แผลเปื่อยเฮอร์เพติฟอร์ม (Herpetiform Ulcer)
- เป็นลักษณะแผลร้อนในที่พบได้น้อยที่สุด มักมีขนาดเล็กและเกิดเป็นกลุ่ม หรืออาจรวมกันเป็นแผลขนาดใหญ่
- มีขอบแผลที่ไม่สม่ำเสมอ
- สามารถหายเองได้ภายใน 1-2 สัปดาห์
นอกจากนี้ ควรสังเกตอาการอยู่เสมอหากพบความผิดปกติ หรือมีอาการที่รุนแรงขึ้นต่อไปนี้ควรเข้าพบคุณหมอ
- แผลเปื่อยขนาดใหญ่
- แผลที่เกิดซ้ำ โดยที่แผลใหม่จะเกิดขึ้นก่อนที่แผลเก่าจะหาย
- แผลเรื้อรังนานกว่า 2 สัปดาห์ขึ้นไป
- แผลที่ขยายใหญ่จนลุกลามไปบริเวณริมฝีปาก
- มีอาการปวดแผลอย่างรุนแรง
- รับประทานอาหารหรือดื่มน้ำลำบากมาก
- มีไข้สูงร่วมกับเป็นร้อนใน
วิธีจัดการกับร้อนใน
ส่วนใหญ่ร้อนในสามารถหายเองได้โดยไม่ต้องรักษา แต่สามารถบรรเทาอาการได้ด้วยตัวเอง ดังนี้
- บ้วนปากด้วยน้ำเกลือหรือเบกกิ้งโซดา ด้วยการละลายเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชาในน้ำอุ่น 1/2 ถ้วย จากนั้นบ้วนปากอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น หรือหลังรับประทานอาหาร
- แปรงฟันอย่างเบามือ โดยใช้แปรงขนนุ่มและยาสีฟันที่ปราศจากสารทำให้เกิดฟอง ที่สามารถช่วยป้องกันความเจ็บปวดที่แผลร้อนในได้
- แต้มผงแมกนีเซีย (Magnesia) ในปริมาณเล็กน้อยบนแผลร้อนใน 2-3 ครั้ง/วัน เพื่อช่วยลดความเป็นกรดในช่องปากซึ่งช่วยบรรเทาอาการเจ็บแผล
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีฤทธิ์กัดกร่อน เป็นกรด หรือรสเผ็ด เช่น มะนาว เกลือ พริก อาจช่วยบรรเทาความระคายเคืองและความเจ็บปวด
- ใช้น้ำแข็งประคบที่แผลร้อนในเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด
ในกรณีที่เป็นร้อนในรุนแรงคุณหมออาจจ่ายยาเพื่อช่วยรักษาอาการร้อนในให้หายเร็วขึ้น ดังนี้
- ยาทาแผลร้อนใน เช่น ฟลูโอซิโนไนด์ (Fluocinonide) เบนโซเคน (Benzocaine) ไฮโดรเจน เปอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide)
- น้ำยาบ้วนปากที่ผสมเดกซาเมทาโซน (Dexamethasone) หรือลิโดเคน (Lidocaine) เพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด
- กรณีไม่ตอบสนองต่อการรักษา คุณหมออาจจ่ายยารับประทาน เช่น ยาซูคราลเฟต (Sucralfate) โคลชิซิน (Colchicine) สเตียรอยด์ (Steroid)
- อาหารเสริมเพื่อช่วยเสริมวิตามิน เช่น วิตามินบี 12 ธาตุเหล็ก สังกะสี โฟเลต
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย