แปรงสีฟัน เลือกให้ถูกต้อง เพื่อสุขภาพฟันที่ดี

แปรงสีฟัน เป็น หนึ่งในอุปกรณ์ดูแลสุขภาพช่องปากที่สำคัญในการทำความสะอาดฟัน แต่หากเลือกแปรงสีฟันที่ไม่เหมาะกับลักษณะของช่องปาก เช่น หัวแปรงใหญ่เกินไป เล็กเกินไป ขนแปรงแข็งเกินไป อาจส่งผลกระทบต่อเหงือกและฟันเช่น เสียวฟัน เหงือกร่น ดังนั้นการเลือกแปรงสีฟันให้เหมาะสมจึงเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ และใส่ใจ

สาเหตุของปัญหาในช่องปาก

สาเหตุที่ทำให้เหงือกและฟันมีปัญหาอาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น 

• พันธุกรรมจากบุคคลในครอบครัว ลักษณะทางพันธุกรรมบางอย่างที่ถ่ายทอดกันมาภายในครอบครัว อาจทำให้เกิดโรคเหงือก
• การดูแลสุขภาพช่องปากไม่ดี เช่น ไม่พบทันตกรรมอย่างสม่ำเสมอ 
• การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น สตรีมีครรภ์ วัยหมดประจำเดือน 
• การเลือกใช้แปรงสีฟันที่ไม่เหมาะสม เช่น การใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงแข็ง 

สิ่งเหล่านี้อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาเหงือกร่น เหงือกอักเสบ และยังอาจเป็นตัวการในการสะสมเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เกิดหินปูน ฟันห่าง โรคปริทันต์ 

การเลือกแปรงสีฟันที่เหมาะสม ควรทำอย่างไร

การใช้แปรงสีฟันที่ด้อยคุณภาพ อาจทำให้ไม่มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดช่องปากได้เพียงพอ และยังอาจส่งผลกระทบหากใช้แปรงสีฟันที่มีขนแข็ง เช่น ฟันสึก ระคายเคืองเหงือก เหงือกร่น  ดังนั้นการเลือกใช้แปรงสีฟัน อาจสามารถทำได้ดังต่อไปนี้ 

การใช้แปรงสีฟันที่ด้อยคุณภาพ อาจทำให้ไม่มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดช่องปากได้เพียงพอ และยังอาจส่งผลกระทบหากใช้แปรงสีฟันที่มีขนแข็ง เช่น ฟันสึก ระคายเคืองเหงือก เหงือกร่น  ดังนั้นการเลือกใช้แปรงสีฟัน อาจสามารถทำได้ดังต่อไปนี้ 

• ขนาดของหัวแปรงสีฟัน

 ขนาดของหัวแปรงสีฟันควรมีขนาดพอเหมาะกับช่องปากไม่เล็ก ไม่ใหญ่ ซึ่งควรมีขนาดความกว้างครึ่งนิ้ว สูงหนึ่งนิ้ว และด้ามจับควรยาวพอเหมาะ จับได้ถนัดมือ 

• ขนแปรง

แปรงสีฟันควรมีขนแปรงที่อ่อนนุ่ม จนถึงระดับนุ่มปานกลาง เพื่อลดการทำอันตรายต่อผิวฟัน และขอบเหงือก หากรู้สึกเจ็บบริเวณเหงือก ควรหยุดและลองเปลี่ยนแปรงสีฟันใหม่ เพราะขนแปรงที่แข็งอาจไปทำลายสารเคลือบฟัน และหากฝืนใช้อาจทำให้เหงือกอักเสบ เหงือกร่น มีเลือดออกตามไรฟัน

หากไม่อยากใช้แปรงสีฟันแบบเดิม อาจใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าที่สามารถลดคราบจุลินทรีย์ และแบคทีเรีย โดยระบบของแปรงจะทำงานด้วยวิธีบังคับหัวแปรงเป็นวงกลม และออกแรงสั่นสะเทือนในการทำความสะอาดฟัน 

เคล็ดไม่ลับ! การเสริมสร้างสุขภาพช่องปาก

• ใช้ยาสีฟันที่ประกอบไปด้วยสารฟลูออไรด์ ที่อาจช่วยป้องกันฟันผุ
• แปรงฟันให้ถูกวิธี รวมถึงการเลือกใช้แปรงสีฟัน 
• ใช้ไหมขัดฟันเพื่อขจัดคราบหินปูน ที่อาจอยู่ตามซอกฟัน
• พบทันตแพทย์เป็นประจำอย่างน้อย 6 เดือน หรือ 1 ปี  เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากอย่างต่อเนื่อง
• หลีกเลี่ยงการขบเคี้ยวขนมที่มีเปลือกแข็ง รสชาติหวาน รวมถึงอาหารที่มีน้ำตาลสูง
• หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้เกิดกลิ่นปาก และคราบพลัค