ประเภทของการมีเพศสัมพันธ์ มีอะไรบ้าง

ประเภทของการมีเพศสัมพันธ์ แบ่งออกเป็นหลายรูปแบบซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำเพื่อเพิ่มความสุขทางอารมณ์หรือเพื่อสืบพันธุ์ เช่น การมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ทางทวารหนัก ทางปาก การใช้เซ็กส์ทอย ซึ่งอาจมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป ดังนั้น จึงควรศึกษาเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์แต่ละประเภทและการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย เพื่อลดโอกาสการตั้งครรภ์ที่ไม่ตั้งใจและลดความเสี่ยงเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

[embed-health-tool-ovulation]

เพศสัมพันธ์ คืออะไร

การมีเพศสัมพันธ์ คือ กิจกรรมความใกล้ชิดทางกายและทางจิตใจระหว่างคน 2 คนหรือมากกว่า เพื่อกระชับความสัมพันธ์หรือเพื่อสนองความสุขทางอารมณ์ โดยอาจแบ่งประเภทของการมีเพศสัมพันธ์ออกเป็น การสอดใส่อวัยวะเพศชายเข้าไปในช่องคลอด ทวารหนัก หรือปาก หรือการไม่สอดใส่ รวมไปถึงการใช้นิ้ว และการใช้เซ็กส์ทอย โดยมีจุดประสงค์เพื่อความสุขทางอารมณ์หรือเพื่อการสืบพันธุ์

ประเภทของการมีเพศสัมพันธ์

ประเภทของการมีเพศสัมพันธ์สามารถแบ่งออกได้ ดังนี้

เพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด

การมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด เป็นรูปแบบการมีเพศสัมพันธ์โดยการสอดใส่องคชาตของผู้ชายเข้าไปในช่องคลอด หรือถูบริเวณรอบ ๆ ช่องคลอด เพื่อให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกทางเพศ

การมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดอาจทำให้เสี่ยงเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และการตั้งครรภ์ได้ เนื่องจากของเหลวในช่องคลอดของผู้หญิงส่วนใหญ่อาจมีแบคทีเรีย เชื้อไวรัส และปรสิตที่ทำให้เกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หากมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนที่มีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อยู่แล้ว ก็อาจเพิ่มโอกาสติดต่อโรคได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ หากมีการหลั่งน้ำอสุจิในช่องคลอดโดยไม่ป้องกันก็อาจเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ได้เช่นกัน

เพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก

การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก คือการสอดอวัยวะเพศชายหรือเซ็กส์ทอยเข้าไปในทวารหนัก เพื่อทำให้เกิดความรู้สึกทางเพศ ซึ่งทวารหนักเป็นบริเวณที่บอบบางและไม่ได้รองรับการมีเพศสัมพันธ์ จึงอาจทำให้เกิดบาดแผล และเพิ่มโอกาสติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ได้ง่ายขึ้น เช่น เอชไอวี โรคหนองใน หนองในเทียม ซิฟิลิส ไวรัสตับอักเสบบีและซี

เพศสัมพันธ์ทางปาก

เพศสัมพันธ์ทางปากหรือออรัลเซ็กส์ (Oral sex) คือ การใช้ปากเพื่อกระตุ้นอวัยวะเพศของผู้อื่น เช่น การเลีย การดูด การจูบ

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สามารถติดต่อได้ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ทางปาก เช่น โรคหนองใน เริม หูด ซิฟิลิส เอดส์ หากปากมีบาดแผลในขณะมีเพศสัมพันธ์ทางปาก ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงให้เชื้อโรคต่าง ๆ เข้าสู่กระแสเลือดและเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้

เพศสัมพันธ์แบบหมู่

เพศสัมพันธ์หมู่เป็นรูปแบบการมีเพศสัมพันธ์ที่มีชายหรือหญิงมากกว่า 1 คน ร่วมมีเพศสัมพันธ์พร้อมกันหรือการเปลี่ยนคู่นอนเป็นประจำ บางครั้งอาจอยู่ในความสัมพันธ์ของเซ็กส์ปาร์ตี้กับคู่รักอื่น ๆ หรือเรียกว่า สวิงกิ้งหรือปาร์ตี้สวิงเกอร์

การมีเพศสัมพันธ์แบบหมู่ในบางคนอาจเพิ่มความรู้สึกทางอารมณ์มากขึ้น รู้สึกตื่นเต้น แต่ในบางคนอาจรู้สึกไม่เต็มใจและไม่เห็นด้วยกับส่วนร่วมทางเพศแบบหมู่ ซึ่งอาจทำลายความสัมพันธ์ระหว่างคู่รัก บางคนอาจรู้สึกไม่พอใจเมื่อเห็นคู่รักไปมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่น หรือหลังจากนั้นอาจทำให้รู้สึกผิดกับการกระทำ สับสน และเศร้าได้เช่นกัน นอกจากนี้ อาจเสี่ยงเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เพิ่มมากขึ้น เช่น เอชไอวี เริม หนองใน ซิฟิลิส เนื่องจากบางคนอาจมีโรคติดต่อและไม่ป้องกันอย่างถูกต้อง และการใช้ถุงยางอนามัยแค่อันเดียวมีเพศสัมพันธ์กับหลาย ๆ คนก็อาจแพร่กระจายเชื้อโรคได้เช่นกัน

การช่วยตัวเอง

การช่วยตัวเอง คือ การใช้มือหรืออุปกรณ์เซ็กส์ทอยกระตุ้นอวัยวะเพศของตัวเองหรือคู่รักเพื่อให้เกิดอารมณ์ทางเพศ และอาจเปิดคลิปหรือรูปภาพอนาจารเพื่อเพิ่มอารมณ์ทางเพศมากขึ้น ดังนี้

• เพศสัมพันธ์ด้วยนิ้วมือ การมีเพศสัมพันธ์ด้วยนิ้วมือ เป็นการสอดใส่นิ้วมือเข้าไปในช่องคลอดหรือการถูบริเวณคลิตอริสหรือรอบ ๆ อวัยวะเพศหญิง หรือการชักว่าวของผู้ชายที่ใช้มือถูกบริเวณองคชาต เพื่อให้เกิดอารมณ์ทางเพศมากขึ้น ซึ่งอาจเป็นวิธีร่วมเพศระหว่างชายหญิงหรืออาจเป็นวิธีช่วยตัวเองของผู้หญิงและผู้ชายเพื่อสนองความสุขทางอารมณ์เพศ
• เพศสัมพันธ์ออนไลน์ เป็นการมีเพศสัมพันธ์โดยการสื่อสารทางโทรศัพท์ การส่งข้อความ อีเมล หรือวิดีโอแชทออนไลน์ เพื่อแลกเปลี่ยนการพูดคุยหรือรูปภาพทางเพศกับบุคคลอื่นร่วมกับการช่วยตัวเองเพื่อให้สำเร็จความใคร่
• เซ็กส์ทอย เป็นการใช้อุปกรณ์เพื่อกระตุ้นอารมณ์ทางเพศทั้งตัวเองและคู่รัก ซึ่งความชอบทั้งขนาดและรูปทรงในแต่ละคนอาจแตกต่างกัน แต่ควรเลือกใช้เซ็กส์ทอยที่ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัย และควรรักษาความสะอาดให้ดีทั้งก่อนและหลังใช้งาน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
• คลิปและภาพอนาจาร เป็นรูปภาพและวิดีโอที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ อาจอยู่ในรูปแบบของวิดีโอ ออนไลน์ หรือนิตยสาร เพื่อกระตุ้นให้เกิดจินตนาการทางเพศ พร้อมทั้งการมีเพศสัมพันธ์หรือช่วยตัวเองร่วมกับวิธีอื่น ๆ เพื่อให้สำเร็จความใคร่

ความเสี่ยงต่อสุขภาพจากการมีเพศสัมพันธ์

การมีเพศสัมพันธ์ในทุกรูปแบบอาจมีความเสี่ยงต่อสุขภาพ ดังนี้

• โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคหนองใน หนองในเทียม เอชไอวี (HIV) ซิฟิลิส เริม ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากการมีเพศสัมพันธ์โดยการสอดใส่ การจูบ หรือการใช้ปาก เนื่องจากเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือปรสิต ที่อยู่ในสารคัดหลั่งอาจเข้าสู่กระแสเลือดได้ง่ายขึ้นผ่านบาดแผลที่อวัยวะเพศชาย ช่องคลอด หรือปาก
• การตั้งครรภ์ การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันด้วยถุงยางอนามัยหรือการคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น เช่น ยาคุมกำเนิด ห่วงคุมกำเนิด อาจเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์โดยไม่พร้อมได้
• การเสพติดสื่ออนาจาร พฤติกรรมหรือท่าทางการมีเพศสัมพันธ์อาจบิดเบือนไปจากความจริงบ้าง อาจนำไปสู่ความไม่พอใจในความสัมพันธ์กับคู่รัก และการเสพติดสื่ออนาจารก็อาจเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักถดถอย เนื่องจากรู้สึกพึงพอใจในการสำเร็จความใคร่ด้วยการดูสื่ออนาจารมากกว่าการมีเพศสัมพันธ์ จนอาจหมกมุ่นแต่กับเรื่องเพศ นอกจากนี้ บางคนอาจมีพฤติกรรมเลียนแบบสื่ออนาจารทำให้เสี่ยงเกิดอาชญากรรมทางเพศหรือมีความเสี่ยงจะถูกคุกคามทางเพศได้
• ความรุนแรงของเพศสัมพันธ์ การมีเพศสัมพันธ์ควรเกิดขึ้นจากความยินยอมและความพอใจของทุกฝ่าย เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงทั้งทางจิตใจและร่างกาย ป้องกันการบาดเจ็บ และผลกระทบต่อสภาพจิตใจ ที่อาจนำไปสู่การเกิดปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิต เช่น วิตกกังวล ซึมเศร้า สับสน หวาดกลัว
• การบาดเจ็บ การใช้ของเล่นเซ็กส์ทอยหรือการมีเพศสัมพันธ์แบบสอดใส่ หรืออุปกรณ์มีขนาดใหญ่เกินไปหรือมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรงเกินไปอาจทำให้อวัยวะเพศฉีกขาดหรือเกิดอาการบาดเจ็บได้

เคล็ดลับการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย

เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อสุขภาพที่อาจมาจากการมีเพศสัมพันธ์ สามารถทำได้ดังนี้

• ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อเพศสัมพันธ์
• ใช้สารหล่อลื่นที่เหมาะสมกับชนิดของถุงยางอนามัย เพื่อลดความเสี่ยงถุงยางอนามัยแตก
• หากต้องมีทำออรัลเซ็กส์ หรือใช้ปากเพื่อเล้าโลม ควรใช้แผ่นยางอนามัย (Dental Dam) หรือสวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง
• เปลี่ยนถุงยางอนามัยทุกครั้งก่อนเปลี่ยนมีเพศสัมพันธ์ทางปากหรือทางช่องคลอด และเปลี่ยนถุงยางอนามัยหรือแผ่นยางอนามัยหากมีเพศสัมพันธ์เป็นเวลานาน
• ใช้ถุงยางอนามัยและสารหล่อลื่นกับอุปกรณ์เซ็กส์ทอยทุกครั้งเพื่อประสบการณ์ทางเพศที่ดีและป้องกันเชื้อโรค
• ล้างมือให้สะอาดก่อนสัมผัสใบหน้าหรืออวัยวะเพศ
• รักษาสุขอนามัยในช่องปากให้ดีเพื่อป้องกันไม่ให้เลือดออกตามเหงือกและมีแผล และงดการทำออรัลเซ็กล์หากมีบาดแผลหรือมีการติดเชื้อภายในช่องปากหรืออวัยวะเพศ
• การมีเพศสัมพันธ์แบบหมู่ ทุกคนต้องได้รับความยินยอมเมื่อมีเพศสัมพันธ์ และควรเปลี่ยนถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อเปลี่ยนคู่นอน หรือเปลี่ยนเมื่อมีเพศสัมพันธ์ในส่วนอื่น ๆ เช่น ช่องคลอด ปาก ทวารหนัก และทุกคนควรตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เพื่อป้องกันการแพร่กระจายโรค