ้อื่นๆ เช่นแพ้อาหาร สีย้อม สารกันบูดหรือสัตว์ชนิดต่างๆ ข้อปฏิบัติในการใช้สมุนไพรนั้นมีความเข้มงวดที่น้อยกว่าการใช้ยารักษาโรค จำเป็นต้องมีการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมเพื่อรับรองความปลอดภัย ซึ่งการจะใช้ประโยชน์ของสมุนไพรนั้นต้องศึกษาความเสี่ยงก่อนใช้และควรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับแพทย์ผู้ดูแลหรือนักสมุนไพรศาสตร์ก่อน Acacia นั้นมีความปลอดภัยแค่ไหนสำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร: ยังไม่มีข้อมูลที่เพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยของการใช้สมุนไพรนี้ระหว่างการตั้งครรภ์และช่วงให้นมบุตร […]


สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

เกลือไฮโดรคลอไรด์ (Glucosamine Hydrochloride)

การใช้เกลือไฮโดรคลอไรด์ใช้ทำอะไร ปกติเกลือไฮโดรคลอไรด์จะใช้สำหรับรักษา: โรคข้อเสื่อม โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคต้อหิน อาการผิดปกติที่ขากรรไกรหรือโรคข้อต่อขากรรไกร (ทีเอ็มดี) อาการปวดข้อ อาการปวดหลังและการลดน้ำหนักเมื่อใช้รับประทาน โรคข้อเสื่อมเมื่อทาลงบนผิวหนังซึ่งผสมกับคอนดรอยติน ซัลเฟต กระดูกอ่อนปลาฉลามและการบูร โรคข้อเสื่อมเมื่อใช้ฉีดในระยะสั้น การออกฤทธิ์            เนื่องจากยังมีการศึกษาเกี่ยวกับการออกฤทธิ์ของเกลือไฮโดรคลอไรด์ไม่มากพอ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพรหรือแพทย์ อย่างไรก็ตาม งานวิจัยบางส่วนบ่งชี้ว่าเมื่อรับประทานเข้าไป เกลือไฮโดรคลอไรด์จะช่วยทดแทนสสารที่จำเป็นต่อการสร้างเนื้อเยื่อรอบข้อต่อ ข้อควรระวังและคำเตือนสิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้เกลือไฮโดรคลอไรด์ ควรปรึกษาหรือพบกับแพทย์ เภสัชกร หรือผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพร ถ้าอยู่ในอาการหรือลักษณะดังต่อไปนี้: • ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เนื่องจาก ในระหว่างการมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตรควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น • อยู่ระหว่างรับประทานยาชนิดอื่น รวมไปถึงยาที่สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องใช้ใบสั่งยา • แพ้เกลือไฮโดรคลอไรด์ในทุกรูปแบบ ยาหรือสมุนไพรชนิดอื่นๆ • มีอาการเจ็บป่วย ความผิดปกติ หรือพยาธิสภาพอื่นๆ  • หากเคยมีประวัติการแพ้ต่างๆ แพ้อาหาร แพ้สีผสมอาหาร แพ้สารกันบูด หรือแพ้เนื้อสัตว์             ข้อบังคับสำหรับเกลือไฮโดรคลอไรด์นั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อบังคับของการใช้ยา จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องศึกษาให้มากเพื่อความปลอดภัยในการใช้ คุณประโยชน์ของการรับประทานเกลือไฮโดรคลอไรด์ต้องมีค่าน้ำหนักมากกว่าความเสี่ยงก่อนการใช้ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพรหรือแพทย์ เกลือไฮโดรคลอไรด์ปลอดภัยแค่ไหนเกลือไฮโดรคลอไรด์ปลอดภัยสำหรับผู้ใหญ่เมื่อใช้รับประทานนานถึง 2 ปี ข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้เกลือไฮโดรคลอไรด์ขณะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรยังมีไม่เพียงพอ โปรดระวังและหลีกเลี่ยงการใช้หากไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร ผลข้างเคียงผลข้างเคียงที่อาจได้รับจากการใช้เกลือไฮโดรคลอไรด์ ยังมีข้อมูลเรื่องผลข้างเคียงของการใช้เกลือไฮโดรคลอไรด์ไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีของผู้ป่วยที่ไวต่อสิ่งกระตุ้น อาการภูมิแพ้อาจเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้การรับประทานเกลือไฮโดรคลอไรด์อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงอื่นๆ รวมถึงเกิดแก๊สในกระเพาะ อาการท้องอืดและเป็นตะคริว ผลข้างเคียงเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน อาจมีผลข้างเคียงอื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึงอีก หากท่านกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์ ปฏิกิริยาต่อยาจะเกิดปฏิกิริยาอะไรเมื่อใช้เกลือไฮโดรคลอไรด์กับสารอื่น ๆ              […]


สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

เค๊ด (Cade)

สพรรคุณของ CadeCade คือพืชชนิดหนึ่ง ใบ,ลำต้นและน้ำมันจากไม้ใช้เป็นยารักษาได้ นิยมใช้สำหรับการรักษาโรคต่อไปนี้ – ท้องเสีย – แผลในกระเพาะอาหาร – เบาหวาน – ความดันโลหิตสูง – หลอดลมอักเสบ – ปอดบวม – อาการคัน น้ำมันCadeใช้สำหรับการรักษาอาการคัน, โรคสะเก็ดเงิน, กลาก, โรคผิวหนัง, สภาพผิวที่เกิดจากปรสิต, ผมร่วง, ปัญหาหนังศีรษะ และโรคมะเร็ง รวมถึงใช้ฆ่าเชื้อโรคในแผล น้ำมันCade เป็นส่วนผสมในการผลิตครีมบำรุงผิว,ขี้ผึ้งและในแชมพูขจัดรังแค การทำงานของCadeยังมีการศึกษาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสมุนไพรนี้ไม่มากพอ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามยังมีการศึกษาบางอย่างที่แสดงให้เห็นว่าสารสกัดจากCadeสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียในหลอดทดลองได้ ในสัตว์ทดลองนั้นยังช่วยบรรเทาอาการปวดและลดอาการบวมอีกด้วย ข้อควรระวังและคำเตือนควรรู้อะไรก่อนที่จะใช้Cade? ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร ถ้ามีอาการหรือลักษณะดังต่อไปนี้: –    กำลังตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เนื่องจากในระหว่างการมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตรจึงควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น อยู่ในระหว่างใช้ยาชนิดอื่น รวมไปถึงยาที่สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องใช้ใบสั่งยา –    มีอาการแพ้สารใดๆที่มีสารประกอบของCadeผสมยู่ หรือยาอื่นๆ –    มีอาการเจ็บป่วย ความผิดปกติ หรือพยาธิสภาพอื่นๆ มีอาการแพ้ เช่น แพ้อาหาร สีผสมอาหาร สารกันบูด หรือเนื้อสัตว์   ข้อบังคับสำหรับอาหารเสริมประเภทสมุนไพรนั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อบังคับของการใช้ยา จึงจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัยในการใช้ ประโยชน์ของการรับประทานอาหารเสริมประเภทสมุนไพรนี้จะต้องมีค่าน้ำหนักมากกว่าความเสี่ยง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม   Cade ปลอดภัยแค่ไหนไม่ควรใช้น้ำมันCade กับผิวที่บอบบางหรือบวม ใช้บนใบหน้า, ผิวที่ยืดหยุ่น หรือบนอวัยวะสืบพันธุ์ด้วยความระมัดระวัง หญิงมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร: ยังมีข้อมูลทางไม่เพียงพอด้านความปลอดภัยในการใช้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมชนิดนี้ในระหว่างมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์ของท่านเพื่อประเมินประโยชน์และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นก่อนการใช้ ผลข้างเคียงผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากการใช้Cade? อาการแพ้อาจเกิดขึ้นเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสมุนไพรนี้: การระคายเคือง รอยแดง   ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีผลข้างเคียงข้างต้น หากมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียงของยา ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์ ปฏิกิริยาต่อยาปฏิกิริยาอาจที่เกิดขึ้นเมื่อใช้Cadeร่วมกันกับยาอื่น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสมุนไพรชนิดนี้อาจมีปฏิกิริยากับยาที่ใช้อยู่ควบคู่ในปัจจุบัน ควรปรึกษานักสมุนไพรหรือแพทย์ก่อนใช้ยาโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณมีอาการแพ้ต้นไซเปรส ละอองเกสรอาจทำให้เกิดการแพ้ในผู้ที่มีอาการแพ้ไซเปรส ปริมาณข้อมูลนี้ไม่ใช่คำแนะนำจากแพทย์โดยตรง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์ก่อนใช้เสมอ ปริมาณที่เหมาะสมในการใช้Cadeคือ? ทาบริเวณที่มีปัญหา 1-3 ครั้งต่อวัน […]


สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

น้ำมันทีทรี (Tea Tree Oil)

ผลที่ได้สารเคมีในน้ำมันทีทรีจะฆ่าแบคทีเรียและเชื้อรา และลดอาการแพ้ที่ผิวหนัง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์เพื่อข้อมูลเพิ่มเติม   ข้อควรระวัง & คำเตือนสิ่งที่ควรทราบก่อนใช้น้ำมันทีทรี ปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกร หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรถ้า: • ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เพราะเป็นเวลาที่ควรได้รับยารักษาโรคเฉพาะที่แพทย์สั่งเท่านั้น • กำลังใช้ยาอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงยาที่ซื้อโดยไม่ต้องมีใบสั่งยา • แพ้สารที่อยู่ในน้ำมันทีทรีหรือยาอื่น ๆ หรือสมุนไพรอื่น ๆ • มีอาการป่วย มีความผิดปกติ หรือพยาธิสภาพอื่น ๆ • เป็นโรคภูมิแพ้ชนิดอื่น ๆ เช่น แพ้อาหาร สีผสมอาหาร สารกันบูด หรือเนื้อสัตว์ ***ข้อกำหนดสำหรับอาหารเสริมประเภทสมุนไพรนั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อบังคับของการใช้ยา จึงจำเป็นที่จะต้องศึกษาให้มากเพื่อความปลอดภัยในการใช้ คุณประโยชน์ของการรับประทานอาหารเสริมประเภทสมุนไพรนี้ต้องมีค่าน้ำหนักมากกว่าความเสี่ยงก่อนการใช้ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์*** ความปลอดภัยในการใช้น้ำมันทีทรีเด็ก: ใช้ในเด็กได้อย่างปลอดภัย เช็คกับกุมารแพทย์ก่อนการใช้น้ำมันทีทรี ผู้ที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร: น้ำมันทีทรีค่อนข้างปลอดภัยเมื่อใช้กับผิว อย่างไรก็ตามค่อนข้างไม่ปลอดภัยหากรับประทาน การรับประทานน้ำมันทีทรีอาจจะเป็นพิษ   ผลข้างเคียงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นเมื่อใช้น้ำมันทีทรี น้ำมันทีทรีอาจทำให้: ระคายผิวหนัง บวม ผิวแห้ง คัน ระคายเคือง ปวดแสบ ผิวไหม้ ผิวแดง หน้าอกใหญ่กว่าปกติ เรียกว่า เต้านมผู้ชายโต (ในผู้ชาย) อาการสับสน ไม่สามารถเดินได้ ไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคง ผื่นคัน อาการโคม่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีผลข้างเคียง อาจจะมีผลข้างเคียงอื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึง หากมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียงของยา ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์ ผลกระทบเกิดปฏิกิริยาอะไรบ้างเมื่อใช้น้ำมันทีทรี   น้ำมันทีทรีอาจทำปฏิกิริยากับยาที่คุณทานหรือมีผลกระทบกับการรักษาของคุณในปัจจุบัน ดังนั้น ควรปรึกษาหมอสมุนไพรหรือแพทย์ก่อนที่จะใช้   ขนาดที่ใช้ข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้ใช้แทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาหมอสมุนไพรหรือแพทย์ก่อนใช้ยานี้ทุกครั้ง   ขนาดปกติที่ใช้น้ำมันทีทรี ผู้ใหญ่: สำหรับคนที่ติดเชื้อราที่เล็บ (ติดเชื้อราที่เล็บ): ใช้สารละลายน้ำมันทีทรี 100% 2 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 6 เดือน   สำหรับคนเป็นน้ำกัดเท้า (ฮ่องกงฟุต): ใช้สารละลายน้ำมันทีทรี 25% […]


สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

น้ำมันสน (Turpentine Oil)

สรรพคุณของน้ำมันสนน้ำมันสนใช้ทำอะไร น้ำมันสนทำจากเรซินของต้นสน ซึ่งใช้ทำยาได้ น้ำมันใช้กับผิวสำหรับ: ปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดเส้นประสาท ปวดฟัน เราสูดสารระเหยของน้ำมันสนเพื่อลดอาการเจ็บหน้าอกที่มาพร้อมกับโรคปอด ผลที่ได้งานวิจัยเกี่ยวกับน้ำมันสนยังมีไม่เพียงพอ ควรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์ อย่างไรก็ตามเป็นที่ทราบกันว่าเมื่อสูดดมน้ำมันสนจะช่วยลดอาการเจ็บหน้าอกได้ เมื่อใช้กับผิวหนัง น้ำมันสนจะทำให้ร้อนและแดง ช่วยคลายอาการปวดจากเนื้อเยื่อใต้ผิว ข้อควรระวัง & คำเตือนสิ่งที่ควรทราบก่อนใช้น้ำมันสน ปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกร หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรถ้า: • ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เพราะเป็นเวลาที่ควรได้รับยารักษาโรคเฉพาะที่แพทย์สั่งเท่านั้น • กำลังใช้ยาอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงยาที่ซื้อโดยไม่ต้องมีใบสั่งยา • แพ้สารที่อยู่ในน้ำมันสนหรือยาอื่น ๆ หรือสมุนไพรอื่น ๆ • มีอาการป่วย มีความผิดปกติ หรือพยาธิสภาพอื่น ๆ • เป็นโรคภูมิแพ้ชนิดอื่น ๆ เช่น แพ้อาหาร สีผสมอาหาร สารกันบูด หรือเนื้อสัตว์ ***ข้อกำหนดสำหรับอาหารเสริมประเภทสมุนไพรนั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อบังคับของการใช้ยา จึงจำเป็นที่จะต้องศึกษาให้มากเพื่อความปลอดภัยในการใช้ คุณประโยชน์ของการรับประทานอาหารเสริมประเภทสมุนไพรนี้ต้องมีค่าน้ำหนักมากกว่าความเสี่ยงก่อนการใช้ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์*** ความปลอดภัยในการใช้น้ำมันสนน้ำมันสนนั้นปลอดภัยเมื่อผู้ใหญ่ใช้มันกับผิวหนังหรือสูดดมอย่างเหมาะสม น้ำมันสนจะไม่ปลอดภัยเมื่อรับประทานหรือใช้กับแผลขนาดใหญ่ ข้อควรระวังเป็นพิเศษ & คำเตือน เด็ก: ไม่ควรให้เด็กรับประทานน้ำมันสน เด็กจะค่อนข้างอ่อนไหวกับสารเคมีในน้ำมันสน เด็กๆ อาจตายได้หากกลืนน้ำมันสน ไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะทราบว่าเด็กๆ จะปลอดภัยหากสูดดมน้ำมันสนหรือใช้กับผิวหนัง ดีที่สุดควรงดใช้น้ำมันสนในเด็ก ผู้ที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร: ไม่ปลอดภัยที่จะรับประทานน้ำมันสน อาจจะทำให้แท้งลูกได้ ไม่มีข้อมูลเพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้กับผิวหนังหรือสูดดมหากคุณตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เพื่อความปลอดภัยงดใช้ โรคเกี่ยวกับปอด รวมถึงหอบหืดหรือไอกรน อย่าสูดดมน้ำมันสนหากคุณเป็นโรคเกี่ยวกับปอด จะทำให้โรคของคุณแย่ลง ผลข้างเคียงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นเมื่อใช้น้ำมันสน เมื่อใช้กับผิว จะเกิดการระคายเคือง เมื่อสูดดมน้ำมันสน จะทำให้เกิดการชักกระตุกของหลอดลม […]


สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

คันธุลี (Tylophora)

คันธุลี (Tylophora) เป็นพืชตระกูลไม้เลื้อย ที่มีสรรพคุณทางยา พบได้ในประเทศเขตร้อนอย่างทวีปเอเชีย ได้แก่ อินเดีย มาเลเซีย ไทย และศรีลังกา แต่ปัจจุบันสามารถขยายพันธุ์และพบได้ในทวีปแอฟริกา สรรพคุณของคันธุลีคันธุลีใช้สำหรับ คันธุลี (Tylophora)เป็นพืชตระกูลไม้เลื้อย และมีสรรพคุณทางยา ซึ่งเรานำประโยชน์ด้านสรรพคุณทางยาของต้นคันธุลีมาใช้สำหรับ: โรคหอบหืด อาการแพ้ มะเร็ง จุกแน่น ท้องผูก ไอ ผิวอักเสบ ท้องเสีย อุจจาระเป็นเลือด มีแก็ส ริดสีดวงทวาร โรคเกี่ยวกับเอ็นข้อต่อ (เก๊าท์) ตัวเหลือง (ดีซ่าน) ความผิดปกติของข้อ (ข้ออักเสบ). ไอกรน แผลที่ผิวหนัง บาดแผล ความปลอดภัยงานวิจัยเกี่ยวกับคันธุลียังมีไม่เพียงพอ ควรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์ อย่างไรก็ตามเป็นที่ทราบกันว่าคันธุลีเพิ่มการไหลเวียนของลมในหลอดลมและลดอาการแพ้ ข้อควรระวังและคำเตือนสิ่งที่ควรทราบก่อนใช้คันธุลี ปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกร หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรถ้า: ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เพราะเป็นเวลาที่ควรได้รับยารักษาโรคเฉพาะที่แพทย์สั่งเท่านั้น กำลังใช้ยาอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงยาที่ซื้อโดยไม่ต้องมีใบสั่งยา แพ้สารที่อยู่ในคันธุลีหรือยาอื่น ๆ หรือสมุนไพรอื่น ๆ มีอาการป่วย มีความผิดปกติ หรือพยาธิสภาพอื่น ๆ เป็นโรคภูมิแพ้ชนิดอื่น ๆ เช่น แพ้อาหาร สีผสมอาหาร สารกันบูด หรือเนื้อสัตว์ ข้อกำหนดสำหรับอาหารเสริมประเภทสมุนไพรนั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อกำหนดของการใช้ยา จึงจำเป็นที่จะต้องศึกษาข้อมูลในการใช้งานสมุนไพรให้มากเพื่อความปลอดภัย หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์ ความปลอดภัยในการใช้คันธุลีข้อควรระวังเป็นพิเศษสำหรับการใช้คันธุลี ผู้ที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร: ไม่มีข้อมูลเพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยในการรับคันธุลีหากคุณตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เพื่อความปลอดภัยควรงดใช้ หรือปรึกษากับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญก่อนเสมอ ผลข้างเคียงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นเมื่อใช้คันธุลี ไม่มีข้อมูลเพียงพอว่าการใช้คันธุลีจะปลอดภัยหรือไม่ หรือมีผลข้างเคียงอะไร หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับผลข้างเคียง ให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหรือแพทย์   ปฏิกิริยาระหว่างยาคันธุลีอาจทำปฏิกิริยากับยาที่คุณรับประทานหรืออาจมีผลกระทบกับการรักษาของคุณในปัจจุบัน ดังนั้น ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์ก่อนที่จะใช้   ขนาดยาข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม ขนาดการใช้ ปริมาณการใช้คันธุลีนี้อาจจะแตกต่างกันในแต่ละผู้ป่วย ขึ้นอยู่กับอายุ สุขภาพ และเงื่อนไขอื่นๆ สมุนไพรไม่ได้ปลอดภัยเสมอไป กรุณาสอบถามหมอสมุนไพรหรือแพทย์สำหรับปริมาณการใช้ที่เหมาะสมสำหรับคุณ คันธุลีพบในรูปแบบไหนบ้าง คันธุลีอาจหาได้ง่ายในรูปแบบ: แคปซูลคันธุลี


สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

คารายา-กัม (Karaya-Gum)

Karaya-Gum สามารถใช้ประโยชน์อะไรได้บ้างKaraya-Gum เป็นวัสดุคล้าย ๆ ยางต้นไม้ ที่นำมาจาก Sterculia sap คนใช้มันเพื่อทำยา หมากฝรั่ง Karaya-Gum ถูกใช้เป็นยาระบายเป็นกลุ่มเพื่อช่วยลดอาการท้องผูกหรือเพิ่มความต้องการทางเพศ (ยากำหนัด) Karaya-Gum ช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ น้ำตาลในเลือดสูง ระดับไขมันในน้ำเหลือง ใช้เป็นแผ่นปิดหนังภายหลังการผ่าตัดหรือเพื่อบรรเทาผิวบาดแผลและแผลพุพอง Karaya-Gum อาจมีประโยชน์อย่างอื่นที่ไม่ได้ระบุไว้ข้างต้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากแพทย์หรือเภสัชกรของคุณ การออกฤทธิ์ยังไม่มีงานวิจัยที่เพียงพอแสดงว่าสมุนไพรออกฤทธิ์อย่างไร ควรปรึกษาเภสัชกรด้านสมุนไพรหรือแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม มีงานวิจัยบ่งชี้ว่า Karaya-Gum บวมในลำไส้ ซึ่งกระตุ้นทางเดินลำไส้ให้ขับถ่าย ข้อควรระวังและคำเตือนสิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้ Karaya-Gum ปรึกษากับแพทย์ เภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหาก: คุณกำลังตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เนื่องจากในขณะที่คุณให้นมบุตรนั้น คุณควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น คุณกำลังใช้ยาอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงยาที่คุณสามารถซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งจากแพทย์ คุณมีอาการแพ้สารใน Karaya-Gum ยาอื่น ๆ หรืออาหารเสริมอื่น ๆ คุณมีโรคอื่น ๆ มีความผิดปกติหรือมีอาการที่แพทย์ระบุไว้ คุณมีประวัติการแพ้อื่น ๆ เช่นแพ้อาหาร แพ้สีผสมอาหาร แพ้สารกันบูด หรือแพ้เนื้อสัตว์ต่างๆ ข้อบังคับสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนั้น มีความเข้มงวดน้อยกว่ายาชนิดอื่นๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัย การใช้ผลิตภัณฑ์นี้ต้องมีประโยชน์มากกว่าที่จะเสี่ยงใช้ ควรปรึกษาแพทย์ของคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม Karaya-Gum ปลอดภัยหรือไม่การตั้งครรภ์และให้นมบุตร : ยังไม่มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือเพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้ Karaya-Gum ในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร เพื่อความปลอดภัยควรหลีกเลี่ยงการใช้ ผลข้างเคียงผลข้างเคียงที่อาจเกิดจาก Karaya-Gum เหมือนว่า Karaya-Gum […]


สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

อะแซรัม (Asarum)

การใช้ Asarumประโยชน์ของ Asarum มีอะไรบ้าง Asarum คือพืชชนิดหนึ่งซึ่งสามารถนำรากมาใช้เป็นยาได้ แม้จะมีข้อควรระวังเกี่ยวกับความปลอดภัย แต่ต้น Asarabacca นั้นสามารถช่วยในเรื่องของหลอดลมอักเสบ หลอดลมชัก และหอบหืดหลอดลม อีกทั้งยังลดอาการไอ โรคปอดบวม อาการเจ็บหน้าอก (หลอดเลือดหัวใจตีบ) ไมเกรน โรคตับและการขาดน้ำ บางคนยังใช้เพื่อให้อาเจียนอีกด้วย ส่วนในผู้หญิงมักใช้ให้มีประจำเดือนหรือใช้ในการขับเลือด     การทำงานของ Asarum เป็นอย่างไรมีการศึกษาเกี่ยวกับการทำงานของสมุนไพรชนิดนี้ที่ไม่เพียงพอนัก จึงจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลและนักสมุนไพรศาสตร์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม เป็นที่รู้กันว่าสารใน Asarum มีผลต่อปอดและบางสารใน Asarum ยังทำให้อาเจียนด้วย ข้อควรระวังและคำเตือนสิ่งที่ต้องรู้ก่อนการใช้ Asarum คืออะไรบ้าง ปรึกษาแพทย์ผู้ดูแล เภสัชกรหรือนักสมุนไพรศาสตร์ หากว่า : อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เนื่องจากระหว่างการตั้งครรภ์หรือช่วงให้นมบุตรนั้นควรจะใช้ยาภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น อยู่ในระหว่างการใช้ยาชนิดอื่น ซึ่งรวมถึงการใช้ยาที่สามารถหาซื้อได้เองโดยไม่ต้องใช้ใบสั่งยาจากแพทย์ มีอาการแพ้สารใดๆ ใน Asarum หรือแพ้ยาและสมุนไพรอื่นๆ มีอาการป่วย อาการผิดปกติของร่างกายหรือผลข้างเคียงจากยา มีอาการแพ้อื่นๆ เช่นแพ้อาหาร สีย้อม สารกันบูดหรือสัตว์ชนิดต่างๆ ข้อปฏิบัติในการใช้สมุนไพรนั้นมีความเข้มงวดที่น้อยกว่าการใช้ยารักษาโรค จำเป็นต้องมีการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมเพื่อรับรองความปลอดภัย ซึ่งการจะใช้ประโยชน์ของสมุนไพรนั้นต้องศึกษาความเสี่ยงก่อนใช้และควรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับแพทย์ผู้ดูแลหรือนักสมุนไพรศาสตร์ก่อน Asarum นั้นมีความปลอดภัยแค่ไหนAsarum นั้นปลอดภัยหากรับประทานในระยะสั้น ตราบเท่าที่ไม่มีการปนเปื้อนของสารที่เรียกว่า Aristolochic acid Asarum ที่ไม่มีการปนเปื้อนของ Aristolochic acid นั้นยังไม่ปลอดภัยหากรับประทานในปริมาณมากหรือระยะเวลาติดต่อกันนาน Asarum นั้นไม่ปลอดภัยเมื่อปนเปื้อน Aristolochic acid […]


สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

น้ำมันคาเจพุท หรือ น้ำมันเขียว (Cajeput Oil)

น้ำมันคาเจพุท หรือ น้ำมันเขียว (Cajeput Oil) ผลิตโดยการกลั่นด้วยไอน้ำจากใบสดและกิ่งไม้ของต้นคาเจพุท ใช้รักษาโรคหวัด อาการปวดฟัน เนื้องอก เป็นยาชูกำลัง การใช้ประโยชน์น้ำมันคาเจพุท หรือ น้ำมันเขียวน้ำมันคาเจพุท หรือ น้ำมันเขียว ใช้ทำอะไร น้ำมันคาเจพุท หรือ น้ำมันเขียว (Cajeput Oil)  ผลิตโดยการกลั่นด้วยไอน้ำจากใบสดและกิ่งไม้ของต้น คาเจพุท ละต้นเปเปอร์บาร์ก ใช้บำบัดรักษาอาการต่างๆ ดังนี้ โรคหวัด บรรเทาอาการปวดหัว บรรเทาอาการปวดฟัน เนื้องอก รักษาเสมหะ เป็นยาชูกำลัง โรคทางผิวหนัง เช่น การติดเชื้อรา กลากเกลื้อน โรคไขข้อ   การทำงานของน้ำมันคาเจพุท หรือ น้ำมันเขียวเป็นอย่างไรไม่มีข้อมูลทางการศึกษาเพียงพอเกี่ยวกับการใช้อาหารเสริมสมุนไพรนี้ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามมีการศึกษาบางส่วนแสดงให้เห็นว่าน้ำมันคาเจพุท หรือ น้ำมันเขียว ใช้บรรเทาอาการทางผิวหนัง ข้อควรระวังและคำเตือนเราควรรู้อะไรบ้างก่อนใช้น้ำมันคาเจพุท หรือ น้ำมันเขียว ปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษาหรือเภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร ในกรณีที่: ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เนื่องจากในขณะที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ควรจะได้รับยาตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น ใช้ยาชนิดอื่นอยู่ รวมถึงยาทุกชนิดที่ซื้อรับประทานเองโดยไม่มีใบสั่งยาจากแพทย์ แพ้สารจากน้ำมันเขียวหรือแพ้ยาชนิดอื่น หรือแพ้สมุนไพรชนิดอื่น มีอาการป่วย มีอาการผิดปกติ หรือมีพยาธิสภาพอื่นๆ มีอาการแพ้ต่างๆ เช่น แพ้อาหาร แพ้สีผสมอาหาร แพ้สารกันบูด หรือเนื้อสัตว์ ข้อปฏิบัติในการใช้สมุนไพรนั้นมีความเข้มงวดที่น้อยกว่าการใช้ยารักษาโรค จำเป็นต้องมีการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม เพื่อรับรองความปลอดภัย ซึ่งการจะใช้ประโยชน์ของสมุนไพรนั้นต้องศึกษาความเสี่ยงก่อนใช้และควรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับแพทย์ผู้ดูแลหรือนักสมุนไพรศาสตร์ก่อนใช้สมุนไพรนั้น น้ำมันคาเจพุท หรือ น้ำมันเขียวมีความปลอดภัยแค่ไหนไม่มีข้อมูลที่เชื่อถือได้เพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยในการรับประทานน้ำมันคาเจพุท หรือ น้ำมันเขียวในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เพื่อความปลอดภัย ควรหลีกเลี่ยงการใช้ สำหรับเด็ก น้ำมันคาเจพุท […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน