- รอยช้ำบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะผิวที่โดนฉีดซึ่งอาจหายไปภายใน 1 สัปดาห์หลังเข้ารับการฉีด
- อาการบวมแดงของใบหน้า เป็นปฏิกิริยาปกติของร่างกายเมื่อได้รับสารแปลกปลอมต่าง ๆ เข้าสู่ชั้นผิวหนัง มักหายไปหลังฉีดเมโสหน้าใสประมาณ 24 ชั่วโมง
- รู้สึกระคายเคือง เจ็บ หรือปวดเมื่อล้างหน้าในวันแรกหลังทำเมโสหน้าใส
- ผื่นแดง ซึ่งอาจเกิดจากการแพ้ยาชา หรือตัวยาเมโสหน้าใส หรือผื่นจากโรคประจำตัวของผู้ที่เข้ารับการฉีด รวมทั้งอาจเกิดจากการติดเชื้อได้ด้วยซึ่งสามารถรักษาได้ด้วยการรับประทานยาฆ่าเชื้อ หากหลังผ่านไป 24 ชั่วโมง อาการไม่ดีขึ้น ควรไปพบคุณหมอ
เมโสหน้าใส ทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผลชัดเจน
เมโสหน้าใสอาจเริ่มเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ โดยจะสังเกตเห็นได้ในวันที่ 3 หลังจากเข้ารับการฉีดเมโสหน้าใส อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์จะคงอยู่เพียง 1-2 เดือน ดังนั้น หากต้องการให้ผลคงอยู่ในระยะยาว ควรเข้ารับบริการฉีดเมโสหน้าใสอย่างต่อเนื่อง ภายใต้คำแนะนำของคุณหมอ โดยในช่วงแรก ๆ อาจต้องฉีดเมโสหน้าใสเป็นประจำทุก 7-10 วัน
ข้อดีและข้อเสียของ เมโสหน้าใส
เมโสหน้าใสมีข้อดีและข้อเสียดังต่อไปนี้
ข้อดี
- สะดวก เห็นผลเร็ว ไม่ต้องพักฟื้นที่สถานพยาบาล
- ไม่เจ็บ เนื่องจากใช้ยาชา
- เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง
ข้อเสีย
- อาจมีผลข้างเคียง เช่น รอยฟกช้ำ อาการบวมแดง รู้สึกเจ็บหรือปวด
- ผลลัพธ์หน้าใสไม่คงทนถาวร จำเป็นต้องไปฉีดสม่ำเสมอ จึงส่งผลให้ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง หรือไม่เหมาะกับผู้มีงบประมาณจำกัด
- อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ และติดเชื้อ
- ปัจจุบัน อย. ยังไม่รับรองยาที่ฉีด
ก่อนตัดสินใจดูแลผิวหน้าด้วยวิธีเมโสหน้าใส ควรตรวจสอบประวัติของสถานพยาบาลหรือคลินิกเสริมความงาม รวมทั้งรายชื่อและประวัติของคุณหมอก่อนเข้ารับบริการให้ละเอียดว่าปลอดภัย น่าเชื่อถือ และได้มาตรฐาน
นอกจากนั้น ก่อนเข้ารับการฉีดควรสอบถามถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้และตรวจดูว่าผ่านมาตรฐานและมีเครื่องหมายรับรองจากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยาหรือไม่ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดจากการใช้ยาที่ไม่ได้มาตรฐาน
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย