สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก เป็นสิ่งหนึ่งที่อยู่คู่กับวัฒนธรรมของไทยมาอย่างเนิ่นนาน Hello คุณหมอ จึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก มาให้ทุกท่านแล้ว ที่นี่

เรื่องเด่นประจำหมวด

สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

น้ำมันสะเดา กับคุณประโยชน์มากมาย แห่งการบำรุงผิวพรรณ

ส่วนใหญ่แล้ว ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบจากสมุนไพร มักให้ผลดีมากกว่าการใช้สารเคมี รวมไปถึง น้ำมันสะเดา นี้ด้วย เพราะน้ำมันสะเดาเป็นสิ่งที่ถูกสกัดจากพืชโดยตรงและผ่านกระบวนการกรอง ฆ่าเชื้อ แต่น้ำมันชนิดนี้จะมีประโยชน์ และวิธีใช้อย่างไรบ้างนั้น ติดตามได้ในบทความที่ Hello คุณหมอ นำมาฝากทุกคนในวันนี้กันได้เลยค่ะ ที่มาของ น้ำมันสะเดา แต่เดิมสะเดานิยมปลูกในประเทศเขตร้อน โดยผู้คนส่วนใหญ่ใช้เป็นสารขับไล่แมลง และศัตรูพืชทั่วไป ต่อมาก็ได้มีการพัฒนาปรับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของสะเดาให้เข้ากับยุคสมัยเรื่อย ๆ เช่น แชมพูสำหรับสัตว์เลี้ยง แชมพูกำจัดรังแค น้ำยาบ้วนปาก อาหารเสริม เครื่องสำอาง ครีม รวมไปถึงการนำเมล็ดจากต้นสะเดามาสกัดเป็นน้ำมันสะเดา เพื่อใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ เช่น ใช้เป็นน้ำมันบำรุงผิว น้ำมันสะเดา ช่วยบำรุงผิวด้านใดบ้าง เนื่องจากน้ำมันสะเดามีส่วนผสมมากมายที่ให้ประโยชน์แก่ผิว ไม่ว่าจะเป็น วิตามินอี สารต้านอนุมูลอิสระ แคลเซียม ไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) ลิโมนอยด์ (Limonoids) กรดไขมัน (EFA) ทำให้คุณนั้นมีสุขภาพผิวที่ดีขึ้น ดังนี้ รักษากลาก การเกิดสิว ลดรอยแผลเป็น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน รักษาผิวกร้านแห้ง และลดเลือนริ้วรอย โรคสะเก็ดเงิน ปัจจุบันมีงานศึกษาวิจัยมากมายเกี่ยวกับการใช้น้ำมันสะเดาบำรุงผิว โดยงานศึกษาวิจัยบางชิ้นระบุว่า น้ำมันสะเดาอาจมีส่วนช่วยในการชะลอริ้วรอย และรักษาสิวได้อย่างเห็นผล แต่จากการทดลองในสัตว์ เมื่อปี 2014 พบว่า น้ำมันสะเดาอาจไม่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ทางด้านการสร้างคอลลาเจน และกำจัดไฝ หูด […]

หมวดหมู่ สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก เพิ่มเติม

ยาสมุนไพร

สำรวจ สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

อิชิเนเซีย (Echinacea)

อิชิเนเซียใช้ทำอะไรอิชิเนเซียใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับรักษาอาการ เช่น หวัด การติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ การติดเชื้อราในช่องคลอด เอชไอวี / เอดส์ โรคติดเชื้อเอชพีวี  การติดเชื้อในกระแสเลือด (ภาวะโลหิตเป็นพิษ) ต่อมทอนซิลอักเสบ การติดเชื้อสเต็ปโตค็อกคัส (Streptococcus) โรคซิฟิลิส ไทฟอยด์ โรคมาลาเรีย การติดเชื้อที่หู ไข้หวัดหมู หูด โรคคอตีบ เครียด จำนวนเซลล์เม็ดเลือดขาวต่ำ อาการอ่อนเพลียเรื้อรัง (CFS) โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ไมเกรน ท้องผูก อาการปวด อาการเวียนศีรษะ พิษงู โรคสมาธิสั้น (Hyperactivity Disorder – ADHD) บางครั้งอิชิเนเซียใช้กับการรักษาโรคฝี โรคเหงือกฝี แผลผิวหนัง แผลพุพอง แผลไฟไหม้สะเก็ดเงิน แดดไหม้ เชื้อเริม เชื้อรา งูและยุงกัด และโรคริดสีดวงทวาร อิชิเนเซียอาจใช้สำหรับรักษาอาการอื่น ๆ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากแพทย์หรือเภสัชกร การออกฤทธิ์อิชิเนเซียอาจทำหน้าที่กระตุ้นสารเคมีในร่างกาย ลดการอักเสบซึ่งอาจช่วยลดอาการหวัด และอาการไข้ได้ การวิจัยในห้องปฏิบัติการแสดงให้เห็นว่า อิชิเนเซียสามารถกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ แต่ไม่มีหลักฐานกับมนุษย์ อิชิเนเซียอาจมีสารเคมีบางชนิดที่สามารถทำลายยีสต์และเชื้อราชนิดอื่น ๆ ได้โดยตรง กรุณาปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม ข้อควรระวังและคำเตือนสิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้อิชิเนเซีย ควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกร หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร ถ้า: กำลังตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เนื่องจากในขณะที่ให้นมบุตรนั้น ควรใช้ยาตามแพทย์สั่งเท่านั้น กำลังใช้ยาอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงยาที่สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งจากแพทย์ มีอาการแพ้สารในอิชิเนเซีย ยาอื่น ๆ หรืออาหารเสริมอื่น ๆ มีโรคอื่น ๆ มีความผิดปกติหรือมีอาการที่แพทย์ระบุไว้ คุณมีประวัติการแพ้อื่น ๆ เช่นแพ้อาหารแพ้สีผสมอาหาร แพ้สารกันบูดหรือแพ้เนื้อสัตว์ต่างๆ ข้อบังคับสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนั้น มีความเข้มงวดน้อยกว่ายาชนิดอื่นๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัย การใช้ผลิตภัณฑ์นี้ต้องมีประโยชน์มากกว่าที่จะเสี่ยงใช้ ควรปรึกษาแพทย์ของคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม อิชิเนเซียปลอดภัยหรือไม่การตั้งครรภ์: อิชิเนเซียอาจปลอดภัยเมื่อรับประทานในระยะสั้น มีหลักฐานว่า อิชิเนเซียอาจปลอดภัยเมื่อใช้ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ โดยไม่ทำอันตรายต่อทารกในครรภ์ แต่เพื่อความปลอดภัยควรหลีกเลี่ยงการใช้ และได้รับการยืนยันจากผลการวิจัยเพิ่มเติม การให้นมบุตร: ข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้อิชิเนเซียมีไม่เพียงพอ สำหรับคุณหากคุณอยู่ในช่วงให้นมบุตร […]


สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

พวงไข่มุก (Elderberry)

พวงไข่มุกเป็นพืช ที่ผลของมันใช้ทำยาใช้รักษา ไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัด H1N1 “สุกร” เอชไอวี / เอดส์ กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ปวดไซนัส ปวดหลังและขา (อาการเจ็บตะโพก) ปวดเส้นประสาท (โรคประสาท) โรคเหนื่อยล้าแบบเรื้อรัง (CFS) พวงไข่มุกใช้รักษาอาการโรคภูมิแพ้ (allergic rhinitis) โรคมะเร็ง แก้ท้องผูก ขับปัสสาวะ และเหงื่อ ผลพวงไข่มุกใช้ทำไวน์และเป็นอาหาร กลไกการออกฤทธิ์เนื่องจากยังมีงานวิจัยเกี่ยวกับพวงไข่มุกไม่มากพอ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ควรปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร แต่เป็นที่ทราบกันดีว่า พวงไข่มุกอาจมีผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน มีฤทธิ์ต้านไวรัสรวมถึงไข้หวัดและอาจช่วยลดการอักเสบได้ ข้อควรระวังและคำเตือนสิ่งที่ควรรู้ก่อนบริโภคพวงไข่มุก ปรึกษาแพทย์ เภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหาก: ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เนื่องจากในขณะให้นมบุตร ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น กำลังใช้ยาอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงยาที่สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งจากแพทย์ มีอาการแพ้สารในพวงไข่มุก ยาอื่น ๆ หรืออาหารเสริมอื่น ๆ มีโรคอื่น ๆ มีความผิดปกติหรือมีอาการที่แพทย์ระบุไว้ มีประวัติการแพ้อื่น ๆ เช่น แพ้อาหาร แพ้สีผสมอาหาร แพ้สารกันบูดหรือแพ้เนื้อสัตว์ต่าง ๆ ข้อกำหนดสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนั้น มีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อกำหนดยาชนิดอื่น ๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อ พวงไข่มุกปลอดภัยหรือไม่สารสกัดจากพวงไข่มุกอาจรับประทานได้อย่างปลอดภัยนานถึง 12 สัปดาห์ ยังไม่มีข้อมูลว่าสารสกัดจากพวงไข่มุกมีความปลอดภัยมากน้อยเพียงใดเมื่อใช้เป็นเวลานาน พวงไข่มุกอาจไม่ปลอดภัยหากบริโภคใบ ลำต้น ผลไม้ดิบ แต่มีความปลอดภัยหากประทานผลไม้ที่ผ่านการปรุงสุก ข้อควรระวังและคำเตือนพิเศษการตั้งครรภ์และให้นมบุตร: ไม่มีข้อมูลเรื่องความปลอดภัยในการใช้ พวงไข่มุกในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร เพื่อความปลอดภัยควรเลี่ยงการใช้ “โรคภูมิต้านทานตนเอง  (Autoimmune)” เช่น  โรคปลอกประสาทเสื่อแข็ง […]


สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

ถั่วแปบ (Hyacinth Bean)

การใช้ประโยชน์ ถั่วแปบถั่วแปบ ใช้สำหรับทำอะไร ถั่วแปบ (Hyacinth Bean) เป็นไม้เลื้อยที่ผลิตเมล็ดพันธุ์จำพวกถั่ว ส่วนประกอบต่างๆ ของพืชชนิดนี้ เช่น เมล็ด ฝัก ใบ ดอก และรากของถั่วแปบนั้นสามารถนำรับประทานได้ทุกส่วน เมล็ดของถั่วพันธุ์นี้ใช้สกัดเป็นยารักษาโรค รวมถึงป้องกันอาการท้องร่วง บำรุงม้ามกระเพาะอาหารที่ใช้ในการย่อยอาหาร สลายการแข็งตัวของเลือด และเผาผลาญของเหลวภายในร่างกายได้เป็นอย่างดี การทำงานของถั่วแปบเป็นอย่างไรยังมีการศึกษาไม่เพียงพอเกี่ยวกับวิธีการทำงานของถั่วแปบ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม แต่อย่างไรก็ตาม มีการค้นพบงานวิจัยที่บ่งชี้ว่าถั่วแปบอาจป้องกันการตั้งครรภ์ โดยการทำลายเยื่อเซลล์ภายในเยื่อบุมดลูก นอกจากนี้ยังเป็นยาต้านเชื้อรา และมีคุณสมบัติในการฆ่าแมลง ข้อควรระวังและคำเตือนเราควรรู้อะไรบ้างก่อนใช้ถั่วแปบ ควรปรึกษากับแพทย์และเภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรถ้ามีอาการหรือลักษณะ ดังต่อไปนี้ ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เนื่องจากในขณะที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรควรจะได้รับยาหรือสมุนไพรบำรุง ที่จัดจำหน่ายโดยแพทย์เท่านั้น อยู่ในระหว่างการใช้ยาหรือสมุนไพรอื่นๆ ร่วมด้วย รวมถึงยาทุกชนิดที่ซื้อรับประทานเองโดยไม่มีใบสั่งยาจากแพทย์ มีอาการแพ้สารที่มีส่วนประกอบของถั่วแปบหรือยาและสมุนไพรชนิดอื่น มีอาการเจ็บป่วย มีอาการผิดปกติ หรือมีโรคอื่นๆ แทรกซ้อน มีอาการแพ้ต่าง ๆ เช่นแพ้อาหาร สีผสมอาหาร สารกันบูด หรือเนื้อสัตว์ ข้อบังคับสำหรับผลิตภัณฑ์สมุนไพรเสริมอาหารนั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อบังคับของการใช้ยา จึงจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัยในการใช้ ประโยชน์ของการใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเสริมอาหารนี้จะต้องมีค่าน้ำหนักมากกว่าความเสี่ยง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ถั่วแปบมีความปลอดภัยแค่ไหนการรับประทานถั่วแปบแบบดิบในปริมาณที่มากเกินไปอาจเป็นอันตรายได้ เพราะถั่วแปบดิบประกอบด้วยสารเคมีที่เรียกว่า ไซยาโนจินิกไกลโคไซด์ (Cyanogenic glycosides) ซึ่งมีฤทธิ์เป็นพิษ สำหรับสตรีตั้งครรภ์ และอยู่ในช่วงให้นมบุตร : ควรหลีกเลี่ยงการใช้เพื่อความปลอดภัย เพราะถั่วแปบมีฤทธิ์ในการทำลายเนื้อเยื่อในมดลูกอาจเกิดการแท้งบุตรได้   ผลข้างเคียงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ถั่วแปบมีอะไรบ้าง ไม่มีข้อมูลที่เพียงพอเกี่ยวกับผลข้างเคียงของถั่วแปบ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับผลข้างเคียงใดๆ โปรดปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรก่อนใช้เสมอ ปฏิกิริยาระหว่างยาถั่วแปบอาจเกิดปฏิกิริยากับยาที่คุณกำลังใช้ร่วมด้วย อาจส่งผลกระทบกับการรักษาของคุณในปัจจุบัน ดังนั้น ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์ก่อนใช้เพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงที่รุนแรง ขนาดการใช้ข้อมูลนี้ไม่สามารถเป็นคำสั่งในการใช้ยาได้ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพรหรือแพทย์ก่อนการใช้ ปกติแล้วควรใช้ถั่วแปบในปริมาณเท่าใด ปริมาณการใช้ถั่วแปบ อาจแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละบุคคล โดยขึ้นอยู่กับช่วงอายุ สุขภาพและปัจจัยอื่นๆ การใช้ยาสมุนไพรนั้นไม่ได้มีความปลอดภัยเสมอไป […]


สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

ลินกอนเบอร์รี่ (Lingonberry)

สรรพคุณของลินกอนเบอร์รี่ลินกอนเบอร์รี่ใช้สำหรับ? ลินกอนเบอร์รี่ (Lingon berry) เป็นไม้พุ่มป่าดิบขนาดเล็ก ใบใช้ทำยาแก้ปัญหาทางเดินปัสสาวะ เช่น การระคายเคืองในท่อปัสสาวะ นิ่วในไต และการติดเชื้อ นอกจากนี้ ยังใช้เป็นยาขับปัสสาวะ นอกจากนี้ ลินกอนเบอร์รี่ยังใช้รักษาอาการอื่น ๆ เช่น โรคเกาต์ โรคข้ออักเสบ และการติดเชื้อที่เกิดจากไวรัส บางครั้ง ใบลินกอนเบอร์รี่ใช้แทนผลิตภัณฑ์จากแบร์เบอร์รี่ได้ การออกฤทธิ์ยังมีงานวิจัยเกี่ยวกับลินกอนเบอร์รี่ไม่มากพอ ควรปรึกษาแพทย์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม มีงานวิจัยบางชิ้นระบุว่า ลินกอนเบอร์รี่มีสารเคมีที่อาจช่วยฆ่าแบคทีเรียในปัสสาวะได้ ข้อควรระวังและคำเตือนสิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้ ลินกอนเบอร์รี ่ ปรึกษาแพทย์ เภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในกรณีที่  ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เนื่องจากในขณะให้นมบุตรนั้น ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น กำลังใช้ยาอื่นๆ รวมถึงยาที่สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งจากแพทย์ มีอาการแพ้สารในลินกอนเบอร์รี่ ยาอื่นๆ หรืออาหารเสริมอื่นๆ มีโรคอื่นๆ มีความผิดปกติหรือพยาธิสภาพอื่นๆ มีอาการแพ้อื่นๆ เช่น แพ้อาหาร สีผสมอาหาร สารกันบูด หรือเนื้อสัตว์ต่างๆ ข้อกำหนดสำหรับการใช้ผลิตภัณฑ์จากลินกอนเบอร์รี่นั้น มีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อกำหนดยาอื่นๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม เพื่อความปลอดภัย การใช้ผลิตภัณฑ์นี้ต้องมีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง ควรปรึกษาแพทย์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ลินกอนเบอร์รี่ปลอดภัยหรือไม่สารสกัดลินกอนเบอร์รี่เข้มข้น อาจปลอดภัยเมื่อรับประทานในปริมาณเหมาะสม เครื่องดื่มที่มีเครนเบอร์รี่และลินกอนเบอร์รี่ใช้ได้อย่างปลอดภัยนานถึง 6 เดือน การใช้ใบลินกอนเบอร์รี่อาจเป็นอันตรายต่อการใช้ในระยะยาวจากสารเคมีดังกล่าว แต่ไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะทราบว่า การใช้ใบลินกอนเบอร์รี่จะปลอดภัยในระยะสั้นหรือไม่ ข้อควรระวังและคำเตือนเด็ก : สารสกัดจากลินกอนเบอร์รี่อาจปลอดภัยสำหรับเด็ก เมื่อใช้รับประทานในปริมาณที่เหมาะสม เครื่องดื่มที่มีแครนเบอร์รี่และลินกอนเบอร์รี่สกัด อาจใช้ได้อย่างปลอดภัยนานถึง […]


ยาสมุนไพร

แคนดี้ทัฟท์ (Candytuft)

แคนดี้ทัฟท์ (Candytuft) เป็นสมุนไพรที่สามารถนำใบ ก้าน รากและเมล็ดมาทำเป็นยารักษาโรคได้ดังนี้ อาการจุกเสียดท้องภาวะลำไส้อักเสบ, กระเพาะอาหารอักเสบ เป็นต้น การใช้ประโยชน์แคนดี้ทัฟท์แคนดี้ทัฟท์ ใช้ทำอะไร แคนดี้ทัฟท์ (Candytuft) เป็นสมุนไพรที่สามารถนำใบ ก้าน รากและเมล็ดมาทำเป็นยารักษาโรคและอาการต่างๆได้ดังนี้ อาการจุกเสียดท้อง ภาวะลำไส้อักเสบ (IBS) กระเพาะอาหารอักเสบ ท้องอืด โรคข้อต่ออักเสบ โรคข้อรูมาตอยด์ (rheumatism) ภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน โรคหืด หลอดลมอักเสบ การทำงานของแคนดี้ทัฟท์เป็นอย่างไรเนื่องจากยังมีงานวิจัยเกี่ยวกับแคนดี้ทัฟท์ไม่มากพอ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามแคนดี้ทัฟท์สามารถช่วยลดอัตราการหดรัดตัวของลำไส้และทำให้อาหารสามารถเคลื่อนไปยังกระเพาะอาหารได้ดียิ่งขึ้น ข้อควรระวังและคำเตือนเราควรรู้อะไรบ้างก่อนใช้แคนดี้ทัฟท์ หากคุณมีคุณสมบัติหรืออาการตามด้านล่างนี้ควรปรึกษาเภสัชและผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรก่อนทาน ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร สิ่งที่สามารถทานได้ในช่วงนี้ควรมีแพทย์สั่งจ่ายยาเท่านั้น ทานยาอื่นๆอยู่ ที่ไม่ได้รับการสั่งจ่ายจากแพทย์ มีอาการแพ้สารในแคนดี้ทัฟท์ยาและสมุนไพรต่างๆ มีอาการไม่สบายหรือเจ็บป่วย มีอาการผิดปกติและแพ้ยา มีอาการแพ้อื่นๆ เช่น แพ้อาหาร สีผสมอาหาร สารกันบูด หรือเนื้อสัตว์ต่างๆ โดยทั่วไปแล้ว ข้อตกลงเกี่ยวกับสมุนไพรจะมีข้อจำกัดน้อยกว่ายารักษาโรค แต่ยังคงเน้นความปลอดภัยอ้างอิงโดยงานวิจัยต่างๆซึ่งข้อได้เปรียบของการทานสมุนไพรเสริมคือการทราบถึงความเสี่ยงอันตรายที่จะเกิดขึ้นก่อนการใช้จริง ทั้งนี้ทั้งนั้นควรปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร แคนดี้ทัฟท์มีความปลอดภัยแค่ไหนหากทานแคนดี้ทัฟท์ ในระยะเวลา 8 สัปดาห์ขึ้นไปจะดีกับสุขภาพของเรา ช่วงตั้งครรภ์และให้นมบุตร : ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดว่า การใช้แคนดี้ทัฟท์ จะมีผลต่อการตั้งครรภ์และให้นมบุตร ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงในการทานจะดีกว่า ผลข้างเคียงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้แคนดี้ทัฟท์มีอะไรบ้าง คลื่นไส้อาเจียน ท้องร่วง ผื่นตามผิวหนัง ผลข้างเคียงดังกล่าวอาจไม่เกิดกับทุกๆคน อาจมีผลข้างเคียงนอกจากข้อมูลด้านบนนี้ หากสงสัยเกี่ยวกับผลข้างเคียงเพิ่มเติม ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์   ปฏิกิริยาระหว่างยายาที่อาจเกิดปฏิกิริยากับแคนดี้ทัฟท์มีอะไรบ้าง แคนดี้ทัฟท์อาจทำปฏิกิริยากับยาที่กำลังใช้หรือส่งผลกระทบกับการรักษาในปัจจุบัน ดังนั้น ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร หรือแพทย์ก่อนใช้ ขนาดการใช้ข้อมูลนี้ไม่สามารถเป็นคำสั่งในการใช้ยาได้ ควรปรึกษานักสมุนไพรศาสตร์หรือแพทย์ก่อนการใช้ยาเสมอ ปกติแล้วควรใช้แคนดี้ทัฟในปริมาณเท่าใดสำหรับผู้ป่วยอาการจุกเสียด ผสมแคนดี้ทัฟกับสมุนไพรต่างๆในปริมาณ 1 มิลลิลิตร ทานวันละ 3 เวลา ตลอด 4 สัปดาห์ ผู้ป่วยแต่ละคนอาจใช้แคนดี้ทัฟในปริมาณที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับอายุ สุขภาพ และเงื่อนไขอื่น ๆ […]


สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

ราสเบอร์รี่แดง (Red Raspberry)

สรรพคุณของราสเบอร์รี่แดงราสเบอร์รี่แดง (Red Raspberry) คือพืชชนิดหนึ่ง จัดอยู่ในตระกูลเบอร์รี่ โดยผลและใบของราสเบอร์รี่แดงใช้ทำเป็นยามานานหลายศตวรรษ ใบราสเบอร์รี่แดงใช้รักษาอาการต่อไปนี้ รักษาโรคระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องร่วง รักษาโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด และไข้หวัดใหญ่ รักษาปัญหาเกี่ยวกับโรคหัวใจ เบาหวาน ภาวะขาดวิตามิน นอกจากนี้ยังใช้เป็นยาขับเหงื่อ ขับปัสสาวะ และผลิตน้ำดี บางครั้งใช้เพื่อบำบัดผิวและเลือดให้บริสุทธิ์ สำหรับผู้หญิง ใช้ราสเบอร์รี่เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดระหว่างมีประจำเดือน อาการเจ็บป่วยในตอนเช้าเนื่องจากการตั้งครรภ์ ป้องกันการแท้งบุตร และเพื่อคลอดบุตรได้ง่าย ราสเบอร์รี่แดง เมื่อทาบริเวณผิวหนังจะช่วยบรรเทาอาการผื่นคัน และรักษาอาการเจ็บคอ ราสเบอร์รี่แดงสามารถรับประทานได้และนำไปทำเป็นแยม และอาหารอื่นๆ ใบราสเบอร์รี่แดงใช้เป็นรสชาติอาหารที่เป็นธรรมชาติ โดยใช้ปริมาณที่น้อย กลไกการออกฤทธิ์เนื่องจากยังมีงานวิจัยเกี่ยวกับราสเบอร์รี่แดง  ไม่มากพอ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี อย่างที่ทราบกันว่า สารเคมีในราสเบอร์รี่แดงมีสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยผ่อนคลายหลอดเลือดและกล้ามเนื้อ   ในทางทฤษฎีการใช้ราสเบอร์รี่แดงช่วยให้คลอดบุตรได้ง่าย   ข้อควรระวังและคำเตือนสิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้ ราสเบอร์รี่แดง ปรึกษาแพทย์ เภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในกรณีที่ ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เนื่องจากในขณะให้นมบุตรนั้น ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น กำลังใช้ยาอื่นๆ รวมถึงยาที่สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งจากแพทย์ มีอาการแพ้สารราสเบอร์รี่แดง ยาอื่นๆ หรืออาหารเสริมอื่นๆ มีโรคอื่นๆ มีความผิดปกติหรือพยาธิสภาพอื่นๆ มีอาการแพ้อื่นๆ เช่น แพ้อาหาร สีผสมอาหาร สารกันบูดหรือเนื้อสัตว์ต่างๆ ข้อกำหนดสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารราสเบอร์รี่แดงนั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อกำหนดยาอื่น ๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัย การใช้ผลิตภัณฑ์นี้ต้องมีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง ควรปรึกษาแพทย์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ราสเบอร์รี่แดงปลอดภัยหรือไม่ผลราสเบอร์รี่อาจจะปลอดภัยเมื่อใช้รับประทาน สามารถทานได้ในปริมาณมากเพื่อใช้เป็นยารักษา ข้อควรระวังและคำเตือนช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร : ราสเบอร์รี่แดงปลอดภัยสำหรับการรับประทานเป็นอาหารในช่วงมีครรภ์ ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ ราสเบอร์รี่แดงมักใช้เพื่อช่วยในการคลอดบุตรได้ง่าย ยังมีข้อกังวลว่า ราสเบอร์รี่แดงมีประสิทธิภาพคล้ายกับฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อครรภ์ ไม่มีข้อมูลชัดเจนเกี่ยวกับการใช้ ราสเบอร์รี่แดงในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร […]


สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

ยี่โถ (Oleander)

สรรพคุณของยี่โถยี่โถคือพืชชนิดหนึ่ง แม้จะมีฤทธิ์อันตราย แต่เมล็ดและใบของยี่โถสามารถใช้รักษาอาการต่อไปนี้: อาการของโรคหัวใจ โรคหืด โรคลมบ้าหมู โรคมะเร็ง อาการปวดประจำเดือน โรคเรื้อน ไข้มาลาเรีย กลากเกลื้อน อาการอาหารไม่ย่อย กามโรค ภาวะหัวใจล้มเหลว โรคผิวหนัง (เมื่อใช้ยี่โถทาบริเวณผิวหนัง) ยี่โถงอาจทำให้เกิดอาการเสี่ยง แท้ง อย่างไรก็ตามควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนใช้ยี่โถ ยี่โถอาจสามารถใช้รักษาอาการอื่นๆ ได้ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมควรปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์   กลไกการออกฤทธิ์ยี่โถประกอบด้วยสารเคมีหลายชนิด แต่ละชนิดมีคุณสมบัติเฉพาะตัว ดังนี้: ไกลโครไซด์: มีผลต่อหัวใจและอาจทำให้อัตราการเต้นของหัวใจลดลง   สารที่เป็นพิษ:  สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันด้วยวิธีต่อไปนี้: ยายับยั้งการสร้างหลอดเลือดเลี้ยงเซลล์มะเร็ง สารยับยั้ง NF-kB ในเซลล์มะเร็ง สาเหตุกระบวนการตายของเซลล์โดยธรรมชาติ สาเหตุและเพิ่มระดับการกลืนกินตัวเองของเซลล์ที่ตายแล้ว เมื่อทดสอบในโรคมะเร็งตับอ่อน รัฐบาลแอฟริกาใต้กำลังรับรองการใช้สารสกัดยี่โถสำหรับใช้รักษาผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี บางการศึกษากล่าวว่า สารสกัดยี่โถสามารถรักษาผู้ป่วยมะเร็งได้ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม   ข้อควรระวังและคำเตือนสิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้ยี่โถ   ปรึกษาแพทย์ เภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในกรณีที่: หญิงมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เนื่องจากในระหว่างการมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตรจึงควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น อยู่ในระหว่างรับประทานยาชนิดอื่น รวมไปถึงยาที่สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องใช้ใบสั่งยา หากเคยมีประวัติแพ้ยาชนิดใดชนิดหนึ่งของยี่โถหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่นๆ หากมีอาการเจ็บป่วย ความผิดปกติ หรือสภาพทางการแพทย์อื่นๆ หากเคยมีประวัติการแพ้ต่างๆ แพ้อาหาร แพ้สีผสมอาหาร แพ้สารกันบูด หรือแพ้เนื้อสัตว์ ข้อกำหนดสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารยี่โถนั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อกำหนดยาอื่น ๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัย การใช้ผลิตภัณฑ์นี้ต้องมีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง ควรปรึกษาแพทย์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ยี่โถปลอดภัยหรือไม่สำหรับเด็ก: การรับประทานใบยี่โถ ชาใบยี่โถ หรือเมล็ดยี่โถ อาจเป็นพิษถึงแก่ชีวิตได้ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทาน ช่วงตั้งครรภ์และให้นมบุตร: ไม่มีข้อมูลชัดเจนเกี่ยวกับการใช้ยี่โถในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร ควรเลี่ยงการใช้เพื่อความปลอดภัย ผลข้างเคียงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ยี่โถ รู้สึกแสบร้อนในปาก คลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดท้อง ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจร้ายแรง การรับประทานใบยี่โถ ชาใบยี่โถ หรือเมล็ดยี่โถ อาจเป็นพิษถึงแก่ชีวิตได้ ในบางราย อาจได้รับผลข้างเคียงบางอย่างที่ไม่ได้ระบุไว้ข้างต้น หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับผลข้างเคียงใด ๆ โปรดปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรก่อนใช้ยี่โถ ปฏิกิริยาระหว่างยายี่โถอาจมีปฏิกิริยาระหว่างยาหรือพยาธิสภาพปัจจุบัน ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรก่อนใช้ ผลิตภัณฑ์ที่อาจมีปฏิกิริยาระหว่างกับยี่โถ ได้แก่: ยาปฏิชีวนะ มีข้อกังวลว่ายาปฏิชีวนะบางชนิดอาจเพิ่มปริมาณการดูดซึมยี่โถ และอาจเพิ่มความเสี่ยงของผลข้างเคียงมากขึ้น ยาปฏิชีวนะ เช่น  อิริโทรมัยซิน อะซิโธรมัยซิน คลาริโทรมัยซิน เดเมโคลไซคลีน มิโนไซคลีน และเตตราไซคลีน ไดจอกซีน การใช้ยี่โถร่วมกับยาไดจอกซีอาจเพิ่มความเสี่ยงของผลข้างเคียงมากขึ้น ควินิน ยี่โถและควินิน […]


สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

ไพเจียม (Pygeum)

การใช้ไพเจียม ใช้ทำอะไร? ไพเจียม เป็นพืชชนิดหนึ่ง คนนิยมนำเปลือกมาใช้เป็นยาสำหรับรักษาโรคหรืออาการต่อไปนี้: โรคต่อมลูกหมากโต (benign prostatic hyperplasia, BPH) มะเร็งต่อมลูกหมาก แผลอักเสบ โรคไต ปัสสาวะปัญหา ไข้มาลาเรีย ปวดท้อง เป็นไข้ ความต้องการทางเพศ ต่อมลูกหมากอักเสบ อาการทางจิต จำเป็นต้องมีหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อประเมินประสิทธิภาพของไพเจียมสำหรับการใช้งานเหล่านี้ ไพเจียมอาจมีสรรพคุณนอกเหนือจากนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากแพทย์หรือเภสัชกร ไพเจียม ทำงานอย่างไร?ยังมีการศึกษาไม่เพียงพอเกี่ยวกับการทำงานของผลิตภัณฑ์สมุนไพรเสริมอาหาร กรุณาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม มีการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าไพเจียมมีสารเคมีบางชนิดอยู่ เช่น ไตรเทอร์พีน (14%): กรดโอลีนโนลิก (oleanolic acid), กรดคราเทโกลิค (crataegolic acid) และกรดอัวโซลิค (ursolic acid) กรดเฟอรูลิก (Ferulic acid) ไฟโตสเตอรอล (Phytosterols): เบต้า-ซิโตสเตอรอล (beta-sitosterol), เบต้า-ซิโตสเตอโรน (beta-sitosterone) และ แคมเปสตอรอล (campesterol) แทนนิน (Tannins) สารเคมีเหล่านี้ช่วยลดอาการของโรคต่อมลูกหมาก, ลดปัญหาทางเดินปัสสาวะ เช่น การไหลเวียนของปัสสาวะไม่ดีและการถ่ายปัสสาวะในเวลากลางคืนในผู้ชายที่เป็นโรคต่อมลูกหมากโต ข้อควรระวังและคำเตือนควรรู้อะไรก่อนที่จะใช้ไพเจียม? ควรปรึกษากับแพทย์, เภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรถ้ามีอาการหรือลักษณะดังต่อไปนี้: กำลังตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เนื่องจากในระหว่างการมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตรจึงควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น อยู่ในระหว่างการใช้ยาชนิดอื่น รวมไปถึงยาที่สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องใช้ใบสั่งยา มีอาการแพ้สารใดๆที่มีสารประกอบของไพเจียมผสมยู่ หรือยาและสมุนไพรอื่นๆ มีอาการเจ็บป่วย ความผิดปกติ หรือพยาธิสภาพอื่นๆ มีอาการแพ้ เช่น แพ้อาหาร สีผสมอาหาร สารกันบูด หรือเนื้อสัตว์ ข้อบังคับสำหรับผลิตภัณฑ์สมุนไพรเสริมอาหารนั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อบังคับของการใช้ยา จึงจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัยในการใช้ ประโยชน์ของการใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเสริมอาหาร จะต้องมีค่าน้ำหนักมากกว่าความเสี่ยง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ไพเจียมปลอดภัยแค่ไหน?เด็ก: ห้ามใช้ไพเจียมกับเด็ก หญิงมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร: ยังมีข้อมูลที่เชื่อถือได้ไม่เพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยในการบริโภคไพเจียมระหว่างให้นมบุตร ควรอยู่ในด้านความปลอดภัยและหลีกเลี่ยงการใช้ ผลข้างเคียงผลข้างเคียงจากไพเจียมมีอะไรบ้าง? โดยทั่วไปแล้วไพเจียมปลอดภัยกับคนส่วนใหญ่เมื่อใช้ในขนาดที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม […]


สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

รากมาคา (Maca Root)

สรรพคุณของรากมาคารากมาคา (Maca Root) เป็นพืชล้มลุกที่ปลูกกันในภาคกลางของเปรู บนที่ราบสูงเทือกเขาแอนดีส รากมาคาใช้ทำเป็นยา รากมาคาใช้รับประทานสด ๆ เพื่อ  รักษาโรคโลหิตจาง รักษาโรคเหนื่อยล้าแบบเรื้อรัง (CFS) ช่วยเพิ่มพลังความแข็งแกร่ง ความสามารถในการกีฬา และความจำ ช่วยปรับความไม่สมดุลของฮอร์โมนเพศหญิง ปัญหาประจำเดือน อาการของวัยหมดประจำเดือน ช่วยปรับปรุงภาวะเจริญพันธุ์และความผิดปกติทางเพศที่เกิดจากยารักษาอาการซึมเศร้า โรคกระดูกพรุน ภาวะซึมเศร้า มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งเม็ดเลือดขาว เอชไอวี / เอดส์ วัณโรค การหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (ED) และเพื่อเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน กลไกการออกฤทธิ์เนื่องจากยังมีงานวิจัยเกี่ยวกับลินเดนไม่มากพอ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบกันดีว่า รากมาคามีสารเคมีหลายชนิด รวมทั้งกรดไขมัน และกรดอะมิโน ข้อควรระวังและคำเตือนสิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้ รากมาคา ปรึกษาแพทย์ เภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในกรณีที่ ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เนื่องจากในขณะให้นมบุตรนั้น ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น กำลังใช้ยาอื่นๆ รวมถึงยาที่สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งจากแพทย์ มีอาการแพ้สารในรากมาคา ยาอื่นๆ หรืออาหารเสริมอื่นๆ มีโรคอื่นๆ มีความผิดปกติหรือพยาธิสภาพอื่นๆ มีอาการแพ้อื่นๆ เช่น แพ้อาหาร สีผสมอาหาร สารกันบูดหรือเนื้อสัตว์ต่างๆ ข้อกำหนดสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในรากมาคานั้น มีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อกำหนดยาอื่นๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัย การใช้ผลิตภัณฑ์นี้ต้องมีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง ควรปรึกษาแพทย์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม รากมาคาปลอดภัยหรือไม่รากมาคาปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่เมื่อรับประทานในขนาดที่พบในอาหาร ไม่ควรทานรากมาคา 3 กรัมต่อวัน นาน 4 เดือน […]


สมุนไพรและการแพทย์ทางเลือก

แคนาดา บัลซัม (Canada Balsam)

แคนาดา บัลซัม (Canada Balsam) ใช้รักษาอาการต่างๆ ดังนี้ โรคหัวใจ,โรคมะเร็ง,การบวมของเยื่อบุต่างๆ, ใช้ทาผิวหนังโดยตรงเพื่อรักษาริดสีดวงได้ การใช้ประโยชน์แคนาดา บัลซัมแคนาดา บัลซัม (Canada Balsam) ใช้รักษาอาการดังต่อไปนี้ บาดแผลเพลิงไหม้น้ำร้อนลวก อาการเจ็บหรือปวดต่างๆ (Sores) บาดแผลจากของมีคม เนื้องอกต่างๆ โรคหัวใจและมีอาการเจ็บหน้าอก โรคมะเร็ง เป็นหวัด มีอาการไอ มีหูด มีบาดแผลต่างๆ เป็นยาบรรเทาอาการปวด ใช้ทาผิวหนังโดยตรงเพื่อรักษาริดสีดวงได้ การทำงานของแคนาดา บัลซัมเป็นอย่างไรเนื่องจากยังมีงานวิจัยเกี่ยวกับแคนาดา บัลซัม ไม่มากพอหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามแคนาดา บัลซัมท์สามารถทาที่ผิวหนังโดยตรงเพื่อการรักษาริดสีดวงหรือฆ่าเชื้อโรคได้ ข้อควรระวังและคำเตือนเราควรรู้อะไรบ้างก่อนใช้ แคนาดา บัลซัม หากคุณมีคุณสมบัติหรืออาการตามด้านล่างนี้ควรปรึกษาเภสัชและผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรก่อนทาน ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร สิ่งที่สามารถทานได้ในช่วงนี้ควรมีแพทย์สั่งจ่ายยาเท่านั้น ทานยาอื่นๆอยู่ ที่ไม่ได้รับการสั่งจ่ายจากแพทย์ มีอาการแพ้สารในแคนาดา บัลซัมยาและสมุนไพรต่างๆ มีอาการไม่สบายหรือเจ็บป่วย มีอาการผิดปกติและแพ้ยา มีอาการแพ้อื่นๆ เช่น แพ้อาหาร สีผสมอาหาร สารกันบูด หรือเนื้อสัตว์ต่างๆ โดยทั่วไปแล้ว ข้อตกลงเกี่ยวกับสมุนไพรจะมีข้อจำกัดน้อยกว่ายารักษาโรค แต่ยังคงเน้นความปลอดภัยอ้างอิงโดยงานวิจัยต่าง ๆ ซึ่งข้อได้เปรียบของการทานสมุนไพรเสริมคือการทราบถึงความเสี่ยงอันตรายที่จะเกิดขึ้นก่อนการใช้จริง ทั้งนี้ทั้งนั้นควรปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร แคนาดา บัลซัมมีความปลอดภัยแค่ไหน ช่วงตั้งครรภ์และให้นมบุตร เนื่องจากยังมีข้อมูลไม่เพียงพอด้านความปลอดภัยในการใช้สมุนไพรชนิดนี้ในระหว่างมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์ของท่านเสมอเพื่อประเมินคุณประโยชน์และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นก่อนการใช้ สำหรับเด็ก (ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี): ยังมีข้อมูลไม่เพียงพอในด้านความปลอดภัยต่อการใช้แคนาดา บัลซัมในเด็ก ผลข้างเคียงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้แคนาดา บัลซัมมีอะไรบ้าง คลื่นไส้อาเจียน ภูมิแพ้ผิวหนัง ผลข้างเคียงดังกล่าวอาจไม่เกิดกับทุกๆคน อาจมีผลข้างเคียงนอกจากข้อมูลด้านบนนี้ หากสงสัยเกี่ยวกับผลข้างเคียงเพิ่มเติม ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์   ปฏิกิริยาระหว่างยายาที่อาจเกิดปฏิกิริยากับแคนาดา บัลซัมมีอะไรบ้าง แคนาดา บัลซัมอาจทำปฏิกิริยากับยาที่กำลังใช้หรือส่งผลกระทบกับการรักษาในปัจจุบัน ดังนั้น ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร หรือแพทย์ก่อนใช้ ขนาดการใช้ข้อมูลนี้ไม่สามารถเป็นคำสั่งในการใช้ยาได้ ควรปรึกษานักสมุนไพรศาสตร์หรือแพทย์ก่อนการใช้ยาเสมอ ปกติแล้วควรใช้แคนาดา บัลซัมในปริมาณเท่าใด การให้ยาทางปาก: สำหรับผู้ปวยมีอาการกระเพาะอาหารอักเสบ  รับประทานชาแคนาดา บัลซัม 3 […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน