STD (Sexually transmitted diseases) หรือ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อระหว่างบุคคลหนึ่งไปยังบุคคลหนึ่งผ่านการมีเพศสัมพันธ์ แต่ทั้งนี้ แม้เพียงแค่การกอด จูบ หรือการเล้าโลม รวมทั้งการใช้นิ้วหรือการทำออรัลเซ็กส์ โดยที่ไม่ได้สอดใส่อวัยวะเพศ หรือพฤติกรรมบางอย่างในชีวิตประจำวันก็อาจทำให้เสี่ยงติดโรคนี้ได้เช่นเดียวกัน
ความเสี่ยงในการเป็น STD
แม้ว่าโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จะหมายถึงโรคที่ติดต่อผ่านกันเนื่องจากการมีเซ็กส์ แต่ทั้งนี้ แม้ว่าจะใส่ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันโรคและป้องกันการตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจ แต่การสัมผัสกันทางร่างกายก็สามารถเสี่ยงเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ รวมทั้งโอกาสเสี่ยงในด้านอื่น ๆ ดังนี้
ผ่านการจูบ
การจูบเป็นการแสดงความรักรูปแบบหนึ่ง แต่น้ำลายสามารถเป็นตัวนำในการแพร่เชื้อ “โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์” บางประเภทได้ เช่น โรคเริม HIV ที่สามารถแพร่จากแผลได้ หรืออาจจะติดต่อกันได้ผ่านผิวหนัง ดังนั้น หากมีแผลบริเวณริมฝีปาก อาจต้องระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงการจูบ รวมทั้งก่อนและหลังจูบควรทำความสะอาดช่องปาก อาจด้วยการแปรงฟันหรือใช้น้ำยาบ้วนปากทุกครั้ง
ผ่านการทำออรัลเซ็กส์
คู่รักบางคู่อาจเลือกการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่สอดใส่ แต่ใช้ลิ้นในการสำเร็จความใคร่หรือที่เรียกว่าออรัลเซ็กส์ และอาจคิดว่าสามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ แต่โรคทางเพศสัมพันธ์บางประเภทอย่างโรคเริม โรคหนองใน HIV ก็สามารถติดต่อได้ผ่านแผลบนผิวหนัง และเชื้ออาจลุกลามผ่านช่องคอกลายเป็นโรคผิวหนังผุพอง หรือมะเร็งในช่องคอหรือกล่องเสียง (laryngeal cancer) รวมทั้งซิฟิลิสก็สามารถติดได้ผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ป่วยโดยไม่จำเป็นต้องสอดใส่
ผ่านผิวสัมผัส
การกอดหรือการสัมผัสผิวอาจเสี่ยงน้อยในการเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่ก็สามารถส่งผ่านเชื้อโรค อย่างโรคเริม และมะเร็งปากมดลูกได้ ซึ่งแนวโน้มของการติดเชื้อผ่านผิวหนังนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่างทั้งสภาพผิวและแผลทางผิวหนัง
ผ่านการปนเปื้อนในอาหาร
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างไวรัสตับอักเสบ เอ สามารถติดต่อได้ผ่านอาหารที่รับประทานเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งอาจจติดมาจากห้องน้ำ หรือการล้างมือไม่สะอาด จากนั้นเชื้อเหล่านี้จึงปนเปื้อนเข้าสู่อาหารหรือเครื่องดื่มทำให้ติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
ผ่านผ้าขนหนูหรือผ้าปูที่นอน
เชื้อของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อาจจะแทรกซึมอยู่บนเส้นใยของผ้าขนหนูหรือผ้าปูที่นอน โดยเฉพาะปรสิตที่เรียกว่า Trichomonas vaginalis สาเหตุของการติดเชื้อทริโคโมแนสซึ่งทำให้เกิดการอักเสบของช่องคลอดที่พบได้บ่อยโดยปรสิตตัวนี้มักซ่อนตัวอยู่ในผ้าที่อับชื้น แม้ว่าจะแขวนไว้ข้างนอกก็ตาม
ผ่านการใช้ที่โกนหนวดร่วมกัน
ที่โกนหนวดอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ เพราะที่โกนหนวดเอาจบาดผิวให้มีเลือดออกมา จึงเกิดโอกาสติดเชื้ออย่าง HIV ไวรัสตับอักเสบ เอ บี หรือ ซี และทำให้เกิดการติดเชื้อผ่านเส้นเลือดได้ ดังนั้นจึงไม่ควรใช้ที่โกนหนวดร่วมกับผู้อื่น
ผ่านการบริจาคเลือด
แม้ว่าขั้นตอนในการบริจาคเลือดจะมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง หากผู้รับบริจาคเลือดได้รับเลือดจากผู้ป่วย HIV อาจเสี่ยงติดโรคดังกล่าวด้วยเช่นกัน
สิ่งสำคัญที่สุดในการป้องกันและลดโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์คือการสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่ต้องการมีเพศสัมพันธ์ การไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย รวมทั้งการตรวจร่างกายเป็นประจำ และการดูแลรักษาความสะอาดร่างกายเป็นประจำทุกครั้งก่อนและหลังมีเพศสัมพันธ์
[embed-health-tool-ovulation]