backup og meta
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ถามคุณหมอ
บันทึก

การติดเชื้อราที่ผิวหนัง ปัญหาผิวใกล้ตัว

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย แพทย์หญิงภัทรีวัลย์ โรจนพันธุ์ · โรคผิวหนัง · โรงพยาบาลวิภาวดี



เขียนโดย ทัตพร อิสสรโชติ · แก้ไขล่าสุด 06/03/2023

การติดเชื้อราที่ผิวหนัง ปัญหาผิวใกล้ตัว

การติดเชื้อราที่ผิวหนัง อาจทำให้เกิดผื่นหรือมีอาการคันตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และอาจติดต่อกันได้ เนื่องจากเชื้อราเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่มีอยู่ทั่วไปในอากาศ ในน้ำ และในร่างกายมนุษย์ ควรรักษาความสะอาดและดูแลตนเองอยู่เสมอ นอกจากนั้น เชื้อราบางชนิดอาจเป็นอันตรายและอาจส่งผลให้เกิดโรคผิวหนังที่รุนแรงได้ จึงควรเรียนรู้วิธีป้องกัน ประเภทการติดเชื้อรา และการรักษาเพื่อให้สามารถรับมือกับโรคได้

การติดเชื้อราที่ผิวหนัง

เชื้อราบางชนิดเป็นอันตรายและอาจส่งผลทำให้เกิดการติดเชื้อราที่ผิวหนังซึ่งอาจทำให้เกิดผื่นและอาการคัน อีกทั้งยังติดต่อผ่านการสัมผัสโดยตรงได้ เช่น การยืมรองเท้าหรือเสื้อผ้า เชื้อราอาจสัมผัสกับผิวหนังและทำให้เกิดการติดเชื้อ หรืออาจเกิดจากการติดต่อจากสัตว์สู่คนได้เช่นกัน

ประเภทการติดเชื้อราที่ผิวหนัง

การติดเชื้อราบนผิวหนัง เกิดขึ้นได้ทุกที่ในร่างกาย ซึ่งอาจแบ่งประเภทของการติดเชื้อราที่ผิวหนังได้ ดังนี้

  • โรคน้ำกัดเท้า เป็นชนิดที่พบบ่อยที่สุด มักเกิดจากการเดินเท้าเปล่าในแอ่งน้ำขัง หรือในห้องน้ำสาธารณะ โดยผิวหนังระหว่างนิ้วเท้าจะเริ่มซีดและลอก อีกทั้งเชื้ออาจแพร่กระจายต่อได้
  • เชื้อราที่เล็บ เป็นอาการที่อาจทำให้เล็บเท้าเปลี่ยนสี เล็บเปราะ และแตก ซึ่งมักเกิดขึ้นที่บริเวณเล็บเท้า
  • สังคัง มักเกิดผื่นที่ขาหนีบ มีอาการคัน ส่วนใหญ่พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง
  • กลากที่หนังศีรษะ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในเด็ก และมักทำให้ผมร่วง
  • กลากเกลื้อน เป็นเชื้อราที่อาศัยอยู่ตามเนื้อเยื้อที่ตายแล้ว ผิวหนัง หนังศีรษะ และเล็บ อาจทำให้เกิดอาการคัน มีตุ่ม และผื่นรูปวงแหวน

ปัจจัยเสี่ยง

ปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิด การติดเชื้อบนผิวหนัง ดังนี้

  • ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
  • ใช้ยาปฏิชีวนะระยะยาว
  • มีน้ำหนักเกิน
  • เป็นโรคเบาหวาน
  • เปลี่ยนผลิตภัณฑ์ดูแลผิวชนิดใหม่
  • เหงื่อออกมาก
  • กำลังตั้งครรภ์

อาการ

อาการของผู้ที่ติดเชื้อราในผิวหนัง มักแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับประเภทของ เชื้อรา ซึ่งอาการโดยทั่วไปได้แก่

  • ระคายเคือง
  • ผิวเป็นสะเก็ด
  • มีรอยแดง
  • คัน
  • บวม
  • เกิดแผลพุพอง

ควรพบคุณหมอเมื่อใด

การติดเชื้อราบนผิวหนัง ส่วนใหญ่ไม่รุนแรง แต่ควรพบคุณหมอเมื่อมีอาการ เพื่อจะได้รักษาได้อย่างทันท่วงที โดยเฉพาะอาการเหล่านี้

  • มีผื่นขึ้นทั่วร่างกาย
  • ผื่นเกิดขึ้นอย่างกะทันหันและลุกลามอย่างรวดเร็ว
  • มีอาการเจ็บ พุพอง หรือติดเชื้อ
  • ผื่นเกิดขึ้นพร้อมกับมีไข้

การรักษา 

การรักษา เชื้อราที่ผิวหนัง ได้แก่

  • การใช้ยาต้านเชื้อราชนิดยาใช้ภายนอก เช่น ครีม เจล โลชั่น แชมพู
  • ยาตามใบสั่งแพทย์
  • ยารับประทานหากมีอาการติดเชื้อรุนแรง

ผู้ที่มีอาการเชื้อราที่ผิวหนังควรหมั่นคอยสังเกตอาการตนเองอยู่เสมอ หากอาการรุนแรงขึ้นหลังจากผ่านไป 2 สัปดาห์ ให้รีบพบคุณหมอเพื่อรับการรักษาในขั้นต่อไป

การป้องกัน

เชื้อราที่ผิวหนัง อาจกลับมาเป็นซ้ำได้ เพื่อหยุดการแพร่กระจายและกลับมาเป็นซ้ำ วิธีเหล่านี้อาจช่วยป้องกันได้ ดังนี้

  • ดูแลให้ผิวสะอาดและแห้ง
  • สวมรองเท้าทุกครั้งเมื่ออยู่นอกบ้าน
  • เปลี่ยนถุงเท้าและชุดชั้นในทุกวัน
  • หลีกเลี่ยงการใช้เสื้อผ้าหรือของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น
  • ล้างมือด้วยสบู่ หลังจากเล่นกับสัตว์เลี้ยงและก่อนรับประทานอาหาร
  • ตัดเล็บให้สั้นอยู่เสมอ

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

แพทย์หญิงภัทรีวัลย์ โรจนพันธุ์

โรคผิวหนัง · โรงพยาบาลวิภาวดี



เขียนโดย ทัตพร อิสสรโชติ · แก้ไขล่าสุด 06/03/2023

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา