สารเคมีในยาทาเล็บอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ
ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการทำเล็บอาจมีส่วนผสมของสารเคมีที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดยสารเคมีต่าง ๆ อาจมีดังนี้
- โทลูอีน เป็นส่วนผสมในยาทาเล็บมีคุณสมบัติช่วยให้สีเรียบเนียนและสีไม่แยกชั้นกัน หากสูดดมเป็นระยะเวลานานอาจเป็นอันตรายต่อระบบประสาทส่วนกลางและทำลายอวัยวะสืบพันธุ์ได้ นอกจากนี้ ยังอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ เช่น ปวดหัว ชา ระคายเคืองตาและลำคอ
- ฟอร์มาลดีไฮด์ มีคุณสมบัติทำให้สีที่ใช้ทาเล็บแข็งตัวและติดทนนาน หากใช้เป็นระยะเวลานานอาจเป็นสารก่อมะเร็งได้
- ไดบิวทิลพทาเลต (Dibutyl Phthalate) มีคุณสมบัติทำให้สีทาเล็บเหนียวข้น ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อระบบสืบพันธุ์ได้
- การบูร (Camphor) มีคุณสมบัติทำให้สีเล็บเงางามและแข็งแรง หากสูดดมเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะ ปวดหัว
- อะซิโตน (Acetone) เป็นสารที่อยู่ในน้ำยาล้างเล็บ อาจทำให้เล็บแห้ง ในบางคนอาจมีอาการแพ้อย่างรุนแรง อาจทำให้เกิดโรคผิวหนังอักเสบได้
วิธีการดูแลเล็บให้สุขภาพดี
การทำเล็บอาจมีข้อดีมากมาย อย่างไรก็ตาม ควรดูแลเล็บอยู่เสมอเพื่อให้เล็บสวยและสุขภาพดีมากขึ้น โดยวิธีการดูแลอาจทำได้ดังนี้
- ควรพักเล็บ โดยเว้นการทำสีเล็บอย่างน้อย 1-3 เดือน เพื่อให้เล็บได้ซ่อมแซมตัวเอง แต่ในกรณีที่เล็บฉีก เปราะหรือบางจากการทำเล็บควรพักเล็บอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อให้เล็บใหม่งอกออกมา
- ทำความสะอาดร่างกาย มือและเล็บเป็นประจำทุกวัน เพื่อขจัดเชื้อแบคทีเรียในซอกเล็บและควรใส่ถุงมือยางเมื่อต้องสัมผัสน้ำหรือสารเคมีเป็นเวลานาน เช่น การล้างจาน ทำความสะอาดบ้าน ล้างห้องน้ำ
- ควรทาครีมบำรุงมือและเล็บมือเป็นประจำทุกวัน เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและบำรุงจมูกเล็บให้แข็งแรง
- ควรตัดเล็บให้สั้นอยู่เสมอในช่วงเวลาที่พักเล็บ เพื่อขจัดเอาเล็บส่วนที่อ่อนแอออก โดยการตัดเล็บให้เป็นแนวตรงและตัดมุมเล็บให้โคงมน
- รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยไบโอติน (Biotin) เช่น ตับหมู เนื้อวัว ปลา ไข่แดง น้ำมันปลา ข้าวกล้อง ข้าวโพด รำข้าวสาลี เมล็ดพืช ธัญพืช ไข่ น้ำนม เนย โยเกิร์ต กะหล่ำปลี เห็ด แครอท ผลไม้ ที่อาจช่วยเสริมความแข็งแรงของเล็บ ลดปัญหาเล็บบาง แตกและเปราะง่าย
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย