ห่วงอนามัยชนิดมีฮอร์โมน
เป็นอุปกรณ์คุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนเลโวนอร์เจสเตรล (Levonorgestrel) ซึ่งเป็นฮอร์โมนในกลุ่มโปรเจสติน (ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนสังเคราะห์) ฮอร์โมนเลโวนอร์เจสเตรลจะช่วยเพิ่มปริมาณและทำให้มูกที่ปากมดลูกเหนียวข้นขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้อสุจิผสมเข้ากับไข่ได้ ทั้งยังทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางลงจนตัวอ่อนฝังตัวได้ยากขึ้นด้วย ห่วงอนามัยชนิดนี้มีขนาดของฮอร์โมนต่างกันไป เช่น ชนิดมีฮอร์โมน 13.5 มิลลิกรัม ชนิดมีฮอร์โมน 19.5 มิลลิกรัม ชนิดมีฮอร์โมน 52 มิลลิกรัม ซึ่งปริมาณของฮอร์โมนจะส่งผลต่อระยะเวลาในการออกฤทธิ์คุมกำเนิดด้วย
ปริมาณของฮอร์โมนที่ปล่อยออกในช่วงแรกจะแตกต่างกันไปตามปริมาณฮอร์โมนในห่วงอนามัย แต่เมื่อเวลาผ่านไป ห่วงอนามัยชนิดมีฮอร์โมนไม่ว่าจะในปริมาณเท่าใด ก็จะค่อย ๆ ปล่อยฮอร์โมนน้อยลงเพื่อให้ออกฤทธิ์คุมกำเนิดได้ตลอดอายุการใช้งานเช่นเดียวกับห่วงอนามัยหุ้มทองแดง ห่วงอนามัยชนิดมีฮอร์โมนสามารถทำงานได้ทันทีหากใส่ในช่วงที่มีประจำเดือน แต่หากใส่ในช่วงเวลาอื่น อาจต้องรอประมาณ 7 วันจึงจะเริ่มออกฤทธิ์คุมกำเนิด ในระหว่างนั้นควรคุมกำเนิดด้วยการใช้ถุงยางอนามัย
ประสิทธิภาพของ ห่วง อนามัย
ห่วงอนามัยมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์สูงและใช้งานสะดวก หากใส่ห่วงอนามัยหุ้มทองแดงภายใน 5 วัน (120 ชั่วโมง) หลังการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันก็สามารถช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ โดยทั่วไป ห่วงอนามัยสามารถใช้ได้นาน 3-10 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของห่วงอนามัย หากต้องการคุมกำเนิดด้วยห่วงอนามัยอย่างต่อเนื่อง ควรเปลี่ยนห่วงอนามัยใหม่ทันทีเมื่อหมดอายุการใช้งาน
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย