เป็น ลมพิษ ขาดวิตามิน อะไร
ลมพิษเกิดได้จากหลายสาเหตุดังที่กล่าวไปข้างต้น โดยสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดลมพิษ คือ การขาดวิตามินดี (Vitamin D deficiency) เนื่องจากวิตามินดีทำหน้าที่ยับยั้งไม่ให้แมสต์เซลล์ (Mastocyte) ปล่อยสารฮีสตามีนซึ่งเป็นสารที่หลั่งออกมาเมื่อเกิดปฏิกิริยาอักเสบกับเมื่อมีสารก่อภูมิแพ้มาสัมผัสกับผิวหนัง และจะกระตุ้นให้เกิดลมพิษบนผิวหนัง หากร่างกายมีปริมาณวิตามินดีน้อยเกินไป อาจทำให้เกิดลมพิษชนิดเรื้อรัง (Chronic hives) ที่มักเป็น ๆ หาย ๆ นานเป็นเดือนหรือเป็นปี
งานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Iranian Journal of Allergy, Asthma and Immunology เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2558 ศึกษาเกี่ยวกับการขาดวิตามินดีในผู้ที่เป็นลมพิษเรื้อรังชนิดไม่ทราบสาเหตุ โดยมีกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยโรคลมพิษเรื้อรังจำนวน 114 คน และผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง 187 คนที่มีอายุเท่ากันและเพศเดียวกัน พบว่า ผู้ป่วยลมพิษเรื้อรังชนิดไม่ทราบสาเหตุมีระดับวิตามินดีต่ำกว่ากลุ่มที่มีสุขภาพดีอย่างมีนัยสำคัญ และการขาดวิตามินดีอาจเพิ่มความไวต่อการเกิดโรคลมพิษรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหตุ
เป็นลมพิษควรดูแลตัวเองอย่างไร
วิธีดูแลตัวเองเมื่อเป็นลมพิษอาจมีดังนี้
- ใช้ยาต้านฮีสตามีน (Antihistamines) ที่หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปเพื่อบรรเทาอาการแพ้ คัน บวมบนผิวหนัง แต่หากไม่ได้ผล คุณหมออาจสั่งยาต้านฮีสตามีนอื่น ๆ เช่น เซทิริซีน (Cetirizine) เดสลอราทาดีน (Desloratadine) เฟกโซเฟนาดีน (Fexofenadine)
- รับประทานอาหารที่มีฮีสตามีนต่ำ เพื่อลดการเกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ เช่น เนื้อสัตว์สดใหม่ ผลไม้สด ธัญพืชเต็มเมล็ด ไข่ น้ำผึ้ง ปลาและหอยสด
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีฮีสตามีนสูง เช่น เนื้อสัตว์แปรรูปอย่างไส้กรอก แฮม อาหารหมักดองอย่างกะหล่ำปลีดอง แตงกวาดอง โยเกิร์ต กิมจิ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเบียร์ ไวน์แดง ไวน์ขาว ซอสหมักอย่างซอสมะเขือเทศ มายองเนส น้ำพริกตาแดง เต้าเจี้ยว
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ อาจช่วยบรรเทาอาการลมพิษและป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำอีก
- สวมเสื้อผ้าโปร่งสบาย ไม่รัดแน่นเกินไป และระบายอากาศได้ดี
- อาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีที่สัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ เช่น ละอองเกสรดอกไม้ ขนสัตว์
- หลีกเลี่ยงการแกะเกาผิวหนัง เพราะอาจทำให้อาการแย่ลงและลุกลามไปบริเวณอื่นได้
- ประคบเย็นด้วยผ้าชุบน้ำเย็นบิดหมาดประมาณ 2-3 นาที เพื่อบรรเทาอาการบวม คันผิวหนัง
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย