อายุที่มากขึ้นก็เสี่ยงที่จะทำให้เกิดริ้วรอย หรือความหย่อนคล้อยต่าง ๆ โดยเฉพาะ รอยย่นที่หน้าผาก ที่มักจะเห็นได้ชัดเจนเมื่อมีอายุที่มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เพียงอายุที่มากขึ้นเท่านั้นที่ทำให้ หน้าผากย่น พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้หน้าผากและใบหน้าเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นก่อนวัยอันควรได้เช่นกัน
[embed-health-tool-bmi]
พฤติกรรมเสี่ยงทำให้ หน้าผากย่น
แสงแดด
ตัวการทำร้ายผิวแบบที่มักจะเลี่ยงไม่ค่อยได้ในลักษณะภูมิอากาศร้อน คือ แสงแดด แสงแดดและรังสียูวีมีส่วนในการทำลายสารต้านอนุมูลอิสระในชั้นผิวหนังให้ลดลง ทั้งยังทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน (Elastin Fibers) ของผิวหนัง ก่อให้เกิดทั้งริ้วรอย ความหย่อนคล้อย และจุดด่างดำต่าง ๆ แต่ไม่เพียงแค่แสงแดดเท่านั้น เพราะรังสียูวีจากเตียงอบผิวแทน หรือรังสีที่ใช้ในการทำผิวแทน ก็อาจก่อให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้เช่นกัน
สูบบุหรี่
บุหรี่มีสารพิษที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของผู้สูบ ซึ่งนอกจากการสูบบุหรี่จะส่งผลต่อสุขภาพของระบบทางเดินหายใจแล้ว ผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำมีแนวโน้มที่จะเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรมากกว่าผู้ที่ไม่ค่อยสูบบุหรี่หรือไม่สูบบุหรี่เลย โดยเฉพาะริ้วรอยเหี่ยวย่นในบริเวณรอบปากจะเห็นได้ชัดที่สุด
การเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อซ้ำ ๆ
การเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อซ้ำไปซ้ำมาบริเวณหน้าผาก เช่น การขมวดคิ้ว การเลิกคิ้ว การย่นหน้าผาก การทำเช่นนั้นบ่อย ๆ จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงที่ทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นที่หน้าผากมากขึ้น
ท่าทางในการนอน
ท่าทางในการนอนก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดรอยเหี่ยวย่นที่หน้าผากและใบหน้า โดยเฉพาะการนอนตะแคงหรือการนอนที่เอื้อให้องศาของใบหน้าเกิดการกดทับ เพราะแรงกด แรงดันจากการนอนตะแคงหรือนอนคว่ำหน้า มีส่วนก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงภายใต้ชั้นผิว ก่อให้เกิดรอยพับ หรือ รอยย่นที่หน้าผาก และใบหน้า
การรับประทานอาหาร
“You are what you eat.” เป็นประโยคที่ได้ยินกันอยู่บ่อย ๆ เพราะรับประทานอะไรก็จะได้อย่างนั้น รับประทานอาหารที่ดี สุขภาพก็จะดี แต่ถ้าหากรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ไม่ให้สารอาหารที่มีส่วนกระตุ้นการบำรุงเซลล์ผิว ก็อาจมีส่วนทำให้คอลลาเจนในผิวหนังไม่แข็งแรงหรือลดจำนวนลง เสี่ยงที่ทำให้เกิดริ้วรอย หรือผิวหนังดูแย่ก่อนวัยอันควร
นอกจากนี้ การไม่ค่อยดื่มน้ำก็ยังมีผลให้ผิวแห้ง ดูไม่อิ่มน้ำ หรือสุขภาพผิวไม่ดี เพิ่มความเสี่ยงของปัญหาผิวแบบต่าง ๆ หรือสาเหตุของรอยเหี่ยวย่นที่หน้าผากและใบหน้า
ขาดการบำรุงผิวหน้า
ผลิตภัณฑ์สำหรับการบำรุงผิวเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มีส่วนสำคัญที่ทำให้สุขภาพผิวแข็งแรง ลดริ้วรอย และปัญหาผิวอื่น ๆ ผู้ที่ไม่ค่อยบำรุงผิว สุขภาพผิวก็อาจจะมีปัญหาริ้วรอยง่ายกว่าผู้ที่บำรุงผิวหน้าและผิวหนังอย่างสม่ำเสมอ
การสัมผัสใบหน้าอย่างรุนแรง
บางคนอาจเชื่อว่าถ้าถูหน้าแรง ๆ เวลาล้างหน้าอาจยิ่งทำให้ผิวหน้าสะอาด ช่วยป้องกันสาเหตุของการเป็นสิวได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ หรือสัมผัสใบหน้าอย่างรุนแรง จะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้ผิวหน้ามีริ้วรอยได้ เนื่องจาก แรงกด แรงดันจากฝ่ามือ จะทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนังเกิดการแตกตัว ทำให้เสี่ยงที่จะเกิดรอยพับหรือรอยย่นที่ใบหน้า
การนอนน้อย
การนอนไม่พอ นอนน้อย นอนดึก อาจเสี่ยงที่จะทำให้ผิวหนังเกิดความหมองคล้ำ ทั้งยังทำให้การหมุนเวียนของเซลล์ภายในผิวหนังด้อยประสิทธิภาพลง ผิวหนังไม่สามารถที่จะฟื้นฟูตนเองได้เท่าที่ควรจะเป็น ส่งผลให้เกิดความหมองคล้ำที่ใต้ดวงตา ใบหน้า รวมถึงเกิดความเหี่ยวย่นที่ใบหน้า หรือ รอยย่นที่หน้าผาก ด้วย
รับประทานน้ำตาลเยอะ
ความหวานอาจทำให้อารมณ์ดี แต่ก็อาจไม่ดีต่อสุขภาพผิว เพราะหากรับประทานน้ำตาลในปริมาณมาก อาจส่งผลให้เกิดปฏิกิริยาไกลเคชั่น (Advanced Glycation End Products หรือ AGEs) ซึ่งเป็นปฏิริยาระหว่าง โปรตีน ไขมัน และน้ำตาล ที่จะส่งผลต่อการทำงานของเซลล์ต่าง ๆ รวมถึงเซลล์ผิวหนัง เพราะจะไปทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนัง ทำให้เกิดริ้วรอยและการหย่อนคล้อยของผิวหนังได้
วิธีป้องกันรอยเหี่ยวรอยย่นที่ใบหน้า
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ หรือสัมผัสใบหน้าอย่างรุนแรง เพราะจะทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร หรือเกิด รอยย่นที่หน้าผาก และใบหน้า
- ทาครีมกันแดด เพื่อป้องกันแสงแดดและรังสียูวีอย่างสม่ำเสมอ
- เลิกสูบบุหรี่ หรือพยายามหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ หรือค่อยๆ สูบให้น้อยลงจนกระทั่งเลิกสนิท
- หลีกเลี่ยงการขมวดคิ้ว การเลิกคิ้ว การย่นหน้าผาก หรือการเคลื่อนไหวที่ใบหน้าในเวลาที่แสดงความรู้สึกต่าง ๆ ให้น้อยลง
- อย่าให้ร่างกายและผิวหนังขาดน้ำ ควรดื่มน้ำบ่อย ๆ และบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ เพื่อลดปัญหาผิวแห้งที่อาจจะนำไปสู่ปัญหาผิวอื่น ๆ
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ พยายามอย่าเข้านอนดึก เพื่อลดปัญหาหมองคล้ำของผิวหนัง
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ รับประทานอาหารที่มีส่วนช่วยเสริมคอลลาเจนและเซลล์ผิวหนัง เช่น อาหารที่ให้วิตามินอี
- บำรุงผิวอยู่เสมอด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนช่วยเสริมความแข็งแรงของสุขภาพผิว และลดความเสี่ยงของรอยเหี่ยวย่นที่หน้าผากและใบหน้า
- ใช้วิธีทางการแพทย์ เช่น เลเซอร์ โบท็อกซ์ ร้อยไหม หรือการศัลยกรรมต่าง ๆ แต่ควรศึกษาหาข้อมูลให้เพียงพอ เลือกเข้ารับบริการจากสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน และทำกับคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญเท่านั้น