- มีลักษณะและอวัยวะภายนอกเหมือนเพศหนึ่ง แต่มีอวัยวะในระบบสืบพันธุ์เป็นอีกเพศ เช่น มีอวัยวะเพศภายนอกของผู้หญิง แต่ภายในมีอัณฑะ ไม่มีมดลูกและรังไข่
- ผู้ชายมีภาวะลูกอัณฑะติดค้าง (Undescended testis) เกิดขึ้นเมื่อลูกอัณฑะไม่ได้อยู่ในถุงอัณฑะ ซึ่งจริง ๆ แล้วอาจเป็นรังไข่
- ผู้หญิงมีก้อนที่บริเวณขาหนีบ ซึ่งจริง ๆ แล้วอาจเป็นอัณฑะ
- ผู้ชายมีภาวะท่อปัสสาวะเปิดต่ำกว่าปกติ (Hypospadias)
- ผู้หญิงมีรูเปิดท่อปัสสาวะเข้าไปในช่องคลอด
- มีภาวะเป็นหนุ่มสาวช้าหรือมีพัฒนาการทางเพศหยุดชะงัก
- อวัยวะเพศมีลักษณะผิดปกติเมื่อแรกเกิด เช่น มีอวัยวะเพศชายเล็กกว่าปกติ มีคลิตอริสยาวกว่าปกติ ช่องคลอดไม่มีช่องทางเปิด องคชาตไม่มีรูเปิดของท่อปัสสาวะ
- มีภาวะไม่สมดุลของเกลือแร่ในร่างกาย
- มีการเปลี่ยนแปลงผิดปกติในช่วงวัยรุ่น
โอกาสในการมีบุตรของผู้ที่มีภาวะ Intersex
โดยทั่วไป ความสามารถในการมีบุตรของผู้มีภาวะ Intersex จะแตกต่างกันไปตามระบบอวัยวะสืบพันธุ์ของแต่ละคน หากมีองคชาตและลูกอัณฑะที่ผลิตอสุจิได้ ก็มีโอกาสทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้ ในขณะเดียวกัน หากมีลักษณะภายนอกเป็นเพศหญิง มีรังไข่และช่องคลอด แต่ไม่มีมดลูกและไม่เคยมีประจำเดือน ก็จะไม่สามารถมีบุตรได้ และอาจเสี่ยงเกิดโรคแทรกซ้อน เช่น โรคมะเร็งรังไข่จากรังไข่ฝ่อตัว
การรักษา Intersex ทำได้อย่างไร
ภาวะ Intersex มักไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ การผ่าตัดจึงเป็นเพียงทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการให้โครงสร้างของร่างกายตรงกับเพศสภาพที่ต้องการ โดยการผ่าตัดจะมุ่งเน้นที่การเปลี่ยนรูปลักษณ์ของอวัยวะเพศหรือดัดแปลงระบบสืบพันธุ์ ซึ่งอาจแบ่งได้ดังนี้
- การผ่าตัดตกแต่งคลิตอริส เช่น การสร้างคลิตอริส (Clitoroplasty) ให้มีโครงสร้างที่เหมาะสม การลดขนาดคลิตอลิส (Clitoral reduction) ที่ยื่นยาวออกมาจนคล้ายอวัยวะเพศชาย และตกแต่งให้มีขนาดใกล้เคียงกับอวัยวะเพศหญิงมากที่สุด
- การผ่าตัดช่องคลอด (Vaginoplasty) เพื่อสร้างหรือตกแต่งลักษณะของช่องคลอดเพื่อให้เป็นเพศหญิงอย่างสมบูรณ์
- การผ่าตัดแก้ไขรูเปิดท่อปัสสาวะ เพื่อซ่อมแซมท่อปัสสาวะที่ถูกสร้างอย่างไม่สมบูรณ์ ทารกอาจเกิดมาพร้อมกับภาวะรูเปิดท่อปัสสาวะบริเวณปลายองคชาตไม่เปิดออก ทำให้ไม่สามารถถ่ายปัสสาวะได้
- การผ่าตัดนำอัณฑะหรือรังไข่ออก (Gonadectomy) ซึ่งจะทำให้ร่างกายหยุดผลิตสเตียรอยด์เพศนั้น ๆ อย่างถาวร ส่วนใหญ่จะใช้ในผู้ที่มีเพศภายนอกเป็นผู้หญิงโดยสมบูรณ์ มีรังไข่และมดลูกตามปกติ แต่มีอัณฑะด้วยเนื่องจากมีโครโมโซม 46XY
ทั้งนี้ ภาวะ Intersex อาจทำให้เด็กมีปัญหาในการปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมหรือเพื่อนในวัยใกล้เคียง อาจทำให้สับสนต่อลักษณะทางกายภาพของตัวเอง รู้สึกแปลกแยก หรือส่งผลต่อสภาวะจิตใจได้ การมีครอบครัวและคนรอบข้างที่เอาใจใส่ ไม่กดดันหรือบีบบังคับให้เลือกเพศตั้งแต่ยังเด็กและตัดสินใจไม่ได้ อาจช่วยให้ผู้มีภาวะ Intersex สามารถใช้ชีวิตประจำวัน สามารถรับมือกับความรู้สึกหรือเรื่องที่ต้องเผชิญได้ดีขึ้น และมีโอกาสได้เลือกเพศตามความต้องการของตัวเองเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม
การให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภาวะ Intersex กับคนทั่วไปก็เป็นเรื่องสำคัญ หากคนในสังคมเข้าใจภาวะนี้อย่างถ่องแท้และขจัดอคติทางเพศที่มีต่อผู้ที่มีภาวะ Intersex และกลุ่มผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศให้หมดไปได้ อาจช่วยให้ผู้ที่มีภาวะ Intersex สามารถใช้ชีวิตในสังคมได้ตามปกติและได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย