การ สวดมนต์ ถือว่าเป็นพิธีกรรมทางศาสนาพุทธที่ปฏิบัติสืบเนื่องมาตั้งแต่ในสมัยพุทธกาล เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้ศึกษาหลักธรรมในรูปแบบของการสวดมนต์ นอกจากนี้เสียงที่เปล่งออกมาขณะนั่งสวดมนต์ยังส่งผลดีต่อสุขภาพอีกด้วย แต่จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างไรบ้างนั้น ติดตามอ่านได้ในบทความ Hello คุณหมอ ค่ะ
สวดมนต์ พุทธคุณบำบัดจิตใจ
การ สวดมนต์ ในทางศาสนพุทธ หรือทางภาษาธรรมที่เรียกว่า พุทธวจนะ คือการสวดมนต์เพื่อถ่ายทอดหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า หากเราสวดมนต์เป็นประจำทุกวันเช้า-เย็น ไม่เพียงแต่ส่งผลดีทางด้านสุขภาพจิตใจ แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพกายอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม การสวดมนต์ของทุกศาสนา ถือได้ว่าเป็นการประกอบพิธีกรรมที่มีมาตั้งแต่ในสมัยบรรพบุรุษสืบเนื่องต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน โดยอานิสงส์ของการสวดมนต์นั้นไม่ว่าจะในศาสนาไหนก็ส่งผลดีต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจ เช่น ฝึกสมาธิ บำรุงสุขภาพหัวใจ ปรับสมดุลระบบการหายใจ ช่วยบรรเทาความวิตกกังวล ความเศร้า ช่วยส่งเสริมสภาพจิตใจ เป็นต้น
สวดมนต์บำบัดสุขภาพกาย-สุขภาพใจ
ดร.นพ.ธวัชชัย อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า การสวดมนต์นั้น ถือเป็นทางออกอย่างหนึ่งที่จะบำบัดโรคได้ ซึ่งการสวดมนต์นั้นไม่ได้เพียงแต่จะช่วยบำบัดทางด้านสุขภาพใจแต่ยังบำบัดทางด้านสุขภาพกายได้เป็นอย่างดี
การสวดมนต์บำบัด คือหลักการหนึ่งของ Vibrational Therapy เป็นการใช้คุณสมบัติของคลื่นเสียงบางคลื่นที่มีความสม่ำเสมอมาบำบัดความเจ็บป่วย หากสวดมนต์ 10-15 นาทีขึ้นไป จะทำให้ร่างกายหลั่งสารซีโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่มีคุณสมบัติ ช่วยควบคุมความหิว ควบคุมอารมณ์
อย่างไรก็ตาม ได้มีผลการศึกษา การวิจัยที่ระบุว่า หลักการของ Vibrational Therapy ในการสวดมนต์ สามารถช่วยบำบัดสุขภาพได้เป็นที่น่าพอใจ เช่น รักษาโรคหัวใจขาดเลือด ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง ภาวะเครียด ซึมเศร้า เป็นต้น
เคล็ดลับในการสวดมนต์
เคล็ดลับในการสวดมนต์ มีดังต่อไปนี้
หลีกเลี่ยงการสวดมนต์หลังรับประทานอาหารเสร็จทันที ควรทิ้งช่วงให้ร่างกายผ่อนคลาย (เวลาที่เหมาะสมคือช่วงเช้าและก่อนเข้านอน) สถานที่ที่ใช้ในการสวดมนต์ ควรเป็นสถานที่ที่สงบ จากบทความดังกล่าวข้างต้น จะเห็นได้ว่าอานุภาพของการสวดมนต์นั้นมีมากมายจริง ๆ แต่ถึงแม้ว่าการสวดมนต์จะมีคุณประโยชน์มากเพียงใด เราก็ต้องปฏิบัติตั้งอยู่ในความสม่ำเสมอและพอดี เช่น เลือกสวดมนต์ในเวลาและสถานที่ที่เหมาะสม ไม่เคร่งครัดตัวเองมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้
ทั้งนี้ ยังไม่มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์สากล ที่ยืนยันว่าการสวดมนต์สามารถบำบัดสุขภาพกายและใจได้ ตามหลักวิทยาศาสตร์ แต่ในต่างประเทศได้มีงานวิจัยที่ใกล้เคียงกัน ที่น่าจะเป็นต้นแบบในงานวิจัยเกี่ยวกับประโยชน์ของการสวดมนต์ต่อร่างกายในอนาคตต่อไป
มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในเวบไซต์ PLoS One ในปี ค.ศ. 2017 กล่าวว่าผู้ที่เข้าโบสถ์เป็นประจำ มีอัตราการเสียชีวิตน้อยกว่าผู้ที่ไม่ค่อยได้เข้าโบสถ์ถึง 55% โดยติดตามวัดผลเป็นเวลาถึง 18 ปี
และงานวิจัยในเวบไซต์ JAMA Internal Medicine ในปี ค.ศ. 2016 กล่าวว่าหญิงที่ไปโบสถ์อย่างต่ำสัปดาห์ละครั้ง มีอัตราการเสียชีวิตน้อยกว่าผู้หญิงที่ไม่ค่อยได้เข้าโบสถ์ถึง 33% โดยติดตามวัดผลเป็นเวลาถึง 16 ปี