วิธีรักษาเนื้องอกในมดลูก
วิธีรักษาเนื้องอกในมดลูก มีดังนี้
การตรวจติดตามอาการ (Expectant management)
ในรายที่ไม่มีอาการ ไม่จำเป็นต้องรักษา แต่ควรได้รับการยืนยันการวินิจฉัยด้วยการตรวจอัลตราซาวด์ และตรวจติดตามอาการด้วยการตรวจภายในเป็นระยะทุก 1 ปี หากก้อนโตเร็วหรือมีอาการเปลี่ยนแปลงควรได้รับการตรวจประเมินซ้ำ
ยา
สำหรับที่ใช้ในการรักษาเนื้องอกในมดลูก มีเป้าหมายไปที่การควบคุมฮอร์โมนเพศ เพื่อช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ เช่น ลดความดันในอุ้งเชิงกรานที่ส่งผลให้ปวดท้อง ควบคุมการมาของประจำเดือนให้เป็นปกติ และอาจทำให้เนื้องอกหดตัวลง ยาที่ใช้รักษา ได้แก่
- โกนาโดโทรปิน รีลิสซิงฮอร์โมน อะโกนิสต์ (Gonadotropin releasing hormone agonists: GnRH agonists) ใช้เพื่อขัดขวางการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสติน ซึ่งอาจส่งผลให้เนื้องอกหดตัวและหยุดการเจริญเติบโต ยานี้อาจทำให้ประจำเดือนหยุดไหลชั่วคราว ไม่ควรใช้ยานานเกิน 3-6 เดือน เพราะอาจส่งผลเสียต่อมวลกระดูก
- โกนาโดโทรปิน รีลิสซิงฮอร์โมน แอนทาโกนิสต์ (GnRH antagonists) กลยับยั้งการทำงานของ GnRH โดยการแย่งจับกับ GnRH receptor โดยตรง จึงไม่มีอาการกำเริบในช่วงแรกเหมือนการใช้ยากลุ่ม GnRH agonist ทำให้ออกฤทธิ์เร็วกว่า และใช้ระยะเวลาในการรักษาสั้นกว่า สามารถลดขนาดเนื้องอกมดลูกได้ภายใน 14-19 วัน ยาในกลุ่มนี้ที่มีในประเทศไทย ได้แก่ Cetrorelix (Cetrotide) และ Ganirelix (Orgalutran)
- ห่วงคุมกำเนิด ที่มีฮอร์โมนโปรเจสติน ใช้เพื่อช่วยบรรเทาอาการเลือดออกจากช่องคลอด
- กรดทรานเอกซามิก (Tranexamic Acid) เป็นยาที่ช่วยให้เลือดแข็งตัว ใช้เพื่อบรรเทาอาการสำหรับผู้ที่มีประจำเดือนมามากกว่าปกติ หรือมีอาการเลือดออกทางช่องคลอด
การผ่าตัด
เพื่อกำจัดเนื้องอกในมดลูกมี 2 ประเภท คือ การผ่าตัดเพื่อกำจัดเพียงเนื้องอก และการผ่าตัดมดลูกออกทั้งหมด ขึ้นอยู่กับอาการและขนาดเนื้องอกว่ารุกล้ำอวัยวะสืบพันธุ์ส่วนอื่นหรือไม่ โดยอาจใช้เทคนิคการผ่าตัด 4 รูปแบบ ดังนี้
- การผ่าตัดเนื้องอกมดลูกผ่านช่องท้อง เป็นการผ่าตัดเพื่อนำเนื้องอกในมดลูกออกโดยการกรีดบริเวณท้องน้อย ซึ่งอาจส่งผลให้มีรอยแผลเป็นหลังการผ่าตัด
- การผ่าตัดเนื้องอกมดลูกผ่านกล้อง เป็นการผ่าตัดโดยการสอดกล้องผ่านช่องคลอดเข้าไปในมดลูก และใช้เครื่องมือผ่าตัดขนาดเล็กตัดเนื้องอกภายในมดลูกออก นอกจากนี้ ยังมีการผ่าตัดโดยใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด ซึ่งเป็นกระบวนการผ่าตัดที่มีความซับซ้อน และมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนน้อยกว่า และเสียเลือดน้อยกว่า แต่อาจมีค่าใช้จ่ายสูง
- การทำลายเยื่อบุโพรงมดลูก (Endometrial ablation) เป็นกระบวนการผ่าตัดโดยใช้ความร้อนหรือกระแสไฟฟ้าเพื่อทำลายเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูก เพื่อช่วยชะลอการไหลของประจำเดือน เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาประจำเดือนมามากผิดปกติ
- การใช้คลื่นเสียงความถี่สูง Magnetic Resonance-guided Focused Ultrasound (MRgFU) เป็นการสลายเนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูกชนิดหนึ่ง โดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูงแบบ High-Intensity Focused Ultrasound (HI-FU) ทำลายเนื้อเยื่อโดยทำให้เกิดความร้อนสูง ใช้ร่วมกับการสร้างภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) ช่วยกำหนดขอบเขตของอวัยวะที่จะทำลาย และควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ในระดับที่ต้องการ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย