ผู้ที่รักการแชทเป็นชีวิตจิตใจพึงระวังให้ดี เพราะตอนนี้กำลังมีโรคแปลกใหม่กำลังคุกคามเข้ามา สำหรับผู้ที่ติดสมาร์ทโฟนอย่างหนัก ทั้งวัน ทั้งคืน เรียกกันว่า โรคละเมอแชท ฟังผ่านๆ อาจจะยังไม่ค่อยรู้สึกถึงอันตรายเท่าไหร่นัก ดังนั้น Hello คุณหมอจึงขออาสาพาทุกคนมารู้จัก และวิธีแก้ไขกัน
โรคละเมอแชท (Sleep Texting) ภัยเงียบที่ทุกคนควรรู้ไว้
เมื่อตื่นมาจากการนอนหลับส่วนใหญ่เรามักจะจับโทรศัพท์เป็นอย่างแรก แต่พอลองเช็กข้อความดูกลับพบว่า ข้อความบางอย่างได้ถูกส่งไปโดยที่เราไม่รู้ตัว ทางการแพทย์นิยามอาการนี้ว่า
โรคละเมอแชท (Sleep Texting) ซึ่งเกิดมาจากการติดสมาร์ทโฟนมากเกินไป ใช้ในการแชท หรือส่งข้อความ แม้กระทั่งถึงเวลาที่คุณจวนจะนอนพักก็ยังไม่ละเว้นที่จะปล่อยโทรศัพท์ไว้ไม่ให้ห่างจากตัว นานวันเข้าจึงทำเกิดอาการละเมอแชทขึ้น โดยผู้ที่มีอาการละเมอแชทนั้นจะอยู่ในสภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่น และถูกกระตุ้นการตอบสนองของสมอง ด้วยการลุกขึ้นมาส่งข้อความตอบกลับจากการได้ยินเสียงแจ้งเตือน หรือการสั่นสะเทือนจากสมาร์ทโฟนด้วยความเคยชินทันที
จากการศึกษาที่เชื่อถือได้ของการใช้เทคโนโลยี และการนอนหลับ ในปี 2013 นักวิจัยพบว่า 10 % ของผู้เข้าร่วมทดลองมีอาการเข้าข่ายที่จะเป็นโรคละเมอแชท เพราะพวกเขาได้เผลอกดส่งข้อความโดยไม่จำเป็น และมีอาการสะดุ้งตื่นทำให้นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ อย่างน้อย 2-3 คืน ต่อสัปดาห์เลยทีเดียว
เช็กด่วน คุณมีอาการสุ่มเสี่ยงที่จะเป็นโรคละเมอแชทหรือเปล่า ?!
ภัยเงียบจากโรคละเมอแชทอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย ทำให้คุณนั้นพักผ่อนไม่เพียงพอ รู้สึกเหนื่อยง่ายไม่มีแรงในการที่จะทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน และยังรวมถึงอาการ หรือพฤติกรรมเหล่านี้ปะปนอีกด้วย
- มีความตึงเครียด หรือวิตกกังวลเป็นเวลาหลายคืน
- การเปลี่ยนแปลงเวลานอนหลับอย่างไม่สม่ำเสมอ
- มีไข้ร่วมด้วยเล็กน้อย
- อดหลับอดนอนเป็นเวลานานติดกัน
- การนอนหลับโดยมีสิ่งรบกวนรอบข้าง
- การใช้ยากล่อมประสาทร่วม
- ความผิดปกติของการหายใจ
แก้ไขพฤติกรรมซะ ถ้าไม่อยากเสียสุขภาพเพราะโรคละเมอแชท
การศึกษาในปี 2015 จากแหล่งข้อมูลของประเทศนอร์เวย์ พบว่าการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งกลางวัน และก่อนนอนในกลุ่มวัยรุ่นมีความสัมพันธ์กับมาตรการการนอนหลับ ที่ส่งผลให้ระยะเวลาการพักผ่อนที่สั้นลงขาดความสมดุลในการนอน และมีผลต่อการทำงานของระบบประสาทของสมอง ซึ่งสามารถป้องกันโรคละเมอแชทได้ง่ายๆ โดยเริ่มจากตัวของคุณ คือ…
- ปิดเสียงสมาร์ทโฟน หรือวางให้ห่างตัวเมื่อจะเข้านอน
- ฝึกพฤติกรรมหลีกเลี่ยงการใช้สมาร์ทโฟนเมื่อถึงเวลาใกล้เข้านอน
- ปิดเสียงแจ้งเตือนจากโซเชี่ยลต่างๆ ที่คุณกำลังส่งข้อความ
- รักษากิจวัตรการนอน หรือเวลาเข้านอนให้สม่ำเสมอ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด