นักวิจัยเผยว่า ข้อผิดพลาดบนเตียง หลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นกับคู่รัก จนทำให้ชีวิตรักมีปัญหา เซ็กส์ไม่มีความสุข ส่วนใหญมักเป็นฝีมือฝ่ายหญิง Hello คุณหมอ จึงมีข้อผิดพลาดบนเตียง 6 ข้อ ที่ผู้หญิงชอบทำ พร้อมวิธีแก้ไข ที่จะช่วยให้เซ็กส์ของคุณสุขสมมากยิ่งขึ้น
การมีเซ็กส์อย่างสุขสม เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือของทั้งสองฝ่าย เพื่อให้ทั้งคู่ได้รับความสุขจากการมีเซ็กส์ อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้หญิงมีเซ็กส์ ก็อาจมีความเชื่อผิด ๆ หรือสิ่งที่ไม่ควรทำอยู่ ดังนั้น การเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อผู้หญิงมีเซ็กส์ จึงอาจช่วยแก้ไขปัญหาประสบการณ์มีเซ็กส์ที่ไม่ดี และทำให้ทั้งสองฝ่ายมีความสุขมากขึ้นได้
[embed-health-tool-ovulation]
6 สิ่งที่ไม่ควรทำ เมื่อผู้หญิงมีเซ็กส์
1. ไม่เคยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน
ผู้หญิงส่วนใหญ่จะกังวลเรื่องการทำตัวให้สมกับเป็นผู้หญิง ไม่อยากถูกมองไม่ดี ดูเป็นคนเจ้ากี้เจ้าการ หรือเป็นผู้หญิงแรงๆ ไม่รักนวลสงวนตัว จึงไม่กล้าเป็นฝ่ายรุก หรือเริ่มเปิดเกมก่อน เมื่อผู้หญิงไม่เริ่มก่อนบ้าง นานวันเข้า ผู้ชายก็อาจรู้สึกว่าตัวเองต้องเป็นฝ่ายเริ่มต้นก่อนตลอด และอาจพาลคิดไปว่า ฝ่ายหญิงไม่ได้รักหรือเบื่อหน่ายตัวเองแล้ว เพราะความจริงฝ่ายชายเองก็ต้องการความสนใจจากฝ่ายหญิงเช่นกัน
สำหรับคุณผู้หญิงที่ทำตัวไม่ถูก หรือกลัวว่าจะรุกหนักเกินไปจนฝ่ายชายผวา อาจจะค่อยๆ เริ่มเปิดเผยความรู้สึกหรือความต้องการให้คนรักรู้ทีละนิด หรือกำหนดโค้ดลับที่รู้กันเฉพาะทั้งสองฝ่าย หากมีความต้องการเมื่อไหร่จะได้บอกให้เขารู้แบบไม่ทำให้เคอะเขินมากเกินไป
2. กังวลกับรูปโฉมของตัวเอง
การคิดว่าตัวเองจะดูเป็นอย่างไรในขณะมีเซ็กส์ นอกจากจะทำให้ไม่มีความสุขกับตัวเองแล้ว ยังอาจทำให้ไม่ถึงจุดสุดยอดได้ด้วย
ไม่ต้องไปจินตนาการว่า หน้าท้องจะอวบอ้วนแค่ไหน หรือเครื่องสำอางบนใบหน้าจะเป็นอย่างไร ให้โฟกัสกับเรื่องสุขสันต์ที่ทำกำลังทำอยู่ ลองปล่อยให้ตัวได้พบกับจุดสุดยอดให้ได้
ดร. เฮเลน ฟิชเชอร์ นักมานุษยวิทยาวัฒนธรรม แห่งมหาวิทยาลัยรัทเกอร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา และผู้เขียนหนังสือชื่อ “Why Him, Why Her” เผยว่า สิ่งที่ผู้หญิงหมกมุ่นหรือเป็นกังวลอยู่นั้น ผู้ชายแทบไม่สนด้วยซ้ำ เขาสนใจแค่ว่าอีกฝ่ายสนใจในตัวเขาหรือเปล่า หรือกำลังตื่นเต้น ร้อนแรงแค่ไหน
ฟิชเชอร์กล่าวว่า มันมีคำอธิบายที่มาจากวิวัฒนาการของมนุษย์ สำหรับการเลือกที่จะมองข้ามข้อบกพร่องทางร่างกายบางอย่าง เหตุผลตามทฤษฎีของดาร์วินก็คือ ผู้ชายจะมองหาผู้หญิงที่สามารถให้กำเนิดทารกที่แข็งแรงได้ โดยที่เขาเองก็อาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ผู้ชายจะสนใจผู้หญิงที่มีความสามารถในการเจริญพันธ์ุ และมีลูกที่จะมีชีวิตรอดได้จำนวนมาก ซึ่งสิ่งนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่หลายล้านปีที่แล้ว
แม้เรื่องนี้อาจไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นสำหรับปัจจุบัน แต่ฟิชเชอร์ก็กล่าวว่า กลไกการเอาตัวรอดดั้งเดิมตามธรรมชาติเช่นนี้ก็ยังคงดำรงอยู่ นั่นจึงทำให้ผู้ชายรู้สึกว่าผู้หญิงที่ดูสุขภาพดี เยาว์วัย หรืออยู่ในภาวะเจริญพันธุ์ นั้นมีแรงดึงดูดมากกว่า
ดังนั้น แทนที่จะมัวกังวลกับขนาดของเอวและสะโพก ให้ไปสนใจเรื่องความปรารถนากับความตื่นเต้นในตัวผู้ชายจะดีกว่า ฟิชเชอร์ให้คำแนะนำเช่นนั้น
3. เข้าใจไปเองว่าเซ็กส์เป็นเรื่องของผู้ชาย
ความเชื่อที่ว่า “ผู้หญิงไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเพศ” หรือ “เรื่องเพศเป็นเรื่องของผู้ชายเท่านั้น” ณ ปัจจุบัน อาจกลายเป็นความเชื่อที่ล้าสมัยไปแล้ว
“สำหรับผู้ชาย เซ็กส์เป็นการแสดงออกที่สำคัญมาก อย่าไปลดค่ามัน” เลส แพร์รอท ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยา แห่งมหาวิทยาลัยซีแอตเติลแปซิฟิก ในประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้เขียนหนังสือเรื่อง “Crazy Good Sex” บอกเช่นนั้น และงานวิจัยก็สนับสนุนความคิดที่ว่า ทั้งผู้ชายและผู้หญิงเห็นว่าความสนิทเสน่หาทางเพศในบริบทของความสัมพันธ์ที่มีความผูกมัดกันนั้น เป็นสิ่งที่ให้ความสุขได้มากกว่า
“มีงานวิจัยมากมายที่แสดงอย่างชัดเจนว่า กลุ่มคนที่มีเซ็กส์แบบมีคุณภาพ และบ่อยครั้งที่สุดคือคู่รักที่แต่งงานกันแล้ว ซึ่งนี่บอกได้ชัดเจนว่าเซ็กส์แบบไม่ผูกมัดนั้นไม่เพียงพอ” แพร์รอทกล่าวเสริม
ในงานวิจัยที่จัดทำโดยฟิชเชอร์และเพื่อนร่วมงาน ในกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยที่มีเซ็กส์แบบไม่ผูกมัด ตัวเลขได้แสดงให้เห็นว่าผู้ชายก็จริงจังกับเรื่องเซ็กส์และความสัมพันธ์มากพอๆ กับผู้หญิง ที่จริงแล้ว จากรายงานของฟิชเชอร์ ผู้หญิงมากกว่า 50% และ 52% ของผู้ชาย ซึ่งมีความสัมพันธ์แบบชั่วข้ามคืน รายงานว่าพวกเขาทำไปเพราะคาดหวังในความสัมพันธ์ในระยะยาว และ 1 ใน 3 ของพวกเขาก็สามารถทำได้จริงๆ
“อย่าคิดเอาเองว่าผู้ชายนั้นไม่โรแมนติก” ฟิชเชอร์กล่าว “ข้อเข้าใจผิดที่ใหญ่ที่สุด 2 ข้อในวัฒนธรรมของเราก็คือ การที่ผู้หญิงไม่สนใจเรื่องเรื่องเพศ และผู้ชายนั้นไม่โรแมนติกเท่ากับผู้หญิง”
4. เชื่อว่าผู้ชายพร้อมจะมีเซ็กส์ได้เสมอ
วัยรุ่นชายส่วนใหญ่อาจพร้อมและยินดีเสมอที่จะมีเซ็กส์เมื่อไหร่ก็ตามที่ต้องการ แต่ผู้ชายที่โตแล้วไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป ความกดดันในชีวิตประจำวัน ครอบครัว งาน หนี้สิน สามารถพรากแรงขับทางเพศของผู้ชายไปได้ เรื่องนี้ทำให้ผู้หญิงหลายคนต้องประหลาดใจ และบ่อยครั้งที่การขาดความสนใจในเรื่องเพศของผู้ชายเป็นสิ่งที่เรามักจะเอามาเป็นอารมณ์
ผู้หญิงหลายคนรู้สึกตกใจหรือประหลาดใจ เมื่อคนรักบอกว่าเขาไม่มีอารมณ์ที่จะมีเซ็กส์ พวกผู้หญิงรู้ว่าตัวเองอาจไม่ได้ตื่นเต้นกับการมีเซ็กส์อยู่ตลอดเวลา แต่เธอก็ยังรักผู้ชายของเธออยู่ แต่เมื่อพวกเธอพบว่า เขาไม่ต้องการจะมีเซ็กส์ พวกเธอก็กลับคิดว่า “เขาไม่รักฉันแล้ว” ซึ่งนั่นไม่จริงเลย เขาแค่ไม่มีอารมณ์จะมีเซ็กส์เท่านั้นล่ะ
5. ไม่ยอมให้คำแนะนำผู้ชาย
การพูดคุยเรื่องเซ็กส์ ว่ามีอะไรที่เราชอบและไม่ชอบ อาจทำให้ผู้หญิงรู้สึกอึดอัดใจ แม้อีกฝ่ายจะเป็นคนที่อยู่ด้วยกันมานานและรู้สึกใกล้ชิดสนิทสนมด้วย แต่นี่เป็นเพียงหนทางเดียว ที่จะได้รับความสัมพันธ์ทางเพศที่มีความสุข หรือเซ็กส์ที่ดี
ผู้หญิงควรจะมีความรับผิดชอบกิจกรรมทางเพศด้วยเช่นกัน คงม่มีผู้ชายคนไหนสามารถพาเธอไปสู่จุดสุดยอดได้ หากเธอไม่ยอมควบคุมประสบการณ์ทางเพศของตัวเอง แม้แต่คู่รักที่ดีที่สุดก็ยังไม่สามารถรับรู้สิ่งที่ผู้หญิงต้องการได้ หากเธอไม่ยอมบอกใคร ถ้าสามารถบอกให้อีกฝ่ายรู้ได้ โดยไม่ทำลายความเชื่อมั่นในตัวเอง หรือทำลายความมั่นใจของเขา ผู้ชายจะรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก
6. ไม่พอใจเวลาที่เขาอยากจะลองสิ่งใหม่ ๆ
หลังจากที่คู่รักได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมาเป็นเวลาหนึ่ง เป็นเรื่องปกติที่อาจจะต้องการเพิ่มสีสันและความหลากหลายสักเล็กน้อย การเริ่มลองสิ่งใหม่ ๆ ควรตกลงกันให้ชัดเจนว่าสิ่งไหนเกินขีดจำกัด สิ่งไหนที่ไม่ควรทำ เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกัน และป้องกันปัญหาที่อาจตามมาในภายหลัง